ระยอง - 4 คนร้ายเหิมบุกปล้นร้านทอง โดยแยกกันทำงาน โดยมี 2 คนร้ายสวมหมวกกันน็อกควงปืนสั้นบุกปล้นร้านทอง “จงถาวร“ บ้านฉาง ระยอง โดยมีคนร้ายอีก 2 คนยืนคุมเชิงหน้าร้าน เกิดยิงปะทะกับน้องชายเจ้าของร้านทอง ก่อนตำรวจสายตรวจผ่านมาระงับเหตุพลาดท่าถูกคนร้ายยิงสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ล่าสุด จับกุมได้ 3 คน หลบหนีทั้งที่บาดเจ็บ 1 คน
วันนี้ (11 ก.ย.) พ.ต.ท.ประเสริฐ เตชะมา สารวัตรเวร สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้าย 4 คน ใช้อาวุธปืนบุกปล้นร้านทอง และเกิดการยิงต่อสู้กับเจ้าของร้านทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจผ่านมาระงับเหตุถูกคนร้ายยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย เหตุเกิดที่ร้านทองจงถาวร เลขที่ 198/7 ตลาดเทพจินดา ซอยยายร้า ต.บ้านฉาง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปดูที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.สุรพณ มงคลยุทธ ผกก.สส.จว.ระยอง พ.ต.ท.สงกรานต์ สันหกรณ์ รอง ผกก.ป.สภ.บ้านฉาง และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านฉาง
ในที่เกิดเหตุ พบร่างของ ด.ต.วิวัฒ เสียงวิลัย ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บ้านฉาง ถูกยิงเข้าที่บริเวณกลางหน้าอก และแขนซ้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส รีบนำตัวส่ง รพ.บ้านฉาง และส่งต่อโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
ส่วนในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นเซอร์ปิโก้ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถของคนร้ายล้มคว่ำอยู่ที่หน้าร้านทองจงถาวรจุดเกิดเหตุ และในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม.และ 9 มม. จำนวน 9 ปลอก ตกเกลื่อนพื้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านฉาง รีบกระจายกำลังออกไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุสามารถจับกุมตัวได้รวม 3 คน ทราบชื่อคือ นายคลวัชร หรือเอก จันทร์พิทักษ์ อายุ 24 ปี, นายไมตรี หรือแสบ เอมหลุ่ม อายุ 31 ปี และนายปอ (ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) พร้อมรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ฮค 1268 กรุงเทพมหานคร จึงนำตัวไปทำการสอบปากคำที่ สภ.บ้านฉาง
ส่วนคนร้ายที่เหลืออีก 1 คน ทราบชื่อคือ นายต้อง ยังไม่ทราบนามสกุล ถูกยิงได้รับบาดเจ็บได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในไร่มันสำปะหลัง ด้านหลังโรงแรมบ้านฉางพาเลซ เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังปิดล้อมจับกุม แต่ก็ยังไม่พบตัว
ด้านนายศุภชัย วราวุฒิ อายุ 60 ปี ประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านฉาง เจ้าของร้านทอง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุขณะกำลังนั่งขายทองอยู่ที่หน้าร้านเพียงลำพัง ได้มีคนร้าย 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ และรถตู้โตโยต้า สีเทา ทะเบียน ฮค 1268 กรุงเทพมหานคร มาจอดที่หน้าร้าน โดยมี 2 คนทำหน้าที่คอยดูต้นทางอยู่ด้านนอก ก่อนที่คนร้ายอีก 2 คน ที่สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำปิดบังใบหน้าเดินตรงเข้ามาในร้าน หนึ่งในคนร้ายได้ชักอาวุธปืนแบบลูกโม่ออกมาจี้บังคับบอกว่าอย่าขัดขืน
จากนั้น ได้ตรงเข้าทุบตู้กระจกใส่ทอง แล้วกวาดทองในตู้ใส่ถุงพลาสติกแล้วรีบหลบหนีไป ช่วงจังหวะที่คนร้ายกำลังจะหลบหนี น้องชายของตนชื่อ นายวันชัย วราวุฒิ อายุ 52 ปี ขณะเกิดเหตุอยู่หลังร้านออกมาเห็นเหตุการณ์ จึงใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับคนร้าย ขณะที่ ด.ต.วิวัฒ เสียงวิลัย เจ้าหน้าที่สายตรวจ มาถึงที่เกิดเหตุพอดี จึงพยายามที่จะเข้าจับกุมคนร้าย แต่ถูกคนร้ายยิงได้รับบาดเจ็บล้มลงหลังจากคนร้ายยิงต่อสู้จนกระสุนหมดจึงพากันวิ่งขึ้นรถยนต์ตู้หลบหนีไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายไมตรี หรือแสบ เอมหลุ่ม 1 ในผู้ต้องหาปล้นร้านทองที่ถูกจับกุมครั้งนี้ อดีตเคยก่อเหตุปล้นร้านทองแซมฮวด เมื่อปี พ.ศ.2554 อ.แกลง จ.ระยอง อยู่ระหว่างการประกันตัวออกมาสู้คดี แต่กลับมาก่อเหตุปล้นร้านทองอีก