“ไทลื้อ เชียงของ” ยิ้ม-รับ นส.ทำประโยชน์ที่ดิน

เชียงราย - ชาวไทลื้อ เชียงของ เมืองพ่อขุนฯ ยิ้มรับมอบหนังสืออนุญาตทำประโยชน์ที่ดินรัฐจากกรมที่ดินฯ ที่เดินเครื่องมอบสิทธิให้ชาวบ้านยากจนเข้าทำกินบนที่สาธารณะที่ไม่ได้ทำประโยชน์แล้วอย่างต่อเนื่อง

วันนี้ (10 ก.ย.) นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รมช.กระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธานในพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐพื้นที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย จำนวน 1,419 แปลง 1,038 ครัวเรือน ที่สนามกีฬาโรงเรียนศรีดอนชัย ต.ครึ่ง อ.เชียงของ ตามโครงการจัดที่ดินของรัฐขจัดความยากจน โดยกรมที่ดินจัดหาที่ดินสาธารณประโยชน์ที่มีการบุกรุกให้ประชาชนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้

โดยพบว่าครั้งนี้มีประชาชนในพื้นที่ อ.เชียงของจากพื้นที่แปลงห้วยไคร้, แปลงหนองรงค์ทั้ง 1 และ 2, แปลงหนองอ้อ จำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นชาวไทลื้อแต่งกายด้วยชุดที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมไทลื้อมารับหนังสือดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

นายชูชาติ กล่าวว่า โครงการนี้นอกจากจะแก้ไขปัญหาความยากจนยังแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ โดยมีประชาชนเข้าไปใช้ที่ดินทำกินและอยู่อาศัยให้มั่นคงขึ้น สามารถพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้แก่ตนเองและครอบครัว ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับที่ดินควรน้อมนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริมาถือปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความผาสุกแก่ชีวิตสืบไป

ด้านนายวิศิษฐ์ ลิมป์ธีระกุล รองอธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า โครงการนี้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 กระทั่งปัจจุบันได้มีการจัดสรรที่ดินให้ประชาชนทั่วประเทศไปแล้วกว่า 67,000 ครัวเรือน 81,000 แปลง หรือกว่า 400,000 ไร่ โดยเป็นการเข้าไปจัดการกับที่ดินที่ไม่ได้อยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่น เช่น ป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ ส.ป.ก. 4-01 โฉนด ฯลฯ แต่เป็นที่รกร้างว่างเปล่าหรือเป็นที่สาธารณประโยชน์ แต่ประชาชนได้เข้าไปใช้ประโยชน์มานานแล้ว รวมทั้งยังมีฐานะยากจนด้วย

วิธีการก็คือจะร่วมกับฝ่ายปกครองเข้าไปสำรวจฐานะของประชาชนที่เข้าทำกินหรืออยู่อาศัย เพื่อให้ได้ทราบคนจนจริงๆ ส่วนคนที่ร่ำรวยหรือมีฐานะดีจะไม่สามารถเข้าถึงเอกสารดังกล่าวได้ ทั้งนี้ ที่ อ.เชียงของถือว่าเป็นการมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมอบมา

นายวิศิษฐ์ยืนยันว่า การคัดเลือกประชาชนเข้ารับหนังสือมีการคัดสรรอย่างดี ซึ่งนอกจากกรมที่ดินจะสำรวจพื้นที่จนเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าไม่เป็นที่ดินต้องห้ามอื่นใด ก็จะให้ทางฝ่ายปกครองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้าสำรวจ จากนั้นมีการจัดทำประชาคมชาวบ้านเพื่อให้ผู้ได้รับเป็นชาวบ้านในพื้นที่จริงๆ คนนอกพื้นที่ไม่มีสิทธิในหนังสือดังกล่าว

ทั้งนี้ หนังสือการใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐนี้อนุญาตให้ใช้ประโยชน์ได้รายละไม่เกิน 15 ไร่ ไม่สามารถใช้ซื้อขายได้ และมีอายุเพียง 5 ปี แต่สามารถต่ออายุต่อไปได้โดยทายาทของผู้ถือหนังสือจะได้รับการพิจารณาให้ได้รับเป็นคนต่อไปก่อนเป็นอันดับแรก ยกเว้นว่าไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์อีกต่อไปแล้ว

นอกจากนี้ เมื่อใช้ประโยชน์จะมีโครงการอื่นๆ เข้าไปสนับสนุน โดยบางพื้นที่กรมที่ดินเข้าไปสนับสนุนการเกษตรระบบน้ำท่อในพื้นที่ 100 ตารางวา ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เดือนละ 3,000-5,000 บาท

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ปัจจุบันมีหลายพื้นที่ของ จ.เชียงรายที่ประกาศเป็น ส.ป.ก. 4-01 ครอบคลุมทั้งอำเภอ หรือหลายพื้นที่ที่เป็นปัญหาว่ามีการใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรจริงหรือไม่ แต่ในช่วงหลังเริ่มมีการประกาศยกเลิกในบางพื้นที่ เช่น อ.เวียงชัย ฯลฯ ทำให้ทางกรมที่ดินเตรียมจะประกาศเป็นที่ดินหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ รวมทั้งหลายพื้นที่อาจถึงขั้นออกเป็นโฉนดที่ดินได้ตามกระบวนการต่อไป