พระนครศรีอยุธยา - หลายอำเภอพระนครศรีอยุธยาอ่วม ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน ชาวบ้านในเขตพื้นที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา พากันเก็บของอลหม่าน หลังจากระดับน้ำสูงขึ้นเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ขณะที่ ปภ.พระนครศรีอยุธยา ยังโชว์ความมั่นใจระดับน้ำทรงตัว หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ
วันนี้ (11 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณเพิ่มขึ้น ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอีก 40-60 ซม. และน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมหลายพื้นที่ในเขต อ.บางบาล ที่ ต.บางหลวงโดด บางชะนี บ้านกุ่ม ทางช้าง บ้านคลัง มหาพราหมณ์ บางบาล และ ต.สะพานไทย รวม 8 ตำบล
ที่ อ.เสนา ได้แก่ ต.หัวเวียง บ้านกระทุ่ม บ้านแพน และ ต.บ้านโพธิ์ รวม 4 ตำบล และที่ อ.ผักไห่ ได้แก่ ต.กุฎี ท่าดินแดง ตาลาน นาคู และ ต.ลาดชิด รวม 5 ตำบล ซึ่งบ้านเรือนส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบเป็นบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำน้อย และแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนใหญ่มีการยกพื้นบ้านสูงขึ้นแล้ว แต่ไม่ทันได้เก็บข้าวของที่อยู่ข้างล่าง และระดับน้ำที่สูงขึ้นได้ท่วมถนนสัญจรไปมาในหมู่บ้าน มีระดับน้ำสูงกว่าผิวถนนประมาณ 40-60 ซม. ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำ
ล่าสุด ที่ อ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำที่สูงขึ้นได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมถนน และบริเวณพื้นที่ ต.บ้านใหม่ และ ต.ภูเขาทอง ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำ โดยมีระดับน้ำเหนือผิวถนนในหมู่บ้าน 50-70 ซม.
นายสมหมาย แสงเดือน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ไทรน้อย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า น้ำเหนือที่ไหลหลากลงมาสมทบกับฝนที่ตกตลอดวัน ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พืชไร่สวนครัว ได้รับความเสียหายอย่างมาก ประกอบกับเขื่อนเจ้าพระยาต้องเร่งระบายน้ำ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนพระราม 6 ระบายน้ำร้อยละ 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมานั้น ได้มีปริมาณสูงขึ้น 80 เซนติเมตร นายสมหมาย ยังได้กล่าวอีกว่า ทางราชการมีคำเตือนล่าช้า พอเตือนเสร็จน้ำถึง หมายความว่าการปล่อยระบายน้ำมาล่วงหน้าแล้ว 2 วัน ชาวบ้านจึงขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูงไม่ทัน
ด้านนายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นในวันที่ 11 ก.ย.นี้เป็นมวลน้ำจากทางเหนือที่ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนไปก่อนหน้าแล้ว ในเส้นทางที่น้ำจะไหลผ่าน นอกจาก 4 อำเภอที่กล่าวมาแล้ว ยังมี อ.บางไทร และ อ.บางปะอิน ซึ่งอยู่ในเส้นทางน้ำโดยระดับน้ำจะล้นตลิ่งประมาณ 20-30 ซม.เท่านั้น
"จากการประสานกับทางสำนักงานชลประทานที่ 12 ทราบว่า น้ำที่เอ่อล้นนั้นเป็นเพราะทางชลประทานระบายน้ำที่ 1,800 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้น้ำสูงขึ้นอยู่ที่ 30 ซม.เป็นส่วนใหญ่ และภายใน 3 วันนี้หากไม่มีฝนตกและทางชลประทานเบาการระบายน้ำ หรืออาจจะควบคุมอยู่ที่ระดับนี้ ก็จะไม่มีอะไรน่าห่วง อย่างไรก็ตาม ก็คงต้องจับตาปัจจัยเรื่องฝนเป็นหลัก และขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องความเสียหายแต่อย่างใด"
ทางด้านนายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำเหนือจังหวัดนครสวรรค์ทรงตัว และมีแนวโน้มลดลง ซึ่งกรมชลประทานพยายามพร่องน้ำเหนือเขื่อนเพื่อรองรับน้ำเหนือที่เกิดจากปริมาณฝน และหากฝนไม่ตกลงมาเพิ่มอีก น้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะทรงตัวต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขอให้พี่น้องประชาชนเฝ้าระวังและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด หรือหากต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่ศูนย์บัญชาการส่วนหน้า ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 035-335 161 , 035 -335 798 และ 035-335 210 อยู่ตลอด 24 สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา ออกประกาศแจ้งผู้ประกอบกิจการท่าเทียบเรือและผู้ควบคุมเรือให้ระมัดระวังในการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา
ฝ่ายนาวาโท รัชตะ ผกาฟุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ออกประกาศแจ้งผู้ประกอบกิจการท่าเทียบเรือและผู้ควบคุมเรือ ให้จัดส่งรายงานจำนวนการขนถ่ายสินค้าที่บรรทุกในเรือลำเลียงของแต่ละเที่ยวก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยารับทราบ เนื่องจากมีฝนตกชุกประกอบกับ กรมชลประทานได้เพิ่มปริมาณการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสัก ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงกว่าปกติ และไหลแรงเพิ่มขึ้น อาจทำให้เป็นอันตรายต่อการเดินเรือ
ดังนั้น ให้ตรวจสภาพเรือและเชือกผูกเรือให้มีสภาพพร้อมใช้งาน ให้ผู้ควบคุมเรือทุกลำเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณจุดเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายและอุบัติเหตุทางน้ำได้ คือ แม่น้ำเจ้าพระยา โค้งรูปตัวเอสบริเวนตำบลบางชะนี อำเภอบางบาล บริเวณใกล้สะพานทางหลวงหมายเลข 347 ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา โค้งเจดีย์ศรีสุริโยทัย ใกล้สะพานวัดกษัตราธิราชวรวิหาร สามแยกหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร และวัดไผ่โสมนรินทร์ ตำบลบ้านเกาะ
วันนี้ (11 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณเพิ่มขึ้น ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอีก 40-60 ซม. และน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมหลายพื้นที่ในเขต อ.บางบาล ที่ ต.บางหลวงโดด บางชะนี บ้านกุ่ม ทางช้าง บ้านคลัง มหาพราหมณ์ บางบาล และ ต.สะพานไทย รวม 8 ตำบล
ที่ อ.เสนา ได้แก่ ต.หัวเวียง บ้านกระทุ่ม บ้านแพน และ ต.บ้านโพธิ์ รวม 4 ตำบล และที่ อ.ผักไห่ ได้แก่ ต.กุฎี ท่าดินแดง ตาลาน นาคู และ ต.ลาดชิด รวม 5 ตำบล ซึ่งบ้านเรือนส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบเป็นบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำน้อย และแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนใหญ่มีการยกพื้นบ้านสูงขึ้นแล้ว แต่ไม่ทันได้เก็บข้าวของที่อยู่ข้างล่าง และระดับน้ำที่สูงขึ้นได้ท่วมถนนสัญจรไปมาในหมู่บ้าน มีระดับน้ำสูงกว่าผิวถนนประมาณ 40-60 ซม. ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำ
ล่าสุด ที่ อ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำที่สูงขึ้นได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมถนน และบริเวณพื้นที่ ต.บ้านใหม่ และ ต.ภูเขาทอง ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำ โดยมีระดับน้ำเหนือผิวถนนในหมู่บ้าน 50-70 ซม.
นายสมหมาย แสงเดือน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ไทรน้อย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า น้ำเหนือที่ไหลหลากลงมาสมทบกับฝนที่ตกตลอดวัน ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พืชไร่สวนครัว ได้รับความเสียหายอย่างมาก ประกอบกับเขื่อนเจ้าพระยาต้องเร่งระบายน้ำ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนพระราม 6 ระบายน้ำร้อยละ 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมานั้น ได้มีปริมาณสูงขึ้น 80 เซนติเมตร นายสมหมาย ยังได้กล่าวอีกว่า ทางราชการมีคำเตือนล่าช้า พอเตือนเสร็จน้ำถึง หมายความว่าการปล่อยระบายน้ำมาล่วงหน้าแล้ว 2 วัน ชาวบ้านจึงขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูงไม่ทัน
ด้านนายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นในวันที่ 11 ก.ย.นี้เป็นมวลน้ำจากทางเหนือที่ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนไปก่อนหน้าแล้ว ในเส้นทางที่น้ำจะไหลผ่าน นอกจาก 4 อำเภอที่กล่าวมาแล้ว ยังมี อ.บางไทร และ อ.บางปะอิน ซึ่งอยู่ในเส้นทางน้ำโดยระดับน้ำจะล้นตลิ่งประมาณ 20-30 ซม.เท่านั้น
"จากการประสานกับทางสำนักงานชลประทานที่ 12 ทราบว่า น้ำที่เอ่อล้นนั้นเป็นเพราะทางชลประทานระบายน้ำที่ 1,800 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้น้ำสูงขึ้นอยู่ที่ 30 ซม.เป็นส่วนใหญ่ และภายใน 3 วันนี้หากไม่มีฝนตกและทางชลประทานเบาการระบายน้ำ หรืออาจจะควบคุมอยู่ที่ระดับนี้ ก็จะไม่มีอะไรน่าห่วง อย่างไรก็ตาม ก็คงต้องจับตาปัจจัยเรื่องฝนเป็นหลัก และขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องความเสียหายแต่อย่างใด"
ทางด้านนายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำเหนือจังหวัดนครสวรรค์ทรงตัว และมีแนวโน้มลดลง ซึ่งกรมชลประทานพยายามพร่องน้ำเหนือเขื่อนเพื่อรองรับน้ำเหนือที่เกิดจากปริมาณฝน และหากฝนไม่ตกลงมาเพิ่มอีก น้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะทรงตัวต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขอให้พี่น้องประชาชนเฝ้าระวังและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด หรือหากต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่ศูนย์บัญชาการส่วนหน้า ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 035-335 161 , 035 -335 798 และ 035-335 210 อยู่ตลอด 24 สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา ออกประกาศแจ้งผู้ประกอบกิจการท่าเทียบเรือและผู้ควบคุมเรือให้ระมัดระวังในการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา
ฝ่ายนาวาโท รัชตะ ผกาฟุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ออกประกาศแจ้งผู้ประกอบกิจการท่าเทียบเรือและผู้ควบคุมเรือ ให้จัดส่งรายงานจำนวนการขนถ่ายสินค้าที่บรรทุกในเรือลำเลียงของแต่ละเที่ยวก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยารับทราบ เนื่องจากมีฝนตกชุกประกอบกับ กรมชลประทานได้เพิ่มปริมาณการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสัก ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงกว่าปกติ และไหลแรงเพิ่มขึ้น อาจทำให้เป็นอันตรายต่อการเดินเรือ
ดังนั้น ให้ตรวจสภาพเรือและเชือกผูกเรือให้มีสภาพพร้อมใช้งาน ให้ผู้ควบคุมเรือทุกลำเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณจุดเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายและอุบัติเหตุทางน้ำได้ คือ แม่น้ำเจ้าพระยา โค้งรูปตัวเอสบริเวนตำบลบางชะนี อำเภอบางบาล บริเวณใกล้สะพานทางหลวงหมายเลข 347 ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา โค้งเจดีย์ศรีสุริโยทัย ใกล้สะพานวัดกษัตราธิราชวรวิหาร สามแยกหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร และวัดไผ่โสมนรินทร์ ตำบลบ้านเกาะ
