ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “อส.” ปืนโหดบุกยิงเดือดกว่า 10 นัด บนที่ว่าการอำเภอชุมพวง โคราช เจ้าหน้าที่ปกครองดับคาที่ 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 2 ราย ก่อนลั่นไกฆ่าตัวตายหนีความผิด ตร.คาดปมขัดแย้งเรื่องงานและเรื่องชู้สาวถูกผู้ตายกีดกัน ตรวจห้องผู้ก่อเหตุพบพวงหรีด 2 พวงเตรียมไว้ให้งานศพตัวเองก่อนลงมือก่อเหตุ
วันนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ร.ต.ท.พร แก้วหนองแสง ร้อยเวรสอบสวน สภ.ชุมพวง อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุการณ์ยิงกันขึ้นในที่ว่าการอำเภอชุมพวง จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณชั้นสองของที่ว่าการอำเภอชุมพวง และเป็นห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ปกครอง พบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.ธัญลักษณ์ สายใหม่ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 323 หมู่ 14 ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอชุมพวง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่หน้าอกและช่องท้องนอนเสียชีวิตจมกองเลือด ใกล้กันพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกัน
รายแรกคือ น.ส.สุนิษา แซ่ลี้ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ปกครอง อัตราจ้าง ถูกยิงเข้าที่ช่องท้องอาการสาหัส ส่วนรายที่ 2 คือ น.ส.ละอองทิพย์ สดกลอง เป็นเจ้าหน้าที่ปกครอง อัตราจ้าง ถูกยิงเข้าที่ไหล่ขวาอาการสาหัสเช่นเดียวกัน ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นการเร่งด่วน โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถเก็บปลอกกระสุนขนาด .38 มม. ได้จำนวน 10 ปลอก
สำหรับผู้ที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญบนสถานที่ราชการครั้งนี้คืออาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ประจำอำเภอชุมพวง ทราบชื่อคือ นายยิ่งเจริญ ตีบนอก อายุ 47 ปี ตำแหน่งรองผู้บังคับหมู่ อส.อำเภอชุมพวง อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 2 ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา หลังจากก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงทั้ง 3 คนแล้วได้วิ่งหนีเข้าไปในห้องทำงานของตัวเองที่อยู่ชั้นเดียวกันบนที่ว่าการอำเภอ ซึ่งเป็นห้องวิทยุสื่อสารประจำที่ว่าการอำเภอชุมพวง ก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงตัวเองที่บริเวณกกหูเสียชีวิต
นายชุน ช่องทองหลาง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 8 ต.หนองหลัก อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ผู้บังคับหมู่ อส. อำเภอชุมพวง เปิดเผยว่า นายยิ่งเจริญ ผู้ก่อเหตุมักบ่นน้อยใจให้ฟังเป็นประจำว่า น.ส.ธัญลักษณ์ เจ้าหน้าที่ปกครองที่ถูกยิงเสียชีวิต ไม่ค่อยแบ่งงานมาให้ตัวเองทำเลย โดยเฉพาะงานที่ออกไปข้างนอกที่สามารถเบิกเงินเบี้ยเลี้ยงได้ เช่น งานเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน หรืองานอื่นๆ จึงไม่ค่อยมีเบี้ยเลี้ยงในการทำงาน และอีกเรื่องหนึ่ง ผู้ถูกยิงเสียชีวิตพยายามกีดกัน อส.ผู้ก่อเหตุกับ น.ส.ละอองทิพย์ ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ด้วยไม่ให้พบเจอกัน เพราะทราบว่านายยิ่งเจริญ แอบชอบพอกับ น.ส.ละอองทิพย์อยู่
ทั้งนี้ จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นได้ตั้งประเด็นการก่อเหตุสะเทือนขวัญไว้ 2 ประเด็นหลัก คือ เรื่องความขัดแข้งในการทำงาน และประเด็นที่ 2 คือ เรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้ก่อเหตุชอบพออยู่กับ น.ส.ละอองทิพย์ แต่ถูก น.ส.ธัญลักษณ์ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชากีดกัน ซึ่งจากการตรวจสอบภายในห้องทำงานของนายยิ่งเจริญ ผู้ก่อเหตุยังพบว่าภายในห้องทำงานมีพวงหรีดแขวนอยู่ที่โต๊ะทำงาน 2 พวง และยังมีรูปภาพของนายยิ่งเจริญขยายใหญ่วางบนโต๊ะทำงานเหมือนมีการเตรียมการในการจบชีวิตของตัวเองไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีที่สะเทือนขวัญประชาชน และผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ อส. และยังเป็นช่วงที่ประชาชนกำลังมาติดต่อราชการเป็นจำนวนมากด้วย