ศูนย์ข่าวศรีราชา - Sugar Hut Resort รีสอร์ต และร้านอาหารที่ชูจุดขายด้านการอนุรักษ์ความเป็นไทยแห่งแรกในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ทุ่มงบอีก 12 ล้านปรับปรุงรูปแบบงานบริการ และพัฒนาเรือนไทยให้มีความทันสมัยรองรับการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น
นายแพทย์สัญญา วีระไวทยะ ประธานกรรมการผู้จัดการ และ CEO บริษัท ชูการ์ฮัท จำกัด ผู้บริหาร Sugar Hut Resort ซึ่งเปิดดำเนินงานในรูปแบบร้านอาหาร และบังกะโลเรือนไทยในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี มาตั้งแต่ปี 2527 เผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณในการปรับปรุง และสร้างจุดขายความเป็นรีสอร์ต และร้านอาหารที่อนุรักษ์ความเป็นไทยมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มีกลุ่มลูกค้าประจำทั้งชาวไทย และต่างชาติที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และสัมผัสกับบรรยากาศความเป็นไทยในเมืองท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายอย่างพัทยาแล้ว
การเกิดใหม่ของโรงแรม และที่พักที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ทำให้ในวันนี้ Sugar Hut Resort ต้องมีการปรับเปลี่ยน และพัฒนางานบริการใทันสมัยเพื่อให้สอดคล้องกับการแข่งขันทางธุรกิจ แต่ยังคงไว้ซึ่งจุดขายความเป็นไทย
โดยในปี 2555 บริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณอีก 12 ล้านบาท ในการเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งด้านจุดขายที่มีมูลค่าในตัวเอง ด้วยการจัดทำตู้อบเซาน่ากระจกเพื่อจัดตั้งกลางแจ้ง รองรับกลุ่มลูกค้าประจำซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่สนใจเรื่องการดูแลสุขภาพ และปรับจำนวนบังกะโลเป็น 28 หลัง
นอกจากนั้น ยังตอกย้ำจุดขายความเป็นไทย ด้วยรสชาติอาหารไทยแท้แบบดั้งเดิมที่เปิดให้บริการในร้านอาหารไทย ควบคู่การเป็นสถานที่ที่โดดเด่นเพื่อการอนุรักษ์ และสืบสานเอกลักษณ์ความเป็นไทยท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์
“การลงทุนของเราในครั้งนี้ถือว่าไม่มาก เพราะส่วนใหญ่เรามีของเดิมอยู่แล้ว ทั้งตัวบ้านเรือนไทย และไม้ที่เราใช้ทำส่วนต่างๆ ของรีสอร์ต ที่เราได้นำมาปรับปรุง และประยุกต์ใหม่เพื่อให้เกิดความทันสมัยแต่คงความเป็นไทยมากขึ้น จุดประสงค์สำคัญก็เพื่อดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพให้กลับเข้ามาในพัทยา หลังจากที่ผ่านมาพัทยาเสื่อมโทรมลงมากจากการมีสิ่งไม่ดีต่างๆ เกิดขึ้น ทำให้ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวที่เหลืออยู่เป็นเพียงนักท่องเที่ยวระดับ 1 ดาว ซึ่งการสร้างจุดขายความเป็นไทยแท้ จะทำให้กลุ่มผู้รัก และอนุรักษ์ธรรมชาติกลับเข้ามาในพัทยามากขึ้น ทั้งกลุ่มคนไทย และต่างชาติ”
ทั้งนี้ ในปี 2557 Sugar Hut Resort เปิดตัวในเมืองพัทยาในรูปแบบร้านอาหารทรงไทย 3 ศาลา และบังกะโล 12 หลังติดหาดจอมเทียน ภายใต้งบดำเนินการ 4 ล้านบาท ด้วยการร่วมทุนระหว่างนายแพทย์สัญญา วีระไวทยะ และกลุ่มเพื่อน โดยใช้ชื่อบริษัทโลตัสฮอลิเดย์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินงาน และได้ขยายเพิ่มเป็น 30 หลังในปี 2529 ในลักษณะรีสอร์ตแห่งแรกในเมืองพัทยา ที่นำศิลปวัฒนธรรมแบบไทยโบราณแท้เป็นจุดขาย
และในปี 2533 ได้ย้ายรีสอร์ตจากบริเวณหาดจอมเทียน มายังเขาน้อย และใช้ช่างจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาก่อสร้างร้านอาหารทรงไทย และศาลาใหญ่บรรจุคนได้ 200 ที่นั่ง รวมทั้งบังกะโลอีก 33 หลัง ด้วยสไตล์การตกแต่งแบบไทยแท้ ประกอบด้วยไม้แทนเสื่อรำแพน ทั้งในส่วนตัวเรือน ห้องนอน และห้องน้ำ ที่เน้นเอกลักษณ์ความเป็นไทยผสมผสานความสวยงาม และความร่มรื่นทางธรรมชาติ พร้อมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 3 สระ
ขณะที่ในปี 2547 ได้เพิ่มจุดขายงานบริการด้วยการพัฒนารีสอร์ตที่มีอยู่ให้เป็นสถานที่สำหรับรองรับ และบำบัดคนไข้ในรูปแบบธรรมชาติบำบัด แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร กระทั่งมีการปรับรูปแบบการดำเนินงานอีกครั้งในปี 2555 ซึ่งคาดว่าการรีโนเวตในครั้งนี้จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤศจิกายน และอาจมีการปรับราคาค่าบริการเพื่อให้ทันกับค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ ที่เพิ่มสูงขึ้นในปี 2556
