เชียงราย - มฟล.เปิดนิทรรศการแสดงผลงานทางวิชาการของนักศึกษา สำนักวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ประจำปี 2555 ตั้งเป้านักศึกษาที่เรียนจบออกไปแล้วมีคุณสมบัติหรือศักยภาพเทียบเท่าผู้ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจไอทีอยู่แล้วประมาณ 1 เท่าครึ่ง ซึ่งเหมาะกับการออกไปทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (7 ก.ย.) ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา (อาคารกีฬา) มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) อ.เมือง จ.เชียงราย น.อ.ดร.ธงชัย อยู่ญาติวงศ์ รองอธิการบดี มฟล.เป็นประธานพิธีเปิดนิทรรศการแสดงผลงานทางวิชาการของนักศึกษา สำนักวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ประจำปี 2555
โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดให้นักศึกษาจากทั้ง 6 สาขาวิชา คือ เทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาการคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีมัลติมีเดียและการสร้างภาพเคลื่อนไหว วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ และวิศวกรรมการสื่อสารและสารสนเทศ นำผลงานไปจัดแสดงเพื่อเปิดให้นักศึกษาทั่วไปและนักเรียนในเครือข่ายเข้าศึกษาโครงงานต่างๆ ภายใต้การสนับสนุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำนักส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ บริษัท แอคเซลเล้นซ์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทซอฟต์สแควร์ 1999 จำกัด บริษัท เอ-โฮสต์ จำกัด บริษัท เอ็มเอฟอีซี จำกัด บริษัทซอฟต์อินเตอร์เชียงราย จำกัด บริษัทซัมมิทคอมพิวเตอร์ จำกัด ฯลฯ
น.อ.ดร.ธงชัยกล่าวว่า มฟล.ได้ดำเนินการพัฒนานักศึกษาเพื่อผลิตผู้ที่มีความรู้ความสามารถออกสู่ตลาดไอทีอย่างต่อเนื่อง สำหรับโครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในการพัฒนาดังกล่าวโดยดำเนินการมาได้ 3 ปีแล้ว วัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาได้แสดงผลงานและประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมา และเป็นการขยายโครงข่ายไปสู่ภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งในรูปแบบการสนับสนุนด้านการเรียนการสอน บุคลากร การศึกษาดูงาน การจัดทำโครงการต่างๆ ฯลฯ เพื่อให้นักศึกษาที่เรียนในมหาวิทยาลัยได้สัมผัสองค์ความรู้และประสบการณ์จริงจากเอกชนรายต่างๆ ดังกล่าวโดยตรง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพบว่าประเทศไทยยังคงมีปัญหาเรื่องการพัฒนาด้านไอทีในระดับต่างๆ ซึ่งปัญหาหลักเกิดจากการขาดแคลนคนหรือบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถนั่นเอง
น.อ.ดร.ธงชัยกล่าวอีกว่า โครงการจึงเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวของประเทศ เนื่องจากทาง มฟล.ตั้งเป้าว่านักศึกษาที่เรียนจบออกไปแล้วมีคุณสมบัติหรือศักยภาพเทียบเท่าผู้ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจไอทีอยู่แล้วประมาณ 1 เท่าครึ่ง ซึ่งเหมาะกับการออกไปทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งที่ผ่านมา มฟล.รับนักศึกษาใหม่ในแผนกนี้ปีละประมาณ 50 คน และมีบัณฑิตที่จบไปป้อนตลาดในจำนวนใกล้เคียงกัน กระนั้นพบว่ามีองค์กรและเอกชนต่างๆ แจ้งเข้าไปว่าตลาดมีความต้องการบัณฑิตที่มีคุณสมบัติดังกล่าวปีละกว่า 1,000 คน ซึ่งก็ยังถือว่าไม่เพียงพอจึงต้องมีการพัฒนากันต่อไป
ทั้งนี้ ตลาดต้องการผู้มีความรู้หลายด้าน เช่น ซอฟต์แวร์เทสติ้ง โปรแกรมเมอร์ โมบายล์แอฟพลิเคชัน ฯลฯ และทาง มฟล.ไม่ได้ร่วมกับภาครัฐและเอกชนดังกล่าวในการพัฒนานักศึกษาเท่านั้นแต่ได้เริ่มพัฒนาตั้งแต่ระดับโรงเรียนมัธยมศึกษาซึ่งเข้าร่วมโครงการประมาณ 30 แห่งอีกด้วย นอกจากนี้ การพัฒนาตามโครงการยังเป็นการรองรับกรณีประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 เพราะ 1 ใน 7 อาชีพที่เปิดกว้างในเออีซีคือวิศวกรซึ่งเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอทีด้วย
ด้านนายสตีเว่น กัลยนมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอคเซลเล้นซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าบริษัทดำเนินธุรกิจไอที โดยมีธุรกิจกว่า 26 สาขา และมีบริษัทในเครืออยู่กว่า 180 บริษัททั่วโลก ซึ่งพบว่าแนวโน้มของธุรกิจไอทีและความต้องการบุคลากรยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และการที่ได้เข้าร่วมกับ มฟล.ในการพัฒนานักศึกษาดังกล่าวก็เพราะเห็นว่า มฟล.เป็นเพียงมหาวิทยาลัยไม่กี่แห่งในประเทศที่มุ่งพัฒนาด้านภาษาโดยเฉพาะภาษาอังกฤษควบคู่กับการพัฒนาวิชาการต่างๆ
ทั้งนี้ นักศึกษาจะได้รับโอกาสโดยเฉพาะด้านการฝึกประสบการณ์จากธุรกิจไอทีมากขึ้น ทั้งนี้ ช่วงต้นบริษัทจะดูความต้องการของนักศึกษาก่อน จากนั้นจึงค่อยสนับสนุนในสิ่งที่ต้องการ เช่น การฝึกอบรม ข้อมูล บุคลากร การฝึกงาน ฯลฯ เพื่อให้นักศึกษาสามารถทำได้ พวกเขาก็จะเกิดความภาคภูมิใจในการทำงานต่อไป
ขณะที่นายพงศ์ศักดิ์ อริยจิตไพศาล ผู้จัดการสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) สาขาเชียงใหม่ กล่าวว่า แนวโน้มในยุคปัจจุบันยังคงมีความต้องการผู้มีความรู้ความสามารถด้านไอทีอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะด้านซอฟต์แวร์และอื่นๆ ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการพัฒนาฝีมือกันตั้งแต่แรกเริ่มก่อนเข้าสู่การทำงานจริง ซึ่งจากการดำเนินการตามโครงการพบว่าเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาและตลาดในอนาคตอย่างมาก
