ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “อุทยานฯ ทับลาน” เดินหน้ายุทธการเชือดนายทุนฮุบป่าทับลาน เผยแจ้งจับดำเนินคดีแล้ว 420 ราย รวมเนื้อที่ 8,798 ไร่ สิ่งปลูกสร้าง 2,420 รายการ และใช้อำนาจ ม.22 พ.ร.บ.อุทยานฯ เข้ารื้อถอน 49 ราย ในจำนวนนี้ 22 รายโร่ร้องศาลปกครองจึงชะลอเพื่อรอการพิจารณาของศาล ระบุจ่อรื้ออีก 151 รายในล็อต 2 ส่วนล็อต 3 จำนวน 130 ราย เร่งขออนุมัติกรมฯ ใช้อำนาจรื้อทิ้งต่อไป เผยพรุ่งนี้ “ดำรงค์” บินตรวจผืนป่า พร้อมอำลาชีวิตราชการ
วันนี้ (27 ก.ย.) นายนุวรรต ลีลาพตะ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (28 ก.ย.) นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีกำหนดเดินทางมาตรวจเยี่ยมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการต่อผู้บุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน พื้นที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี, อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และถือโอกาสอำลาตำแหน่งชีวิตราชการ โดยทางอุทยานฯ ทับลานได้เตรียมข้อมูลผลการดำเนินงานที่ผ่านมาทั้งหมดเพื่อรายงานให้ทราบที่ห้องประชุมที่ทำการอุทยานฯ ทับลาน
จากนั้นอธิบดีกรมอุทยานฯ และคณะจะนั่งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจผืนป่าอุทยานแห่งชาติทับลานทั้งหมด เพื่อดูสภาพป่า และการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่บุกรุกป่าอุทยานฯ แต่คงไม่ลงตรวจพื้นที่เนื่องจากมีเวลาค่อนข้างน้อย แต่อาจเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนด้วย
นายนุวรรตกล่าวต่อว่า สำหรับยุทธการทวงคืนผืนป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปี 2555 ล่าสุดได้ดำเนินการจับกุมและฟ้องร้องดำเนินคดีผู้บุกรุกป่าอุทยานฯ ทับลานแล้วรวม 420 คดี รวมเนื้อที่ 8,798 ไร่ สิ่งปลูกสร้าง 2,420 รายการ และทางอุทยานฯ ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฯ สั่งให้รื้อถอนจำนวน 49 ราย รวมเนื้อที่ 3,235 ไร่ สิ่งปลูกสร้าง 253 รายการ
ทั้งนี้ ในจำนวน 49 รายนั้น ทางอุทยานฯ ได้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและเจ้าของแจ้งรื้อถอนเองรวม 27 ราย และในจำนวนนี้มี 9 รายที่ยังรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไม่หมด ทางอุทยานฯ ได้แจ้งให้กรมอุทยานฯ ประเมินราคาเพื่อจ้างเอกชนเข้ามาทำการรื้อถอน ซึ่งทางกรมอุทยานฯ ได้ตอบกลับมาแล้วรวมค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ต 8 แห่งประมาณ 2-3 ล้านบาท ราคานี้ไม่รวมค่าขนส่งวัสดุออกนอกเขตอุทยาน ส่วนอีก 1 แห่งคือทะเลหมอกรีสอร์ต อยู่ระหว่างการประเมินราคา โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดเจ้าของรีสอร์ตจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
สำหรับบ้านพักตากอากาศและรีสอร์ตอีก 22 แห่งนั้นมีรีสอร์ตรายใหญ่รวมอยู่ในจำนวน 22 รายนี้ด้วย เช่น ผางามรีสอร์ต ตั้งอยู่เขตรอยต่อระหว่าง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา กับ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี, อิมภูฮิลล์ และไร่กฤษวรรณ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เจ้าของได้มีการร้องต่อศาลปกครองจังหวัดนครราชสีมาเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ทางอุทยานฯ ทับลานจึงยังไม่ดำเนินการต่อกลุ่มนี้จนกว่าศาลจะมีความเห็น คาดว่าศาลใช้เวลาไม่นานในการพิจารณา
นายนุวรรตกล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินการต่อผู้บุกรุกในล็อตที่ 2 ซึ่งเข้าทำการจับกุมและแจ้งความดำเนินคดีไปเมื่อเดือน ม.ค. 2555 รวม 151 ราย อยู่ในพื้นที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี รวม 12 ราย ส่วนอีก 139 รายอยู่ในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมานั้น ขณะนี้ทางอุทยานฯ เตรียมเข้าไปติดป้ายให้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการภายใน 1-2 เดือนนี้
ขณะที่ล็อตที่ 3 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการจับกุมแจ้งความดำเนินคดีไปเมื่อเดือน เม.ย. 2555 รวม 130 ราย ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมานั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติจากกรมอุทยานฯ ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฯ เพื่อเข้าไปดำเนินการต่อผู้ประกอบการทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีอีก 2-3 รายที่ตกหล่น ซึ่งมีนายทุนรายใหญ่รวมอยู่ด้วย เป็นเป้าหมายที่จะดำเนินการจับกุมต่อไป
“ทางอุทยานฯ ทับลานเอาจริงกับกลุ่มผู้บุกรุก และยังคงเดินหน้ายุทธการทวงคืนผืนป่าอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าอธิบดีกรมอุทยานฯ คนใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่งคงเดินหน้าในการทวงคืนผืนป่าต่อไป ส่วนจะมีการปรับแผนการรื้อถอนอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ท่าน แต่เชื่อว่าจะสานต่อนโยบายนี้แน่นอน” นายนุวรรตกล่าว
