ลำปาง - ชาวบ้านอำเภอแม่เมาะร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือซ่อมแซมถนนที่เชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้าน เหตุหลังฝนตกหนักถนนระยะทางกว่า 3 กม.มีแต่โคลนตม รถยนต์และจักรยานยนต์ต้องขนพืชไร่เข้าตัวเมืองอย่างยากลำบาก
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปางแจ้งว่า ชาวบ้านในอำเภอแม่เมาะร้องขอหน่วยงานช่วยซ่อมถนนเชื่อมหมู่บ้านระยะทางร่วม 3 กิโลเมตร (กม.) หลังฝนตกถนนเป็นหลุมบ่อโคลน เละตัวแทนชาวบ้านใน ต.จางหนือ และใกล้เคียงที่ใช้ถนนเส้นทางเชื่อมระหว่าง อ.แม่เมาะ และ อ.งาว จ.ลำปาง ระยะทางกว่า 3 กม. ร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อ
หลังต้องทนทุกข์กับสภาพถนนที่เป็นหลุมบ่อโคลนหลังเกิดฝนตกหนัก ทำให้ถนนเส้นทางดังกล่าวได้รับความเสียหายจนแทบไม่เหลือสภาพถนนซึ่งเป็นดินลูกรังและมียวดยานพาหนะของชาวบ้านทั้งรถเล็กรถใหญ่ รวมถึงรถบรรทุกใช้เส้นทางสายนี้สัญจรไปมาเป็นประจำ จึงทำให้เกิดเป็นหลุมเล็กหลุมใหญ่ตลอดเส้นทาง จนรถเล็กแทบจะสัญจรไปมาไม่ได้และติดหล่ม
นายประจญ ไชยแก้ว นายก อบต.จางเหนือ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เผยว่า เส้นทางสายดังกล่าวที่ตัดผ่านป่าจาก ต.จางเหนือไปยังพื้นที่ ต.แม่ตีบของ อ.งาว จ.ลำปาง ระยะทางประมาณ 7 กม. ซึ่งพี่น้องประชาชนทั้งสองพื้นที่ใช้ติดต่อไปมาหาสู่กัน โดยเฉพาะชาวบ้านจากพื้นที่ อ.แม่เมาะบางส่วนที่ใช้เดินทางไปตัวอำเภองาว จ.ลำปาง ผ่านไปยัง จ.พะเยา และ จ.แพร่ เนื่องจากพื้นที่อยู่ใกล้กว่าประมาณ 15 กม. แต่ถ้าเดินทางมาตัวเมืองจังหวัดลำปางจะใช้ระยะทางอ้อมประมาณ 60 กม.
อีกทั้งถนนสายดังกล่าวนั้นเป็นถนนที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ใช้ขนส่งสินค้าทางการเกษตร พืชไร่ ข้าวโพด ถั่ว มันสำปะหลัง ข้าว และปุ๋ย หรืออุปกรณ์ทางการเกษตรและเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันตลอดปีไม่มีเว้น ที่ผ่านมาตนได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตลอดมา และได้ร้องไปยังหน่วยงาน ซึ่งก็เคยนำดินลูกรังมาถมแต่ก็ใช้งานได้เพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น
ประกอบกับขณะนี้เกิดฝนตกติดต่อกัน ทำให้ถนนดังกล่าวระยะทางยาวกว่า 3 กม.เป็นหลุมเป็นบ่อดินโคลนเพิ่มขึ้น ทำให้การสัญจรไปมาลำบากมาก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์บางคันต้องจมในโคลนก็มี
ที่ผ่านมาประสานไปยัง อบจ.แต่ก็ยังไม่ได้รับการดูแล ซึ่งทางหลวงชนบทเองก็เคยนำช่างมาสำรวจและรับปากว่าจะทำเป็นถนนลาดยาง แต่ปรากฏว่าจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครเข้ามาดำเนินการแต่อย่างใด ทาง อบต.ก็ได้แต่เพียงนำรถไถมาปรับผิวถนนเป็นครั้งๆ เท่านั้นซึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนัก
ดังนั้น จึงขอฝากไปถึงผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบเข้ามาดูแลด้วย เพราะชาวบ้านเดือดร้อนมาก ลำพังงบประมาณของ อบต.ก็ไม่เพียงพออยู่แล้ว