สระบุรี - เกิดเหตุรถบรรทุกน้ำมันเฉี่ยวชนพ่วง 18 ล้อพลิกคว่ำไฟลุกวอดทั้ง 2 คัน คลอกโชเฟอร์พ่วงดำเป็นตอตะโก บนถนนพหลโยธิน อำเภอหนองแค ฝั่งขาเข้าตัวเมืองสระบุรี การจราจรติดยาว
เมื่อเวลา 07.45 น. วันนี้ (4 ต.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.หนองแค จ.สระบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถชนกันแล้วเกิดไฟลุกไหม้ทั้ง 2 คัน บนถนนพหลโยธินระหว่างหลัก กม.ที่ 84-85 ท้องที่ ม.5 ต.ไผ่ต่ำ อ.หนองแค ฝั่งขาเข้าตัวเมืองสระบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลหนองแค และใกล้เคียง จำนวน 8 คัน
ในที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังลุกไหม้รถบรรทุกน้ำมันยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 70-5343 ปทุมธานี อย่างรุนแรงท่ามกลางกลุ่มควัน และเสียงระเบิดเป็นระยะๆ ที่พลิกคว่ำอยู่ในเลนคู่ขนาน
ใกล้กันไฟได้ลุกไหม้รถบรรทุกพ่วงยี่ห้อนิสสัน ยูดี ทะเบียนส่วนตัวแม่ทะเบียน 85-0131 นครปฐม ส่วนพ่วง ทะเบียน 83-4819 นครปฐม ของบริษัทเจียมโชติวัฒน์ ลุกโชติช่วงเช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่ต่างช่วยกันฉีดน้ำดับเพลิง แต่ด้วยเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อฉีดน้ำข้าใส่กลับทำให้เพลิงลุกไหม้เพิ่มมากขึ้น จึงได้ประสานขอรถดับเพลิง (โฟม) จากเทศบาลเมืองสระบุรีไปช่วยเหลือใช้เวลานานกว่า 1.30 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ขณะเกิดเหตุต้องปิดการจราจรในฝั่งขาขึ้นเข้าตัวเมืองสระบุรีอย่างเด็ดขาด ทำให้การจราจรติดขัดยาวหลาย กม.
หลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบศพนายนรินทร์ วรรณบุตร อายุ 23 ปี อยู่เลขที่ 99 ม.1 ต.ทรัพย์จำปา อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี คนขับรถพ่วงถูกไฟคลอกดำเป็นตอตะโกอยู่ในที่นั่งคนขับ
ส่วนคนขับรถบรรทุกน้ำมันมีพลเมืองดีนำส่ง รพ.หนองแค ก่อนแล้ว ถูกไฟลวกตามร่างกายได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ศูนย์สระบุรี ทราบชื่อต่อมาว่า นายบัญชา ทองไทย อายุ 30 ปี อยู่เลขที่ 189 ม.9 ต.บ้านโคก อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายนรินทร์ คนขับรถพ่วง ได้นำรถจาก จ.นครปฐม จะมาบรรทุกหินที่ ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ไปส่งที่ย่านพระราม 9 ใน กทม.แต่ได้มาจอดพักผ่อนโดยจอดรถในที่เกิดเหตุ ได้มีรถบรรทุกน้ำมันที่มีนายบัญชา เป็นคนขับได้พุ่งเข้าชนส่วนพ่วงด้านขวาอย่างจัง ทำให้ตัวพ่วงหันเข้าไปข้างทาง ส่วนรถบรรทุกน้ำมันเสียหลักพลิกคว่ำทำให้เกิดประกายไฟน้ำมันเบนซินกว่า 2 หมื่นลิตรที่บรรทุกมารั่วไหลไฟลุกไหม้ขึ้นเผาผลาญรถทั้งสองคันเหลือแต่ซาก
ส่วนนายนรินทร์ หนีออกมาไม่ทันถูกไฟคลอกดำเป็นตอตะโกเสียชีวิตอย่างน่าอนาถดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้อายัดตัวนายบัญชา ไว้ดำเนินคดีในข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
