อุดรธานี - รอง ผบก.อุดรธานี สั่งตำรวจในท้องที่เร่งตามจับ 2 คนร้ายปล้นร้านทองกลางตลาดสดเทศบาลบ้านผือ ชี้ดูจากพฤติการณ์ในวงจรปิดน่าจะเป็นคนในพื้นที่เพราะชำนาญเส้นทางหลบหนี และไม่ใช่โจรมืออาชีพ มั่นใจจับได้ในเร็ววัน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (30 ส.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พ.ต.อ.สุรินทร์ ชัยชมพู รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ซึ่งรับผิดชอบด้านการปราบปราม เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี 2 คนร้ายบุกปล้นร้านทองห้างทองพรเจริญ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการได้ประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชุดสืบสวนสอบสวน ภ.จว.อุดรธานีภาค 4 และชุดสืบสวนสอบสวนของ สภ.บ้านผือ ได้แบ่งหน้าที่กันออกทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากชำนาญเส้นทางในการหลบหนี
“จากการที่ได้ดูพฤติการณ์ของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดแล้ว คิดว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ได้ แต่ก็ขอเวลาสักระยะหนึ่ง เพราะดูแล้วมีข้อสังเกตหลายอย่างเช่น การที่คนร้ายปล่อยทิ้งรถลงมาก่อเหตุพร้อมกัน ไม่มีคนเฝ้ารถ อีกข้อหนึ่งได้แก่การถือปืนของคนร้ายน่าที่จะไม่ใช่คนที่ชำนาญการใช้อาวุธ”
อย่างไรก็ตาม จะนำเอามาตรการป้องกันการก่อเหตุร้ายกับสถาบันการเงิน ร้านทอง ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจภาค 4 มีอยู่แล้วมาปรับปรุงเพิ่มเติมให้มีความเหมาะสมในพื้นที่แต่ละแห่งว่า จะต้องเพิ่มเติมอะไร อย่างไร โดยเฉพาะร้านทอง ที่ยังไม่ติดกล้องวงจรปิด หรือติดแล้วกล้องไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ให้มีความพร้อมและมีความคล่องตัว
ส่วนในด้านการสืบสวนสอบสวน ได้กำชับให้ตำรวจของ สภ.บ้านผือ ไปขอภาพวงจรปิดที่ติดอยู่ตามถนนสายต่างๆในเขตเทศบาลตำบลบ้านผือ มาดูย้อนหลัง 3 วัน เพื่อหาข้อมูลรถยนต์กระบะนาวาร่า สีดำ ทะเบียน บล 3482 ว่ามีการเคลื่อนไหวอย่างไร
ต่อมาในเวลา 11.00 น.วันเดียวกันนี้ พ.ต.อ.อารีย์ สินธุรา ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ภ.จว.อุดรธานี ประชุมวางแผนการทำงานและเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับคนร้ายทั้ง 2 คนน่าจะเป็นคนในพื้นที่ เพราะมีความชำนาญเส้นทางหลบหนีและไม่ใช้เส้นทางดำในการหลบหนี แต่ใช้ทางแดงเป็นเส้นทางหลักหลบหนี นอกจากนี้แล้วได้ประสานงานกับตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงขอให้ช่วยทำการตรวจสอบสถานที่พักหรือรีสอร์ททุกแห่งว่า มีการพบเห็นคนต้องสงสัยเข้าพักหรือไม่
พร้อมกันนี้ กำลังขอข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์กระบะ นาวาร่า สีดำ ทะเบียน บล 3482 ในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ จังหวัดอุดรธานี หนองบัวลำภู เลย และจังหวัดหนองคาย ว่า ใครครอบครองรถยนต์ยี่ห้อและทะเบียนดังกล่าวเพราะเนื่องจากว่ารถยี่ห้อดังกล่าวเป็นรถที่มีการครอบครองไม่มากนัก
“คนร้ายรายนี้ไม่น่าจะเป็นมืออาชีพ เพราะมีข้อสังเกตหลายอย่าง เช่น การขับรถมาจอดที่หน้าร้านใช้เวลานานถึง 2 นาที การลงมาไปก่อเหตุก็ลงไปทั้ง 2 คน ปล่อยทิ้งรถเอาไว้ ส่วนเสื้อที่คนร้ายใส่ก็เป็นของร้านอาหารแห่งหนึ่งในอำเภอไชยบาลดาล จังหวัดลพบุรี ซึ่งได้ติดต่อขอตัวอย่างเสื้อมาดูเป็นหลักฐานประกอบคดีแล้ว” พ.ต.อ.อารีย์ กล่าว