อ่างทอง - ชาวบ้านอ่างทองเร่งรื้อบ้านหนีน้ำท่วมหลังระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงถึงริมตลิ่งที่พังเกือบถึงตัวบ้านแล้ว โดยมีทหารช่างเข้าช่วยรื้อย้าย ขณะที่ระดับน้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มสูงต่อเนื่อง ทะลักเข้าท่วมตำบลจำปาหล่อ เมืองอ่างทองแล้ว
วันนี้ (11 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจาก จ.ส.อ.เฉลิม ดาบเชื้อ ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 13 จ.ลพบุรี ว่า ได้นำกำลังทหารจำนวน 20 นายมาช่วยรื้อบ้านของนางกุหลาบ ถนอมวงศ์ อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 53 หมู่ที่ 1 ต.จำปาหล่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง หลังมีความเสี่ยงที่จะพังลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา หลังตลิ่งหน้าบ้านสไลด์ตัวลงน้ำมากขึ้น และขณะนี้ ระดับน้ำได้เอ่อล้นถึงระดับตลิ่งที่พังแล้ว จึงทำการเร่งรื้อถอนโดยด่วน หวั่นล่าช้ากลัวว่าบ้านจะพังลงน้ำหมดทั้งหลัง โดยเพื่อนบ้านหลายหลังได้ทยอยรื้อหนีไปบางส่วนแล้ว
น.ส.นฤชล ถนอมวงศ์ ลูกสาว เปิดเผยว่า รู้สึกหวาดกลัวว่าบ้านจะพังลงไปทั้งหลัง เนื่องจากน้ำแรงเป็นอย่างมาก และตลิ่งก็ทรุดทุกวันโดยไม่มีใครมาช่วยเหลือ ตนเองอยู่กับแม่เพียงสองคนก็กลัวมากจึงย้ายของไปอยู่กับญาติที่ อ.ป่าโมก ส่วนบ้านก็จะรื้อกองไว้ก่อน และหากมีการสร้างเขื่อนป้องกันก็จะกลับมาปลูกใหม่
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายมานพ นิรันดร นายก อบต.จำปาหล่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง ด้วยว่า น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในหมู่ที่ 1 ต.จำปาหล่อ หลังจากรับแจ้งจึงไปตรวจสอบพบว่าน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านของประชาชน จำนวน 5 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูงกว่า 60 ซม.ชาวบ้านต่างต้องเร่งขนย้ายข้าวของกันอย่างโกลาหล
นางรจนา เพ็งแจ่มศรี อายุ 30 ปี เจ้าของฟาร์มนกกระทาใน ต.จำปาหล่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง กล่าวว่า ต้องเร่งจับนกกระทาขาย เพราะเล้านกกระทาได้ถูกน้ำท่วมหากไม่จับนกกระทาต้องจมน้ำหมด เช่นเดียวกับบ้านนางอุไร เทพผดุง อาย 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/1 หมู่ 1 ชาวบ้าน ต.จำปาหล่อ อ.เมือง ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณที่ตลิ่งพัง ต้องเร่งขนย้ายข้าวของออกจากบ้านเพื่อเร่งรื้อบ้านให้ทันก่อนน้ำท่วม
นายฉัตรณรงค์ ศิริพร ณ ราชสีมา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า สำนักงานชลประทานที่ 12 จ.ชัยนาท ประกาศแจ้งเตือนกลุ่มจังหวัดภาคกลางว่า ตั้งแต่วันที่ 10-12 ก.ย.นี้ เป็นต้นไป เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จะระบายน้ำท้ายเขื่อนในอัตรา 2,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนตกหนักท้ายเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนภูมิพล ประกอบกับลุ่มน้ำสะแกกรังมีระดับน้ำสูง รวมทั้งในภาคกลางมีฝนตก ประชาชนอาจวิตกกังวลอยู่บ้างเมื่อเห็นระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น และหวั่นเกรงว่าจะถูกน้ำท่วมซ้ำซาก
ซึ่งอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 1,789 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น โดยที่หน้าศาลากลางจังหวัดวัดได้ 7.01 เมตร ที่หน้าอำเภอป่าโมก วัดได้ 6.20 เมตร สูงกว่าเมื่อวานเกือบ 1 เมตร เริ่มส่งผลกระทบมีน้ำท่วมบ้านเรือนที่เป็นที่ลุ่มเป็นแอ่งกระทะต่ำสุด จึงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำเนื่องจากการระบายน้ำระดับเกือบ 2,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จนถึงวันที่ 12 กันยายนนี้ จะทำให้น้ำที่หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทองอยู่ที่ 7.50-7.60 เมตร ระดับตลิ่งที่ 9.30 เมตร