มหาสารคาม - พระวัดสุวรรณาวาส อำเภอกันทรวิชัย มหาสารคาม วอนกรมศิลปากรเร่งซ่อมแซมโบสถ์เก่าที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานอายุกว่า 100 ปี หลังพังเสียหาย
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่วัดสุวรรณาวาส อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระยืนกันทรวิชัย “หรือหลวงแม่” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดมหาสารคาม และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งวัดแห่งนี้มีสิม หรือโบสถ์โบราณที่ชื่อว่า หอพระประสิทธิพรชัย ภายในประดิษฐานพระประสิทธิพรชัยเอาไว้ ซึ่งโบสถ์แห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนต่อกรมศิลปากรเอาไว้เมื่อ พ.ศ. 2548 เนื่องจากเป็นโบสถ์เก่าโบราณมีอายุมากกว่า 100 ปี
พระมหายุทธพล ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดสุวรรณาวาส เล่าว่า โบสถ์แห่งนี้มีอายุ 115 ปี โดยกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้เมื่อ พ.ศ. 2548 ซึ่งเมื่อกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนไว้แล้วทางวัดจะไม่สามารถเข้าไปบูรณะหรือซ่อมแซมได้เลย สภาพภายในของโบสถ์ด้านบนผุพัง บางส่วนเสียหายถูกปลวกกินเป็นรูโหว่ สภาพด้านนอกกระเบื้องแตกหักเสียหาย
ส่วนบริเวณด้านหลังของโบสถ์ ช่อฟ้าที่ทำด้วยไม้แกะสลักผุพังจนตกลงมาเสียหาย หลวงพ่อเจ้าอาวาสจึงได้นำไปเก็บรักษาไว้ภายในโบสถ์ ที่สำคัญประตูโบสถ์เป็นไม้แกะสลักด้านล่างจะแกะสลักเป็นรูปราหูอมจันทร์ ได้ถูกโจรกรรมไปเมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา ส่วนประตูบานที่เห็นอยู่ทางวัดได้ซื้อมาทดแทน
เจ้าอาวาสเล่าอีกว่า เมื่อฝนตกจะสร้างความลำบากมาก เพราะหลังคารั่ว น้ำฝนจะชะล้างมูลนกตกลงมาด้วย ทำให้มีกลิ่นเหม็น ต้องเกณฑ์พระ-เณรมาทำความสะอาด ไม่เช่นนั้นชาวบ้านจะไม่สามารถเข้ามาสักการะพระในหอพระได้
อย่างไรก็ตาม ทางวัดได้แจ้งไปยังกรมศิลปากรแล้ว มีเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบและถ่ายรูปจุดที่ผุพังเสียหายเอาไว้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ที่มาบอกว่าจะซ่อมช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับงบประมาณที่จะได้รับ แต่ไม่รับปากว่าจะมาซ่อมแซมเมื่อไหร่
“ทางวัดก็อยากให้ทางกรมศิลปากรจัดหางบประมาณมาซ่อมแซมโดยเร็ว เพราะหากมีลมพายุ หรือฝนตกหนักต่อเนื่องอีกอาจทำให้โบสถ์เก่าแก่แห่งนี้พังเสียหายทั้งหมด”
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่วัดสุวรรณาวาส อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระยืนกันทรวิชัย “หรือหลวงแม่” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดมหาสารคาม และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งวัดแห่งนี้มีสิม หรือโบสถ์โบราณที่ชื่อว่า หอพระประสิทธิพรชัย ภายในประดิษฐานพระประสิทธิพรชัยเอาไว้ ซึ่งโบสถ์แห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนต่อกรมศิลปากรเอาไว้เมื่อ พ.ศ. 2548 เนื่องจากเป็นโบสถ์เก่าโบราณมีอายุมากกว่า 100 ปี
พระมหายุทธพล ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดสุวรรณาวาส เล่าว่า โบสถ์แห่งนี้มีอายุ 115 ปี โดยกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้เมื่อ พ.ศ. 2548 ซึ่งเมื่อกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนไว้แล้วทางวัดจะไม่สามารถเข้าไปบูรณะหรือซ่อมแซมได้เลย สภาพภายในของโบสถ์ด้านบนผุพัง บางส่วนเสียหายถูกปลวกกินเป็นรูโหว่ สภาพด้านนอกกระเบื้องแตกหักเสียหาย
ส่วนบริเวณด้านหลังของโบสถ์ ช่อฟ้าที่ทำด้วยไม้แกะสลักผุพังจนตกลงมาเสียหาย หลวงพ่อเจ้าอาวาสจึงได้นำไปเก็บรักษาไว้ภายในโบสถ์ ที่สำคัญประตูโบสถ์เป็นไม้แกะสลักด้านล่างจะแกะสลักเป็นรูปราหูอมจันทร์ ได้ถูกโจรกรรมไปเมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา ส่วนประตูบานที่เห็นอยู่ทางวัดได้ซื้อมาทดแทน
เจ้าอาวาสเล่าอีกว่า เมื่อฝนตกจะสร้างความลำบากมาก เพราะหลังคารั่ว น้ำฝนจะชะล้างมูลนกตกลงมาด้วย ทำให้มีกลิ่นเหม็น ต้องเกณฑ์พระ-เณรมาทำความสะอาด ไม่เช่นนั้นชาวบ้านจะไม่สามารถเข้ามาสักการะพระในหอพระได้
อย่างไรก็ตาม ทางวัดได้แจ้งไปยังกรมศิลปากรแล้ว มีเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบและถ่ายรูปจุดที่ผุพังเสียหายเอาไว้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ที่มาบอกว่าจะซ่อมช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับงบประมาณที่จะได้รับ แต่ไม่รับปากว่าจะมาซ่อมแซมเมื่อไหร่
“ทางวัดก็อยากให้ทางกรมศิลปากรจัดหางบประมาณมาซ่อมแซมโดยเร็ว เพราะหากมีลมพายุ หรือฝนตกหนักต่อเนื่องอีกอาจทำให้โบสถ์เก่าแก่แห่งนี้พังเสียหายทั้งหมด”
