แห่ขนปลาเน่าเข้าศาลากลางอุตรดิตถ์ โวยเขื่อนปล่อยน้ำน้อยทำปลาตายเป็นเบือ

อุตรดิตถ์ - เกษตรกรเลี้ยงปลากระชังเมืองลับแลขาดทุนย่อยยับ หลังเขื่อนปล่อยน้ำน้อย ทำปลาตายเป็นเบือ ส่งตัวแทนขนปลาเน่า จะนำมาเทหน้าศาลากลาง จนรองผู้ว่าฯ ต้องออกมาขอร้อง พร้อมไปดูถึงกระชังเลี้ยงปลา

รายงานข่าวจากจังหวัดอุตรดิตถ์แจ้งว่า ตัวแทนเกษตรกรเลี้ยงปลาในกระชัง บ้านวังกะพี้ ม.4 ต.วังกะพี้ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ได้นำรถยนต์ใส่ปลาตายที่กำลังเน่าส่งกลิ่นเหม็นเต็มกระบะหลัง พร้อมติดเครื่องขยายเสียงขอความช่วยเหลือบริเวณหน้าศาลากลาง ซึ่งมีนายเฉลิมชัย เฟื่องคอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมเจ้าหน้าที่มารับฟังการร้องเรียน เนื่องจากน้ำในแม่น้ำน่านมีน้ำน้อย ทำให้กระชังปลาเกยตื้น และบางแห่งมีน้ำน้อยมาก ทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้กระชังตายไปเป็นจำนวนมาก บางรายต้องช่วยเหลือตัวเองโดยจ้างรถแบ็กโฮมาขุดริมตลิ่งให้ลึกเพื่อให้มีน้ำขังมากขึ้น

นายคมสัน ม่วงบึงพร้าว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 ม.6 ต.วังกะพี้ พร้อมพ่อแม่และครอบครัว มาทำกระชังเลี้ยงปลานิล ปลากรด ที่ ม.4 มีกระชังปลา จำนวน 210 กระชัง ปลาที่เลี้ยงไว้นับแสนตัว ตายไปแล้ว 3 รอบ

ขณะที่ นางสุนีย์ เผือกชัย อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 159 ม.4 ต.วังกะพี้ มีกระชังปลา 50 กระชัง, นางลัดดา เพ็งน้อย อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 102 ม.3 ต.วังกะพี้ มีกระชังปลาจำนวน 204 กระชังก็ประสบปัญหาเดียวกัน โดยทุกกระชังมีปลาตายเพราะน้ำน้อย มีปลาตายไปแล้วนับแสนตัว สร้างความเสียหายหลายสิบล้านบาท

เนื่องจากปลาที่เคยขายได้กิโลกรัมละ 65-75 บาท พอน้ำน้อยปลาเริ่มล้มตาย นำไปขายได้กิโลกรัมละ 40-50 บาทเท่านั้น ส่วนปลาที่ตายก่อนนำมาอัดถังทำเป็นปลาร้า 20 กว่าถังยังไม่พอ ที่เหลือจึงต้องปล่อยทิ้งให้เน่าแล้วนำไปฝัง

พวกเขาบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้น คือ การสั่งเปิดปิดน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการพร่องน้ำเพียงวันละ 2 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และปล่อยน้ำเฉพาะตอนกลางวัน กลางคืนงดปล่อย ส่งผลให้ลำน้ำน่านมีระดับน้ำน้อย ปลาจึงขาดออกซิเจน ผู้เลี้ยงปลาจึงขอให้จังหวัดช่วยขุดลอกลำน้ำน่านให้ลึกลงอีกโดยใช้เรือดูดทราย ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดได้พยายามหาทางช่วยเหลืออยู่