ลำปาง - เจ้าหน้าที่ตำรวจจับหญิงวัย 65 หลังแอบอ้างชื่อมูลนิธิคนตาบอดลำปาง และอีกหลายชมรมฯขอรับบริจาคจากหน่วยงานต่างๆเบื้องต้นพบเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 7 ครั้ง มีเงินหมุนเวียนในบัญชีร่วม 2 ล้านในรอบ 3 ปี เร่งขยายผลรวบคนร่วมขบวนการด้วย
วันนี้ (6 ก.ย.55) ที่ห้องสอบสวน สภ.เมืองลำปาง พ.ต.ท.มนัสชัย อินทร์เถื่อน สารวัตรสืบสวนสอบสวน ได้ทำการสอบสวนนางณัทกร ดลวรนันท์ อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 281/365 ซ.ลาดพร้าว 21 ต.คลองจั่น กทม. หลังถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวคาโรงเรียนคนตาบอดลำปาง และนำตัวมาสอบสวนขยายผลต่อ ที่ สภ.เมืองลำปาง พร้อมเชิญนางสาวกรรณิการ์ สลวยสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาสมรรถภาพคนตาบอดลำปาง หรือโรงเรียนคนตาบอดลำปาง เข้าแจ้งความดำเนินคดี
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (5 ก.ย.)นางสาวกรรณิการณ์ สลวยสุวรรณ ผอ.โรงเรียนคนตาบอดลำปาง ได้รับการประสานงานจากศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 เพื่อขอทราบรายละเอียดการโอนเงินบริจาคตามหนังสือเชิญของมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมชูปถัมภ์ เรื่องการจัดการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ หม่อมราชวงศ์สมลาภ กิติยากร เลขาในพระองค์ "พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ"
แต่ โรงเรียนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว จึงได้ขอรายละเอียดทั้งหมดจากทางศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 จนทราบว่า ในวันนี้ (6 ก.ย.)นางณัทกร จะเข้ามาติดต่อเรื่องดังกล่าว จึงได้วางแผนดักรอพบและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ารวบตัวทันที
จากการสอบสวนทราบว่านางณัทกร ได้มีการเปลี่ยนชื่อมาแล้วถึง 7 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2538 และที่ผ่านมาได้แอบอ้าง - ใช้ ชื่อมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ผอ.โรงเรียนคนตาบอดลำปาง รวมถึงล่าสุดได้ใช้ชื่อของชมรมเพื่อนช่วยเพื่อน ตำรวจแห่งชาติ ในการจัดโบว์ลิ่งการกุศล และได้มีการส่งหนังสือเวียนไปตามหน่วยงานขนาดใหญ่จำนวนมาก เพื่อขอรับการสนับสนุน
นางณัทรกร ได้เปิดบัญชี ชื่อ "กองทุนช่วยเหลือคนตาบอดและพิการซ้ำซ้อน" และ "กองทุนกิจกรรมพิเศษ ร.ร.เฉลิมพระเกียรติฯ" เพื่อให้ผู้สนับสนุนบริจาคเงินเข้าบัญชี ซึ่งล่าสุดจากการตรวจสอบพบมีเงินหมุนเวียนในสองบัญชีร่วมสองล้านบาท
ทั้งนี้ระหว่างที่ทำการสอบสวนอยู่นั้น ได้มีหน่วยงานต่างๆที่ได้รับหนังสือเชิญร่วมการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล โทรศัพท์เข้ามาสอบถามรายละเอียดกับ ผอ.โรงเรียนคนตาบอดจำนวนหลายราย ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้แจ้งว่า ทางโรงเรียนไม่ได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว และขออย่าได้หลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีโดยเด็ดขาด
พร้อมกันนั้นทางโรงเรียนจึงขอแจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆที่ได้รับหนังสือ จากทางมูลมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ ชมรมเพื่อนช่วยเพื่อ ตำรวจแห่งชาติ ในการขอรับบริจาคหรือร่วมสนับสนุนการจัดงาน ขออย่าได้หลงเชื่อและอย่าได้โอนเงินให้กับกลุ่มมิชชาชีพโดยเด็ดขาด และหากหน่วยงานไหนที่ต้องการทราบรายละเอียดและต้องทราบว่าบุคคลที่เคยมาติดต่อเป็นคนเดียวกับกลุ่มมิชาชีพนี้หรือไม่สามารถเข้าแจ้งความและขอดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สภ.เมืองลำปาง
