เชียงราย - ญาติกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงรายที่ประสบอุบัติเหตุตายหมู่ 5 ศพระหว่างกลับจากร่วมชุมนุมกับ นปช. เรียงหน้าประจานซ้ำ ส.ส.เพื่อไทย-อำมาตย์เสื้อแดง ไล่ตั้งแต่ “สมชาย” ลงมา รวมถึง “อำมาตย์เต้น” บอกคนเหนือเรียก “คนวอก” รับปากดิบดีช่วยทั้งเงินรายเดือน-เงินก้อน-สร้างบ้านให้ ฯลฯ สุดท้ายจะให้ พม.จ่ายแค่ 2 พัน
กรณีคนเสื้อแดงเชียงรายที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจำนวน 5 คน หลังไปร่วมการชุมนุมกับแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่กรุงเทพฯ เมื่อต้นปี 2553 ที่ผ่านมา และต่อมาญาติๆ บางส่วนของผู้เสียชีวิตได้ออกมาแสดงความไม่พอใจที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย หรือกลุ่ม นปช. แตกต่างจากผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ที่ได้รับค่าเยียวยานั้น
ล่าสุดบรรดากลุ่มญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ประกอบไปด้วยญาติของนายวุธพงศ์ วงศ์แสง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ที่ 8 ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย, นายอำนาจ เพชรนวล อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 หมู่ที่ 3 ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย, นายดวงจันทร์ ปัญญาเสน อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 11 ต.ดอนศิลา, นายเมืองใจ มณีรัตน์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145/1 หมู่ที่ 20 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย, นายอินตา ปัญญาเสน อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ที่ 11 ต.ดอยศิลา อ.เวียงชัย รวมทั้งนายตา ดอนลาว อยู่บ้านเลขที่ 1116/17 ถนนไกรสรสิทธิ์ อ.เมืองเชียงราย ซึ่งรอดชีวิตเพียงคนเดียวจากอุบัติเหตุดังกล่าว แต่ก็บาดเจ็บแขน-ขาหัก ได้รวมตัวกันเพื่อแสดงหลักฐานข้อมูลหนังสือจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และภาพถ่ายต่างๆ เกี่ยวกับแกนนำพรรคเพื่อไทย-คนเสื้อแดง ที่เคยไปเยียมเยียน
พวกเขาระบุว่า หลังเกิดเหตุถูกทอดทิ้ง และไม่ได้รับการเยียวยาตามที่รับปากกันเอาไว้ ทำให้ต้องอยู่อย่างยากลำบากมาก เพราะส่วนใหญ่ผู้เสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัว และที่ผ่านมาได้รับแค่ค่างานศพครั้งแรกเท่านั้น
นายตากล่าวว่า ตนและพวกทั้งหมดไปร่วมชุมนุมเพราะเราหวังจะให้บ้านเมืองดีขึ้น แต่เมื่อมีการเจ็บ-ตาย กลับถูกระบุว่าไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมจึงไม่ได้รับการช่วยเหลือ โดยตนเคยได้รับค่ารักษาพยาบาลเมื่อครั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ไปเยี่ยม พร้อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำนวน 20,000 บาท จากนั้นก็ไม่มีการช่วยเหลือใดๆ เลย ทุกวันนี้ต้องดามเหล็กทั้งแขนและขา ทำงานไม่ได้
“เสียใจตรงที่คณะที่ไปเยี่ยมเยียนรับปากจะช่วยเหลือญาติของเพื่อนๆ ตนซึ่งเสียชีวิตอย่างดี แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ เลย ทั้งยังส่งสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปเจรจามอบเงินให้หัวละ 2,000 บาทแล้วให้ยุติเรื่องราวกันอีก ถือว่าหน่วยงานนี้เป็นหน่วยหมิ่นประมาทเพราะสบประมาทชาวบ้านมาก ส่วนแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนก็กลับไปทำมาหากินกับคนเสื้อแดงด้วยการเก็บเงินต่างๆ มากมาย”
ด้านนางอนุชน เพชรนวล ภรรยาของนายอำนาจ หนึ่งในผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เดิมสามี และตนมีอาชีพค้าขาย แต่เมื่อเขาเสียชีวิตครอบครัวจึงลำบากมาก เพราะตนก็มีภาระเลี้ยงดูลูกอีก 2 คน สิ่งสำคัญคือ ช่วงพิธีศพซึ่งนายสมชาย (วงศ์สวัสดิ์) และคณะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวมทั้งแกนนำคนเสื้อแดงไปร่วมพิธีได้รับปากพวกตนเสียดิบดีว่าจะช่วยเหลือด้วยเงินรายเดือน สร้างบ้านให้ หรือมีเงินเยียวยา บางคนถึงกับบอกว่าจะมอบเงินให้รายละ 10 ล้านบาท สร้างบ้านให้ แม้แต่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงยังรับปากจะช่วยเหลืออย่างดี แต่จนถึงปัจจุบันก็ไม่มีการช่วยเหลือใดๆ จึงอยากให้คนเหล่านี้และคนเชียงรายรับรู้ด้วย
น.ส.ประกายดาว ปัญญาเสน บุตรสาวของนายอินตา กล่าวว่า หลังเกิดปัญหาพวกตนเดินทางไปสอบถามที่สำนักนายกรัฐมนตรี กลับได้คำตอบที่ไม่ดีมากว่ารายชื่อพวกตนถูกคัดออกหมดนานแล้วเพราะไม่ใช่ผู้เสียชีวิตจากการชุมนุม ทำให้เสียใจมาก เพราะถ้าคัดชื่อออกเหตุใดจึงรับปากเอาไว้ก่อนหน้านี้ รวมทั้งไม่ยอมแจ้งเป็นหนังสือให้ชาวบ้านรู้ด้วย พวกตนต้องพากันเดินทางไปๆ มาๆ เพื่อทวงถามถึงกรุงเทพฯ เสียเงินค่าเดินทางกันมากด้วย ท้ายที่สุดก็มาแจ้งว่าจะมอบเงินให้ 2,000 บาท ซึ่งทำให้ตนเสียใจมาก เพราะดูถูกว่าบิดาตนมีค่าแค่เงิน 2,000 บาทเท่านั้นเองหรือ
น.ส.ประกายดาวกล่าวอีกว่า ก่อนบิดาเสียชีวิตได้แจ้งว่าได้รับบัตร นปช.แล้ว (ตามภาพ) และบิดาแจ้งว่า ถ้าเสียชีวิตให้โทรศัพท์ไปตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุเอาไว้บนบัตร แต่เมื่อตนโทรศัพท์ไปแล้วก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ
น.ส.ศรินยา ปัญญาเสน อายุ 28 ปี บุตรของนายดวงจันทร์ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พวกเราไม่ได้หวังจะได้เงินทองมากมาย แต่เสียใจที่มีการรับปากเอาไว้ และทำให้ชาวบ้านทั่วไปเข้าใจผิดพวกตนว่าได้เงินล้านกันแล้วมีคนไปถามไถ่กันบ่อย ซึ่งพวกตนก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
“คนเหนือเขาเรียกคนที่มีพฤติกรรมพูดรับปากแล้วไม่ทำตามที่พูดว่า คนวอก ตนจึงอยากให้สังคมได้รับรู้ไว้ด้วย”
ด้านนายเด่นขวัญ มณีรัตน์ บุตรนายเมืองใจ กล่าวว่า เดิมบิดาตนขายลูกชิ้นกับมารดา แต่เมื่อบิดาตายทำให้มารดาลำบากมากเพราะสายตาก็ไม่ดี ส่วนตนก็ต้องเลี้ยงดูภรรยาและลูกอีก 2 คน หากว่าไม่มีการรับปากใดๆ พวกตนคงไม่เดือดร้อนใจเท่านี้ และหากว่าบิดาตนไปประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตด้วยเรื่องอื่นที่ไม่ใช่ไปชุมนุม ตนไม่เสียใจเท่านี้
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
1.ญาติเสื้อแดงโวย “แม้ว- เพื่อไทย” ทิ้ง รับปากตายได้ล้าน สุดท้ายให้ พม.จ่าย 2 พัน