ผวา! อ่างเก็บน้ำบ้านเก่าแตก ผู้ว่าฯ กาญจน์รุดดูสถานการณ์

กาญจนบุรี - ผวา! อ่างเก็บน้ำบ้านเก่า ในเมืองกาญจนบุรี แตก ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี นำคณะรุดดูสถานการณ์ ส่วนอีกด้าน อ่างเก็บน้ำห้วยแห้งวิกฤต หลังน้ำหลากล้นสปริงเวย์พัดบ้านหายไป 3 หลัง ขณะที่น้ำ “แม่กลอง” น้ำไหลแรง เร่งย้ายแพหนีน้ำจากลำภาชี ทะลักสมทบ

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีฝนตกน้ำท่วมพื้นที่ ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (10 ต.ค.) นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้ายนายธนา บุษปวนิช นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปที่บริเวณสะพานลำทหารหมู่ 5 เมื่อไปถึงพบกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจาก ร.9 พัน 1 ช่วยกันฟื้นฟูภายในแม่น้ำเพื่อตัด และเก็บต้นไม้ และกิ่งไม้ที่ล้มทับขวางทางแม่น้ำ

จากนั้น คณะของผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีได้เดินทางไปที่อ่างเก็บน้ำเหมืองแร่จรินทร์ หมู่ 2 บ้านห้วยน้ำขาว ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำในความดูแลของกรมชลประทานที่สร้างให้แก่ประชาชนใช้เป็นแหล่งผลิตน้ำประปาชุมชน ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ชลประทานที่รับผิดชอบ ทราบว่า อ่างเก็บน้ำสามารถกักเก็บน้ำได้ทั้งสิ้น 5 แสน ลบ.ม. ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำได้เอ่อล้นสปริงเวย์ และสันอ่างบางจุดน้ำได้ไหลทะลักออกมาแล้วเช่นกัน ซึ่งถ้าหากคืนนี้ฝนไม่ตกลงมาก็จะไม่เกิดอันตรายแต่อย่างใด แต่ถ้าหากฝนตกลงมาภายในคืนนี้ก็จะทำให้น้ำเอ่อล้นทันที และชาวบ้านจะได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน

หลังจากตรวจสอบ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากคณะผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี สำรวจแล้วเสร็จจึงเดินทางไปมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ ซึ่งมีประชาชนจาก 2 หมู่บ้านจำนวน 35 ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ

นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่กาญจนบุรีว่า ตอนนี้นี้ระดับน้ำลดลงมากทั้งในพื้นที่ อ.ด่านมะขามเตี้ย และในพื้นที่ ต.บ้านเก่า ระดับน้ำลดลง แต่ก็ยังไม่สามารถประมาทได้ต้องเฝ้าระวังต่อไป เพราะหากเกิดมีฝนตกอีกก็จะทำให้เกิดน้ำสะสมในพื้นที่เหล่านี้อีกมาก ในส่วนของที่บ้านลำทหาร ต.บ้านเก่า ที่ขณะนี้กำลังทหารช่างจากกองพลทหารราบที่ 9 กำลังเร่งเคลื่อนย้ายกอไผ่ขนาดใหญ่ 3 กอที่ถูกน้ำพัดมาขวางทางน้ำอยู่ โดยจะใช้เวลาในการเคลื่อนย้ายพอสมควร และหากสามารถย้ายเสร็จสิ้นก็จะทำให้น้ำสามารถไหลได้สะดวกมากขึ้น

ส่วนในพื้นที่ บ้านใหม่ห้วยน้ำขาว หมู่ 15 ต.บ้านเก่า ที่เป็นที่ตั้งของอ่างเก็บน้ำห้วยแห้ง ของกรมชลประทานที่ขณะนี้ยังอยู่ในภาวะวิกฤต ระดับน้ำยังล้นสปริงเวย์ อยู่หลังจากที่ก่อนหน้านี้ น้ำป่าไหลบ่าเข่าอ่างเก็บน้ำและล้นสปริงเวย์จำนวนมากทำให้บ้านเรือนชาวบ้านถูกพัดหายไป 3 หลัง

โดยนายรินทร์ ภูบาล อายุ 55 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 15 ต.บ้านเก่า ได้นำสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางไปสำรวจอ่างเก็บน้ำเขาแดน ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในพื้นที่ อบต.บ้านเก่า และตั้งอยู่แนวเชิงเขาตะนาวศรี ที่เป็นเขตติดต่อระหว่างแนวชายแดนไทยพม่า ซึ่งการเดินทางต้องใช้รถยนต์โฟร์วีลท่านั้นจึงจะเดินทางไปได้เนื่องจากตลอดเส้นทางเป็นทางที่คับแคบสูง และลาดชัน

เมื่อไปถึงสันอ่างเก็บน้ำดังกล่าวพบว่า บริเวณข้างสันอ่างด้านซ้ายมีร่องรอยของปริมาณน้ำที่เอ่อล้นออกมาซึ่งกระแสน้ำไหลเชี่ยวมาก เนื่องจากพบว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มจำนวนหลายต้น สำหรับบริเวณสปริงเวย์พบว่ามีปริมาณน้ำไหลเข้าเป็นจำนวนมาก และรุนแรงอีกด้วย ซึ่งระดับน้ำจากผิวน้ำถึงสันอ่างเก็บน้ำเหลือไม่มากนัก หากฝนตกลงมาอีกคาดว่าปริมาณน้ำจะเอ่อล้นสปริงเวย์อย่างแน่นอน รวมทั้งบริเวณด้านซ้ายของสันอ่างก็จะเอ่อล้น และกระแสน้ำจะไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และเข้าท่วมพื้นที่หมู่บ้านทั้งหมดจำนวน 6 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ 5-6-7-9-14 และหมู่ 15

นายรินทร์ กล่าวว่า หลังจากฝนตกติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ตำบลบ้านเก่าหลายหมู่บ้าน ทั้งนี้ ในพื้นที่มีอ่างเก็บน้ำอยู่ 3 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำทุ่งศาลา ตั้งอยู่หมู่ 6 อ่างเก็บน้ำเหมืองจรินทร์ ตั้งอยู่หมู่ 2 และอ่างเก็บน้ำเขาแดน ตั้งอยู่หมู่ 15 สำหรับอ่างเก็บน้ำที่มีอยู่ตนเป็นห่วงที่สุดก็คือ อ่างเก็บน้ำเขาแดนที่หมู่ 15 เพราะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มาก และตั้งอยู่บนที่สูง และยังรับน้ำป่าที่ไหลาลงมาจากเทือกเขาตะนาวศรี หากมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นในคืนนี้ประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมชาวบ้านได้จัดเวรยามในการเฝ้าระวังภัยในช่วงกลางคืนทุกวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อย และแม่น้ำแควใหญ่มีระดับสูงขึ้นกว่าปกติประมาณ 30 ซม. โดยเมื่อน้ำทั้ง 2 สายมาบรรจบที่บริเวณบ้านล้นช้าง หมู่ 1 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี รวมเป็นแม่น้ำแม่กลอง กระแสน้ำไหลเชี่ยวและมีระดับน้ำเอ่อสูงล้นริมตลิ่งเริ่มเข้าสู่ถนนสองแควเลียบริมน้ำหน้าเมือง ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่น้ำท่วมใหญ่คล้ายกับน้ำท่วมในปี 2539 โดยขณะนี้ ผู้ประกอบการชาวเรือชาวแพ และแพอาหารที่ตั้งอยู่ริมน้ำหน้าเมืองต่างเร่งเคลื่อนย้ายแพล่องไปหลบกระแสน้ำที่แรงมากในบริเวณปากคลองข้างสวนสมเด็จพระญาณสังวร ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี

มีรายงานข่าวว่า ในเวลา 17.00 น.ก้อนน้ำจากลำภาชีก้อนใหญ่จะไหลมาตามแม่น้ำแควน้อยมาถึงจุดบรรจบแม่น้ำแควใหญ่ที่บ้านลิ้นช้าง ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำ และความเชี่ยวกรากของน้ำในแม่น้ำแม่กลองจะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น