อุตรดิตถ์ - เจ้าของควายเผือก “บุญมา” จวกซ้ำ มรภ.อุตรดิตถ์ ตั้งกรรมการสอบควายหายไม่เที่ยง-เบี่ยงเบนประเด็น สะพัด! ปล่อยข่าวสร้างเรื่องควายกลบเกลื่อนมหาวิทยาลัยฯ ไม่ต่อสัญญาจ้าง ยันก่อนเกิดเรื่องยื่นหนังสือลาออกแล้ว
วันนี้ (4 ก.ย. 55) น.ส.นันทวรรณ เทพรักษา พนักงาน (อาจารย์อัตราจ้าง) คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) อุตรดิตถ์ กล่าวถึง ศ.ดร.เกษม จันทร์แก้ว นายกสภา มรภ.อุตรดิตถ์ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนายวิรัตน์ จำนงรัตน์พัน ผู้ช่วยอธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มรภ.อุตรดิตถ์ นำควายเผือกชื่อบุญมาที่ได้รับบริจาคเพื่อการอนุรักษ์พันธุ์ควายเผือกไปแลกกับชาวบ้านว่า รู้สึกผิดหวังกับคณะกรรมการฯชุดที่ตั้งขึ้นมาสอบสวนอย่างมาก ทั้งหมดล้วนแต่เป็นคู่กรณีคืออยู่ฝ่าย มรภ.อุตรดิตถ์แทบทั้งนั้น
น.ส.นันทวรรณกล่าวว่า ปัญหาเรื่องควายเผือกบุญมาหายไปจากศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มรภ.อุตรดิตถ์ ซึ่งนายวิรัตน์ผู้รับผิดชอบโครงการนี้ก็ออกมายอมรับว่านำไปแลกกับกับควายชาวบ้าน 2 ตัวจริง แต่กลับมีคณะกรรมการชุดที่ ศ.ดร.เกษมแต่งตั้งขึ้นไปพูดกับบุคคลภายนอกว่า การที่ตนและครอบครัวต้องการควายเผือกบุญมากลับคืนมาเป็นเพราะไม่ได้รับการต่อสัญญาจ้างจาก มรภ.อุตรดิตถ์ ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วก่อนจะเกิดเรื่องควายเผือกบุญมาได้ยื่นหนังสือลาออกไปแล้ว แต่ มรภ.อุตรดิตถ์ขอร้องว่าไม่ให้ลาออก เพราะครูสอนลอจิสติกส์มีเพียงคนเดียว
“ไม่เพียงไม่ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวเทพรักษาแล้ว คณะกรรมการชุดนี้ยังให้ร้ายจนเสียหายด้วย ทั้งที่ความผิดทุกอย่างสังคมหรือแม้แต่คนใน มรภ.อุตรดิตถ์ที่เกี่ยวข้องกับควายเผือกบุญมา รู้ดีว่าเป็นอย่างไร ทั้งอธิการบดี และนายวิรัตน์เองก็ออกมายอมรับว่าผิดและขอโทษที่นำควายเผือกบุญมาไปแลกกับควายชาวบ้านโดยไม่ได้แจ้งให้ผู้บริจาคทราบว่าจะนำไปแลก วันนี้ครอบครัวเทพรักษาไม่ได้รับความยุติธรรมจากการคณะกรรมการชุดนี้ ทั้งที่ความผิดเกิดขึ้นและสำเร็จแล้ว ยังจะออกมาบอกกับสังคมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการสร้างเรื่องเพื่อกลบเกลื่อนกับการไม่ได้ต่อสัญญาจ้าง” น.ส.นันทวรรณกล่าว
น.ส.นันทวรรณกล่าวว่า คนที่เป็นคณะกรรมการควรมีคุณธรรมและจริยธรรมบ้าง ตั้งขึ้นมาเพื่อสอบสวนเรื่องควายเผือกบุญมา แต่กลับพยายามเฉไฉออกนอกเรื่องตลอดเวลา และยังงงอยู่ว่าทำไมคณะกรรมการบางคนถามเรื่องเรียนจบอะไร จบการศึกษาที่ไหนและยังถามถึงที่อยู่อาศัยว่า อาศัยอยู่ที่ไหนกับใคร ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องควายเผือกบุญมาเลย จุดประสงค์ของการถามเรื่องแบบนี้ไม่ทราบว่าต้องการอะไร จะข่มขู่หรือไม่ อย่างไร หรือต้องการให้ยุติเรื่องนี้ สังคมกำลังจับตามองอยู่ทำอะไรก็อย่าขัดหรือบิดเบือนข้อเท็จจริงชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลย
วันนี้ (4 ก.ย. 55) น.ส.นันทวรรณ เทพรักษา พนักงาน (อาจารย์อัตราจ้าง) คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) อุตรดิตถ์ กล่าวถึง ศ.ดร.เกษม จันทร์แก้ว นายกสภา มรภ.อุตรดิตถ์ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนายวิรัตน์ จำนงรัตน์พัน ผู้ช่วยอธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มรภ.อุตรดิตถ์ นำควายเผือกชื่อบุญมาที่ได้รับบริจาคเพื่อการอนุรักษ์พันธุ์ควายเผือกไปแลกกับชาวบ้านว่า รู้สึกผิดหวังกับคณะกรรมการฯชุดที่ตั้งขึ้นมาสอบสวนอย่างมาก ทั้งหมดล้วนแต่เป็นคู่กรณีคืออยู่ฝ่าย มรภ.อุตรดิตถ์แทบทั้งนั้น
น.ส.นันทวรรณกล่าวว่า ปัญหาเรื่องควายเผือกบุญมาหายไปจากศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มรภ.อุตรดิตถ์ ซึ่งนายวิรัตน์ผู้รับผิดชอบโครงการนี้ก็ออกมายอมรับว่านำไปแลกกับกับควายชาวบ้าน 2 ตัวจริง แต่กลับมีคณะกรรมการชุดที่ ศ.ดร.เกษมแต่งตั้งขึ้นไปพูดกับบุคคลภายนอกว่า การที่ตนและครอบครัวต้องการควายเผือกบุญมากลับคืนมาเป็นเพราะไม่ได้รับการต่อสัญญาจ้างจาก มรภ.อุตรดิตถ์ ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วก่อนจะเกิดเรื่องควายเผือกบุญมาได้ยื่นหนังสือลาออกไปแล้ว แต่ มรภ.อุตรดิตถ์ขอร้องว่าไม่ให้ลาออก เพราะครูสอนลอจิสติกส์มีเพียงคนเดียว
“ไม่เพียงไม่ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวเทพรักษาแล้ว คณะกรรมการชุดนี้ยังให้ร้ายจนเสียหายด้วย ทั้งที่ความผิดทุกอย่างสังคมหรือแม้แต่คนใน มรภ.อุตรดิตถ์ที่เกี่ยวข้องกับควายเผือกบุญมา รู้ดีว่าเป็นอย่างไร ทั้งอธิการบดี และนายวิรัตน์เองก็ออกมายอมรับว่าผิดและขอโทษที่นำควายเผือกบุญมาไปแลกกับควายชาวบ้านโดยไม่ได้แจ้งให้ผู้บริจาคทราบว่าจะนำไปแลก วันนี้ครอบครัวเทพรักษาไม่ได้รับความยุติธรรมจากการคณะกรรมการชุดนี้ ทั้งที่ความผิดเกิดขึ้นและสำเร็จแล้ว ยังจะออกมาบอกกับสังคมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการสร้างเรื่องเพื่อกลบเกลื่อนกับการไม่ได้ต่อสัญญาจ้าง” น.ส.นันทวรรณกล่าว
น.ส.นันทวรรณกล่าวว่า คนที่เป็นคณะกรรมการควรมีคุณธรรมและจริยธรรมบ้าง ตั้งขึ้นมาเพื่อสอบสวนเรื่องควายเผือกบุญมา แต่กลับพยายามเฉไฉออกนอกเรื่องตลอดเวลา และยังงงอยู่ว่าทำไมคณะกรรมการบางคนถามเรื่องเรียนจบอะไร จบการศึกษาที่ไหนและยังถามถึงที่อยู่อาศัยว่า อาศัยอยู่ที่ไหนกับใคร ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องควายเผือกบุญมาเลย จุดประสงค์ของการถามเรื่องแบบนี้ไม่ทราบว่าต้องการอะไร จะข่มขู่หรือไม่ อย่างไร หรือต้องการให้ยุติเรื่องนี้ สังคมกำลังจับตามองอยู่ทำอะไรก็อย่าขัดหรือบิดเบือนข้อเท็จจริงชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลย
