xs
xsm
sm
md
lg

“หน่อคำ” ขึ้นศาลจีนแล้ว-เผชิญหน้าโทษประหารชีวิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - จีนนำตัว “หน่อคำ” พร้อมพวกอีก 5 รวมเป็น 6 ขึ้นศาลที่คุนหมิงแล้ว เดินหน้าพิจารณาคดีปล้น-ฆ่าลูกเรือจีนกลางน้ำโขง 13 ศพ CCTV เกาะติด พร้อมรายงานความคืบหน้า ระบุหากถูกตัดสินผิดจริง “จายหน่อคำ” ต้องเผชิญหน้าโทษประหารชีวิต

รายงานข่าวแจ้งถึงความคืบหน้าการพิจารณาคดี “หน่อคำ” ที่ถูกจับกุมในข้อหาก่อเหตุปล้น-ฆ่าลูกเรือจีน 13 ศพกลางแม่น้ำโขงเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 54 จนทำให้การเดินเรือสินค้าแม่น้ำโขงหยุดชะงักไปพักใหญ่ว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 55 สถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนได้เผยแพร่ข่าวทั้งทางโทรทัศน์ และเว็บไซต์ http://english.cntv.cn/program/newsupdate/20120920/102509.shtml และมีการนำคลิปเผยแพร่าง http://english.cntv.cn/program/newsupdate/20120920/102854.shtml เกี่ยวกับการพิจารณาคดีของศาลเมืองคุนหมิง เมืองหลวงของมณฑลหยุนหนัน ซึ่งเป็นมณฑลทางตะวันตกเฉียงใต้ของ สป.จีน

CCTV ได้เผยแพร่ภาพของนายหน่อคำ พร้อมพวกที่ถูกจับกุมอีก 5 คน รวมทั้งหมด 6 คน สวมหูฟังเพื่อแปลภาษานั่งอยู่บนเก้าอี้จำเลยภายในศาลเมืองคุนหมิง และมีเจ้าหน้าที่ของจีนควบคุมตัว รายงานต่อศาลท่ามกลางผู้ที่เข้าไปดูคดีเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ มีการระบุว่านายหน่อคำซึ่งเป็นหัวหน้าผู้ต้องหาคดียาเสพติดพร้อมพวกที่เป็นจำเลยอีก 5 คนที่ร่วมกันจู่โจมเรือสินค้าจีนในแม่น้ำโขงได้ถูกไต่สวนจากศาล และเขาต้องพบกับการถูกตั้งข้อหาว่าฆาตกรรมหมู่ลูกเรือจีน 13 ศพ เหตุเกิดระหว่างที่ล่องเรือในแม่น้ำโขงเมื่อเดือน ต.ค.ปีก่อนดังกล่าว ก่อนที่การฆาตกรรมหมู่กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในแม่น้ำสายสำคัญแห่งนี้ในที่สุด

CCTV ระบุอีกว่า หน่อคำถูกจับกุมใน สปป.ลาวเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 55 ที่ผ่านมานี้เอง และถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศจีนในเดือนถัดมา โดยเขาต้องเผชิญกับโทษประหารชีวิต ถ้ามีการตัดสินว่าผิดจริง

ส่วนจำเลยอีก 5 คนที่เหลือก็กำลังถูกไต่สวนเพื่อพิจารณาอย่างหนักเช่นกัน

ทั้งนี้รายงานระบุอีกว่า มีตำรวจ สปป.ลาวจำนวน 3 นาย และตำรวจไทยอีก 10 นาย รวมทั้งพลเรือนอีกหลายคนจะไปเป็นพยานในคดีดังกล่าวด้วย

อย่างไรก็ตาม CCTV ไม่ระบุวันเวลาในการตัดสินคดีของนายหน่อคำ และพวกว่าจะมีขึ้นในวันไหน

ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน CCTV ได้รายงานข่าวในคดีนี้อย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในข่าวที่เผยแพร่ได้นำเสนอคลิปการสอบสวนนายหน่อคำที่ให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่จีนเป็นภาษาไทใหญ่ (http://english.cntv.cn/program/newsupdate/20120918/106624.shtml)โดยระบุว่าเขาเป็นคนลงมือก่อเหตุเอง ก่อนจะใช้ประเด็นเรื่องยาเสพติดเพื่อป้ายสีทหารไทย ซึ่งจะง่ายต่อการปกปิดร่องรอยของเขาและพวก

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับการพิจารณาของศาลประเทศจีนต่อนายหน่อคำ และพวกดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เรือสินค้าจีน 2 ลำ คือเรือบรรทุกกระเทียมและแอปเปิล Hua Ping และเรือบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง Yu Xing 8 Hao ถูกปล้นกลางแม่น้ำโขงบริเวณบ้านสามพู ประเทศพม่า ชายแดนพม่า-สปป.ลาว ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ไปทางทิศเหนือประมาณ 25 กิโลเมตร

ช่วงเกิดเหตุมีคนได้ยินเสียงปืนดังหลายนัดด้วย ก่อนที่ผู้เสียชีวิตทั้ง 13 ศพ ซึ่งมีสภาพถูกมัดมือและยิงจะถูกโยนลงแม่น้ำ จนมีการพบศพลอยไปติดตามจุดต่างๆ ทั้งในฝั่งไทย-ลาวในเวลาต่อมา

ส่วนเรือสินค้าลอยลำเข้ามาติดฝั่งไทยก่อนที่ทหารกองกำลังผาเมืองจะเข้าควบคุมเรือพบผู้เสียชีวิตอยู่ในเรือ 1 ศพ และอาวุธปืนเล็กกลเอสเค 47 จำนวน 1 กระบอก ยาบ้า บนเรือทั้ง 2 ลำรวมกว่า 920,000 เม็ด

แต่ต่อมาได้มีการดำเนินคดีต่อทหารไทยจำนวน 9 นาย ในข้อหาฆ่าผู้อื่นและปิดบังซ่อนเร้นศพจนกลายเป็นคดีลึกลับ กระทั่งทางโทรทัศน์ CCTV ของจีนนำมาเผยแพร่ดังกล่าว

สำหรับนายหน่อคำเป็นที่ต้องการตัวของทางการพม่า โดยในการประชุมคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่าระดับท้องถิ่น หรือทีบีซีหลายครั้ง ทางการพม่าได้แจ้งถึงพฤติกรรมของนายหน่อคำว่าพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดที่หลบหนีข้ามฝั่งไปมาระหว่าง จ.เชียงรายกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า อยู่หลายครั้งด้วย

ขณะเดียวกัน เหตุการณ์ปล้นฆ่าลูกเรือจีนดังกล่าวได้ทำให้ทางการจีนร่วมกับไทย สปป.ลาว พม่า ตั้งศูนย์คุ้มกันเรือแม่น้ำโขง โดยทางการไทยได้ตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง (ศปปข.) มีศูนย์บัญชาการอยู่ที่ ภ. 5 และ ศปปข.ส่วนหน้าที่ท่าเรือเชียงแสน โดยจีนได้สนับสนุนเรือบรรทุกที่ดัดแปลงเป็นเรือติดอาวุธ กำลังพลให้พม่า และ สปป.ลาว ประเทศละ 1 ลำ ปัจจุบันมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองกวนเหล่ย มณฑลหยุนหนัน ซึ่งเป็นเมืองท่าหน้าด่านของจีน ห่างจาก อ.เชียงแสนขึ้นไปประมาณ 300 กิโลเมตร

และแม้ว่าจะจับกุมนายหน่อคำ และพวกได้ก็ยังมีการร่วมกันลาดตระเวนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเขตแดนพม่า-สปป.ลาว-จีน แต่สำหรับน่านน้ำไทย ทางการไทยไม่อนุญาตให้กองกำลังอื่นใดเข้ามาลาดตระเวน โดยทาง ศปปข.ซึ่งประกอบด้วยตำรวจน้ำ ทหารเรือ ฯลฯ ได้ร่วมกันลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง

กำลังโหลดความคิดเห็น