ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตร.แหลมฉบัง จับแก๊งปล้นรถน้ำมันขณะออกจากโรงกลั่นน้ำมันเพื่อส่งปั๊มน้ำมัน ได้ยกแก๊ง พร้อมรับสารภาพร่วมมือกับพนักงานขับรถของบริษัท ก่อเหตุครั้งนี้ จากนั้นนำน้ำมันที่ขโมยไปขายและแบ่งเงิน ก่อนแยกย้ายกลับบ้าน จนมาถูกจับกุมโดยไม่คิดว่าจะถูกหักหลัง
วันนี้ (26 ก.ย.55) พ.ต.อ.จรัณฐค์ วรพัฒนานันน์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อม พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพียวพนิช ผกก.สภ.แหลมฉบัง ร่วมกันแถลงข่าวพร้อมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ การจับกุมแก๊งปล้นรถบรรทุกน้ำมัน ประกอบด้วย 1.นายบัญชา สุดสงวน อายุ 29 ปี 2.นายอัธยา แว่นทอง อายุ 29 ปี 3.นายอิด ศุภราช อายุ 33 ปี 4.นายสุทิน ศรีสมุด อายุ 35 ปี นอกจากนั้นยังสามารถจับกุมนายทรัพย์ เฉลยศักดิ์ คอกรับซื้อน้ำมันเถื่อนที่รับซื้อน้ำมันที่ได้จากการปล้นในครั้งนี้ด้วย
โดยได้รับแจ้งความจาก นายอนันต์ กมลสูงสุด พนักงานขับรถบรรทุกน้ำมันจากโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ เพื่อนำไปส่งลูกค้า โดยเหตุการณ์ดักงล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา โดนในวันเกิดเหตุบริเวณสามแยกหน้าโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ม.2 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีคนร้ายประมาณ 4-5 คน ก่อเหตุปล้นรถขนน้ำมันของบริษัท กู๊ดทีม จำกัด ซึ่งมีนายอนันต์ กมลสูงสุด และนายสากล นันตะบุตร พนักงานขับรถน้ำมัน ได้ขับรถคันหมายเลขทะเบียน 77- 5590 หัว และหางหมายเลข 77-5971 สีขาว-ดำ กทม. ออกจากโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา เพื่อจะนำน้ำมันไปส่งให้ลูกค้า และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ มีกลุ่มคนร้ายแต่งกายคล้ายพนักงานของบริษัทเดียวกัน ขับรถจักรยานยนต์มาปาดหน้าให้จอด
จากนั้นได้ปีนขึ้นรถและเข้าทำร้ายร่างกายนายอนันต์และนายสากล พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือไป จากนั้นได้จับทั้ง 2 คน มัดมือเอาผ้าคลุมหัว และตัดสัญญาณ GPS แล้วขับรถน้ำมันไปถึงบริเวณที่เปลี่ยว และทำการดูดน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินออกไปประมาณ 10,000 ลิตร มูลค่า 300,000 บาท จากนั้นได้ทิ้งรถพากันหลบหนีไปหลังเหตุการณ์เกิดขึ้นนายอนันต์ กมลสูงสุด อายุ 41 ปี และนายสากล นันตะบุตร อายุ 45 ปี พนักงานขับรถน้ำมัน ได้แก้มัดและหนีมาแจ้งความที่ สภ.แหลมฉบัง
ด้านนายบัญชา สุดสงวน หัวหน้าแก๊งให้การรับสารภาพว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นการปล้น แต่เป็นการร่วมมือกับพนักงานของบริษัท เพื่อขโมยน้ำมันไปขายเพราะก่อนลงมือทำงานในครั้งนี้ คนขับรถคือ นายอนันต์ กมลสูงสุด ได้มานั่งกินเหล้ากับพวกตนเป็นเวลา 3 วัน โดยนัดหมายการปฏิบัติงานในครั้งนี้ เพราะหากไม่ร่วมมือกันแล้ว ไม่สามารถจะขึ้นรถคันดังกล่าวได้
เมื่อขโมยรถน้ำมันได้แล้ว ก็ขับไปยังเส้นทางสาย 7 ตอน 2 เพื่อหาแหล่งรับซื้อน้ำมันดังกล่าว โดยได้ไปขายที่คอกน้ำมันเถื่อนบริเวณร้านแม่กิมบ๊วย ซึ่งได้เงินมาทั้งสิ้น 75,000 บาท โดยแบ่งกันคนละ 15,000 บาท ส่วนนายอนันต์ คนขับรถน้ำมันได้เงินไป 20,000 บาทและหลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับที่พักโดยไม่ได้หลบหนี เนื่องจากนายอนันต์ ได้บอกกับพวกตนว่า เคลียร์ปัญหาต่างๆแล้ว จนมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์รพี กล่าวถึงกรณีที่ผู้ต้องหากล่าวพาดพิงถึงนายอนันต์ กมลสูงสุด อายุ 41 ปีคนขับรถน้ำมันว่าเป็นผู้วางแผนร่วมมือกันปล้นรถน้ำมันในครั้งนี้ โดยเบื้องต้นจะต้องเรียกนายอนันต์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม และหากอยู่ในขบวนการด้วยก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายตามกฎหมายต่อไป