บุรีรัมย์ - ชาวบ้าน และคนชรา อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ เหยื่อหมอฟันเถื่อนหลอกใส่ฟันปลอมทยอยเข้า รพ.ตรวจรักษาและถอนฟันทิ้ง หลังเกิดอาการอักเสบเป็นหนอง ขณะ สสจ.สั่งให้สาธารณสุขอำเภอ-รพ.ทุกแห่งเร่งประกาศเตือน ปชช.เฝ้าระวังหวั่นตกเป็นเหยื่อซ้ำ ด้าน ตร.เตรียมออกหมายจับ “หมอเถื่อน” ตามหลักฐานภาพถ่ายเป็นชายอายุราว 40 ปี ระบุทราบเบาะแสแล้ว คาดรวบได้เร็วๆ นี้
วันนี้ (9 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชีวี เชื้อมาก สาธารณสุขอำเภอหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ พร้อม อสม.ประจำหมู่บ้าน ต.ห้วยหิน อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ได้พาชาวบ้าน และผู้สูงอายุที่ตกเป็นเหยื่อหมอฟันเถื่อน ที่ออกตระเวนตามหมู่บ้านหลอกใส่ฟันปลอมเสียค่าใช่จ่ายรายละ 3,000-4,000 บาท จนเกิดอาการเหงือกอักเสบ บวม และเป็นหนองในช่องปากกว่า 10 รายทยอยเข้ารับการตรวจรักษาเหงือกและฟันกับทันตแพทย์ที่โรงพยาบาลหนองหงส์ อ.หนองหงส์ แล้ว โดยเกือบทุกรายยอมให้ทันตแพทย์ถอนฟันปลอมทิ้งเพราะเกรงว่าจะเกิดอาการอักเสบติดเชื้อรุนแรงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
กรณีดังกล่าว ทางสาธารณสุขอำเภอหนองหงส์ และประชาชน ผู้สูงอายุที่เสียหาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองหงส์ เพื่อดำเนินคดีเอาผิดหมอฟันเถื่อนแล้ว เมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) ในข้อหา “ประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน นพ.สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บุรีรัมย์ ได้สั่งการให้สาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง พร้อมด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้ออกให้ความรู้และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เฝ้าระวังอย่าไปหลงเชื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวที่แอบอ้างเป็นหมอฟันออกตระเวนหลอกใส่ฟันปลอมในหมู่บ้าน หากพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุมทันที
ขณะที่ พ.ต.อ.โรมรัน จินดานุภาพ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.หนองหงส์ กล่าวว่า ได้มีการตั้งชุดสืบสวนสอบสวนออกติดตามจับกุมตัวหมอฟันเถื่อน เป็นชายรูปร่างท้วม อายุประมาณ 40 ปี ตามรูปถ่ายและหลักฐานที่ได้จากทางสาธารณสุขอำเภอหนองหงส์ และชาวบ้านนำมาแจ้งความไว้ และเตรียมขอศาลอนุมัติออกหมายจับชายในภาพถ่ายคนดังกล่าวต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากชาวบ้านคนไหนถูกหมอฟันเถื่อนรายนี้หลอกใส่ฟันปลอมแล้วได้รับความเสียหาย สามารถมาแจ้งความเพิ่มเติมได้ หรือมีภาพถ่ายและข้อมูลของหมอฟันเถื่อนกลุ่มนี้ให้มาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอดเวลาเพื่อเป็นหลักฐานเอาผิด ซึ่งขณะนี้ทราบเบาะแสของผู้กระทำผิดแล้ว คาดว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ในเร็วๆ นี้