พิษณุโลก - “ปู” ทัวร์น้ำท่วมปากน้ำโพ-สุโขทัย พร้อมเข้าตรวจโกดังโรงสีข้าวที่บางระกำ-พิษณุโลก แต่เลี่ยงดูน้ำท่วม “บางระกำโมเดล” ที่รัฐบาลทุ่มงบให้ชลประทานขุดลอกหลังเกิดมหาอุทกภัยปีที่ผ่านมา ท่ามกลางระดับน้ำเหนือที่ทะลักจากสุโขทัยจนล้นตลิ่งในบางพื้นที่เข้าท่วมไร่นา และบ้านเรือนชาวบ้านแล้วกว่า 2 หมื่นไร่ แถมมีแนวโน้มเพิ่มระดับขึ้นทุกวัน
วันนี้ (13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกำหนดการทัวร์พื้นที่น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กำหนดลงพื้นที่ตั้งแต่เช้า เบื้องต้นเริ่มออกเดินทางจากโรงเรียนประชากรรังสฤษดิ์ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปถึงสนามบินค่ายจิรประวัติ (มทบ.31) จ.นครสวรรค์ ประมาณ 13.00 น.ลงตรวจสภาพพื้นที่ประสบอุทกภัย ณ สถานีตรวจวัดน้ำ C.2 ที่ค่ายจิรประวัติ
จากนั้นเวลาประมาณ 14.00 น.จึงออกเดินทางจากค่ายจิรประวัติไปจังหวัดสุโขทัย ถึงสนามบิน ฮ.โรงเรียนสุโขทัยพิทยาคม เวลาประมาณ 14.30 น. ก่อนไปวัดราชธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุโขทัย โดยนายกฯ ยิ่งลักษณ์จะเข้าตรวจบริเวณพนังกั้นน้ำที่มีปัญหา พร้อมมอบถุงยังชีพ
เวลาประมาณ 17.00 น.วันเดียวกัน คณะนายกรัฐมนตรีจะออกเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 46 พิษณุโลก ไปถึงโรงแรมอมรินทร์ ลากูน จังหวัดพิษณุโลก จากนั้นเวลา 18.00 น. นายกรัฐมนตรีจะเข้าเป็นประธานการประชุมบรรยายสรุปคดีเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว ก่อนรับประทานอาหารเย็นและพักค้างแรมที่พิษณุโลก
ขณะที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะ กำหนดนั่งเฮลิคอปเตอร์อีก 1 ลำเดินทางมาลงกองบิน 46 ในเวลา 17.00 น.ของวันเดียวกัน เพื่อเข้าร่วมประชุมรับฟังการบรรยายสรุปคดีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวด้วย
จากนั้นในเช้าวันศุกร์ที่ 14 ก.ย. 55 จะออกเดินทางจากโรงแรมอมรินทร์ลากูน ไปยังโรงสี ส.ธนวัฒน์พืชผล ต.ปรักแรด อ.บางระกำ เวลา 09.00 น. ด้วยรถยนต์ เพื่อติดตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 55/56 ทั้งกระบวนการรับจำนำ ตรวจสิ่งเจือปน ชั่งน้ำหนัก ออกใบประทวนสินค้าและตรวจโกดังกลาง พีเค ไรซ์ จนถึงเวลาประมาณ 10.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเข้าตรวจเยี่ยมโกดังเก็บข้าว ณ โกดังกลาง PK Rice อ.บางระกำ ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปร้านอาหารฟ้าไทย ฟาร์ม รับประทานอาหารเที่ยง ก่อนเดินทางไปท่าอากาศยานทหารกองบิน 46 จังหวัดพิษณุโลก ในเวลาบ่ายโมงเพื่อนั่งเครื่องบินกองทัพบกเดินทางไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ดูงานไฟป่าพรุควนเคร็ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำหนดการ “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” ตรวจพื้นที่น้ำท่วมภาคเหนือครั้งนี้ ไม่ปรากฏว่ามีกำหนดการไปดู “บางระกำโมเดล” หรือดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ชลประทานพิษณุโลก ไม่ว่าคลองกล่ำ คลองเกตุ หรือบึงขี้แล้ง อ.บางระกำ แม้แต่แห่งเดียว โดยเน้นไปตรวจการรับจำนำข้าวที่โกดังกลาง พีเค ไรซ์ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก แทน เริ่มจากดูชาวนานำข้าวเปลือกมาจำนำที่โรงสี ส.ธนวัฒน์พืชผล ออกหนังสือรับรอง ผ่านวัดความชื้นและสิ่งเจือปน ชั่งน้ำหนัก กระทั่งออกใบประทวน และกระบวนการเก็บรักษาข้าวสารที่โกดังกลาง พีเค ไรซ์
ด้านนายบุญยิ่ง คุ้มสุพรรณ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า พิษณุโลกมีการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว 6 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.เมืองพิษณุโลก อ.บางระกำ อ.ชาติตระการ อ.นครไทย อ.วังทอง ล่าสุดกำลังเฝ้าระวังและเตรียมการช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมในเขต อ.พรหมพิราม ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก และ อ.บางระกำ
ขณะที่นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า แม่น้ำยมในเขต จ.แพร่ และ จ.สุโขทัย เริ่มลดระดับลงแล้ว โดยมวลน้ำทั้งหมดกำลังเดินทางเข้าสู่จังหวัดพิษณุโลกในวันนี้ (13 ก.ย.) โดยลดการระบายน้ำผ่านแม่น้ำยมสายเก่าปริมาณลง ที่ประตูน้ำหาดสะพานจันทร์ จ.สุโขทัย ในอัตรา 127 ลบ.ม.ต่อวินาที จากวานนี้ (12 ก.ย.55) ระบาย 225 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งที่ผ่านมาการระบายน้ำยมจากสุโขทัยลงสู่แม่น้ำยมสายเก่า (คลองเมม) ทำให้น้ำท่วมทุ่งเขตพิษณุโลกประมาณ 22,500 ไร่ โชคดีชาวนาเกี่ยวข้าวหมดแล้ว เว้นแต่ ต.วังวน อ.พรหมพิราม ที่ยังมีข้าวกำลังเก็บเกี่ยว 4,500 ไร่ ซึ่งกำลังหวาดผวาเกรงว่าน้ำจะล้นแม่น้ำยมสายเก่า
ส่วนวันนี้ (13 ก.ย.) แม่น้ำยมที่ อ.บางระกำเริ่มล้นตลิ่งแล้ว โดยที่สถานีวัดระดับน้ำ Y16 อ.บางระกำ แม่น้ำยมสูง 7.19 เมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกวัน จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งให้เก็บของขึ้นสู่ที่สูง
ล่าสุดชลประทานได้ระบายน้ำจากน้ำยมออกสู่แม่น้ำน่าน ผ่านคลอง DR 2.8 และคลอง DR 15.8 ซึ่งต้องยกลอยประตูระบายน้ำทุกบาน