บุรีรัมย์ - ตร.ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ซ้อนแผนจับกุมแก๊งต้มตุ๋น “พนันกำถั่ว” รายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 4 คน พร้อมของกลางรถยนต์ป้ายทะเบียนปลอม 2 คัน-ธนบัตรปลอมนับล้าน-มือถือ 7 เครื่อง สารภาพตระเวนหลอกลวงเชิดเงินมาแล้วทั่วประเทศ เน้นนักธุรกิจเจ้าของกิจการ สอบประวัติสุดแสบมีหมายจับคดีค้างเก่าอื้อ 8 คดี และ 4 คดี
วันนี้ ( 9 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ได้นำกำลังซ้อนแผนเข้าจับกุมแก๊งต้มตุ๋นโดยการพนันกำถั่วรายใหญ่ได้ผู้ต้องหา 4 ราย ประกอบด้วย นางพิสมัย แก้วเสนา อายุ 48 ปี ชาวอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี หัวหน้าแก๊ง พร้อม น.ส.ปรียาพร ปานาราช อายุ 44 ปี ชาวอำเภอผาขาว จ.เลย , นายสามารถ จันทรวิมล อายุ 56 ปี ชาว นนทบุรี และ นายมงคล สุดโคตร อายุ 38 ปี ชาวเขตหนองจอก จ.นนทบุรี
พร้อมยึดรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ป้ายทะเบียนแดงและรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่น ไทรตัน ทะเบียน ชพ 682 กทม. ตรวจสอบพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม มาตรวจสอบ
จากพร้อมตรวจค้นภายในรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งเป็นของ นางพิสมัย พบธนบัตรปลอมฉบับละพันบาทจำนวน 3 มัด และ ธนบัตรปลอมฉบับ 500 บาท และ 100 บาท และกระดาษปล่องตัดเป็น 4 เหลี่ยมมีกระดาษขาวหุ้มไว้เพื่อหลอกเหยื่อว่าเป็นเงินรวมนับล้านบาท นอกจากนี้ยังพบสายรัดธนบัตร ของธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในถุงพลาสติก และ โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง
ทั้งนี้ การจับกุมแก๊งต้มตุ๋นโดยการพนันกำถั่วรายใหญ่ในครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานจากผู้ประกอบการใน จ.สุรินทร์ว่า มีคนมาทำทีจะซื้อบ้านและที่ดินในราคา 12 ล้านบาท และมีการติดต่อมาอย่างต่อเนื่อง
จากนั้นได้นัดมาดูบ้านและที่ดิน แต่กลับชวนให้ลงทุนเล่นพนันกำถั่ว จำนวน 5 ล้านบาท ไม่ปักใจเชื่อ จึงโทรศัพท์ประสานไปยังตำรวจกองปราบปราม และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมบอกพฤติกรรมของกลุ่มคนร้าย เมื่อตรวจสอบประวัติจึงทราบว่าเป็นคนร้ายที่ตระเวนก่อเหตุต้มตุ๋นประชาชนมาทั่วประเทศ โดยจะเน้นกลุ่มนักธุรกิจ เจ้าของกิจการที่มีเงินมาก
อีกทั้งผู้ต้องหามีคดีค้างเก่าติดตัวจำนวนมากมาย โดยเฉพาะ นางพิสมัย หัวหน้าแก๊ง มีคดีค้างเก่าถึง 8 คดี เป็นคดีฉ้อโกง และ นางสาวปรียาพร มีคดีค้างเก่าถึง 4 คดี
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกับผู้เจ้าทุกข์ทำการซ้อนแผนเข้าจับกุมได้ทั้งแก๊ง โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า ตระเวนก่อเหตุต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชนทั่วประเทศมาแล้วจำนวนมาก นอกจากนี้ผู้ต้องหายังพยายามติดสินบนกับเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนเพื่อไม่ให้นำเสนอข่าว
แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่หลวมตัวร่วมมือด้วย จึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองสุรินทร์ ดำเนินคดีในข้อหา ซ่องโจรและร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ต่อไป สำหรับผู้เสียหายรายใดที่ถูกแก๊งนี้หลอกลวงสามารถมาชี้ตัวเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ที่ สภ.เมืองสุรินทร์