xs
xsm
sm
md
lg

ชนสยองย่างสด 4 ศพยูเทิร์นมรณะ อบต.คลองนครเนื่องเขต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - เกิดเหตุชนสยองย่างสด 4 ศพ ช่วงยูเทิร์นมรณะ หน้าองค์การองค์การบริหารส่วนตำบลคลองนครเนื่องเขต อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ขณะที่ชาวบ้านต่างพากันก่นด่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ให้การช่วยเหลือล่าช้าจนเกิดการสูญเสีย

ร.ต.ท.อำพล วันดี ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งพุ่งชนรถบรรทุกหกล้อ บริเวณจุดกลับรถด้านหน้าองค์การองค์การบริหารส่วนตำบลคลองนครเนื่องเขต พื้นที่หมู่ 7 ตำบลคลองนครเนื่องเขต อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา โดยเพลิงได้ลุกไหม้รถทั้งสองคัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ในรถซากรถหลายคน จึงเดินทางไปสอบสวน

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบอยู่บนเส้นสาย 304 สุวินทวงศ์ มุ่งหน้าเข้าตัวเมือง บริเวณหลัก กม.ที่ 67 โดยมีรถบรรทุกหกล้อขนาดใหญ่ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 81-5079 ไม่ทราบสี เนื่องจากถูกเพลิงลุกไหม้ สภาพจอดคาช่วงยูเทิร์น โดยด้านท้ายรถปิดขวางช่องทางด้านซ้ายของถนน และคร่อมปิดเลนด้านขวาสุด และที่ใต้ท้องรถด้านหน้าล้อหลัง พบซากรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโรลล่า ไม่ทราบสี หมายเลขทะเบียน กข 2380 พิษณุโลก จอดอยู่ในลักษณะพุ่งชนเข้าไปในใต้ท้องรถเกือบครึ่งคัน

ภายในรถเก๋งยังมีซากศพผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในจำนวน 4 คน โดยพบหลักฐานใบอนุญาตขับขี่ของ พ.ต.ธนุพล ธนภัทรภิทยา ทหารไม่ทราบสังกัด อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 2 ตำบลท่าระหัด อำเภอเมืองสุพรรณบุรีตกอยู่ภายในรถ ส่วนที่เบาะด้านข้างคนขับพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชายไม่ทราบชื่อ

และที่เบาะด้านหลังเป็นหญิงไม่ทราบชื่อ แต่พบกระเป๋าถือสตรีตกอยู่ที่คอนโซลกลางรถ มีหลักฐานเป็นบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่พยาบาล ชื่อ น.ส.มารยาท อ่อนพร้อม อายุ 42 ปี ตำแหน่งพยาบาลหน่วยไตเทียม มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังพบเอกสารอื่นอยู่ในกระเป๋าสตางค์ที่ตกอยู่อีกหลายใบ ประกอบด้วยบัตรประจำตัวประชาชน จ.ส.อ.เฉลิมชัย อ่อนพร้อม อายุ 72 ปี ที่อยู่ 62 หมู่ 2 ตำบลท่าระหัด อำเภอเมืองสุพรรณบุรี และใบขับขี่ของนายอัธยา อ่อนพร้อม อายุ 34 ปี ที่อยู่ 31 หมู่ 1 ตำบลบ้านคลอง อำเภออมืองพิษณุโลก

โดยร้อยเวรเจ้าของคดีกล่าวว่า หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าจากรอยล้อของรถบรรทุกซึ่งบรรทุกเศษเหล็กมาเต็มคัน ได้ขับปาดเข้าช่วงยูเทิร์นจากทางเลนซ้ายคร่อมปิดขวางช่องทางด้านขวาเพื่อตีวงกว้าง ขณะที่รถยนต์เก๋งที่ขับมาด้วยความเร็วสูงในเลนด้านขวาไม่สามารถหยุดรถได้ทัน จึงพุ่งเข้าชนบริเวณถังน้ำมันกลางลำตัวรถบรรทุกจนเกิดประกายไฟ และเกิดการลุกไหม้ขึ้น

และหลังเกิดเหตุ คนขับรถบรรทุกหกล้อได้หลบหนีไป ทราบชื่อจากคนงานที่เดินทางไปรับเศษเหล็กด้วยกันว่าคือ นายเริญ ไม่ทราบนามสกุล พนักงานของบริษัทเดชาสตีล และทราบชื่อเพียงผู้ที่นั่งมาด้วยกันอีก 2 คน คือ นางบุษสบง อินธิจันทร์ ชาวตำบลบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา และนายอนุชิต นพวรรณ์ อายุ 19 ปี ชาวอำเภอพนมสารคาม ซึ่งเป็นพนักงานของโรงงานปั๊มโลหะชิ้นส่วนยานยนต์ในพื้นที่แห่งหนึ่งเท่านั้น

ด้านนายสมัย นิลวิเวก ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังจะเดินทางกลับบ้าน หลังออกมาติดต่อราชการที่องค์การบริหารส่วนตำบลนครเนื่องเขต ได้ยินเสียงรถชนกันดังสนั่นจึงหันกลับไปดู จึงพบว่ามีรถยนต์เก๋งชนติดอยู่กับรถหกล้อบริเวณจุดยูเทิร์น

จากนั้นได้เห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากภายในรถเก๋ง จนเกิดเพลิงลุกไหม้จากบริเวณใต้ท้องรถอย่างรวดเร็ว จนเป็นเหตุให้รถทั้ง 2 คันถูกเพลิงไหม้จนเกรียมท่ามกลางเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่ติดอยู่ภายในรถแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เนื่องจากมีเสียงล้อยางของรถบรรทุกระเบิดอยู่ตลอดเวลา

สำหรับจุดยูเทิร์นกลับรถแห่งนี้ มักเกิดเหตุในลักษณะนี้ขึ้นบ่อยครั้ง ขณะที่การระงับเหตุดังกล่าวยังเป็นไปด้วยความล่าช้า เพราะรถดับเพลิงที่จะเข้ามาทำการควบคุมเพลิงไม่เป็นไปอย่างทันท่วงที ทั้งที่มีองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอยู่ใกล้เคียงหลายแห่ง

“ขณะนี้ ชาวบ้านหลายรายต่างพากันก่นด่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกี่ยวกับสาเหตุที่รถดับเพลิงเข้ามาควบคุมเพลิงอย่างล่าช้า เนื่องจากมัวแต่ไปให้บริการโรงงานผลิตไฟฟ้าแห่งหนึ่งที่กำลังเข้ามาก่อตั้งในพื้นที่ จึงไม่พร้อมให้บริการประชาชนยามฉุกเฉิน”นายสมัยกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น