กาญจนบุรี - “เสี่ยร้านทองเมืองกาญจนบุรี” รวบโจ๋เมืองเพชรบุรี บุกเดี่ยวนำแหวนทองปลอมมาจำนำ 2 หมื่นบาท ก่อนโทร.แจ้งตำรวจรวบตัวทันควัน เผย 2 เดือนโดน 3 ครั้งสูญ 6 หมื่นบาทเป็นแหวนชนิดเดียวกัน ด้านโจ๋เมืองเพชรปฏิเสธ อ้างรับจำนำจากบ่อนการพนันเมืองเพชร ตำรวจแจ้งผู้เสียหายรายอื่นใครโดนให้ไปชี้ตัวคนร้าย
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (27 ส.ค.) พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ กันยาประสิทธิ์ ผกก.สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากนายพูลศักดิ์ เพชร์กล้า อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 374 ถ.แสงชูโต ตลาดท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เจ้าของห้างทองจูกิมฮง สาขา 2 ว่า ได้คุมตัวคนร้ายเป็นชายเอาไว้หลังจากนำแหวนทองปลอมน้ำหนัก 1 บาท มาจำนำในราคา 2 หมื่นบาท หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ไพฑูรย์ โรจนภาวโรทัย สว.สส.สภ.ท่าเรือ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งรีบเดินทางไปพบนายพูลศักดิ์ เพชร์กล้า เจ้าของห้างทอง พร้อมคุมตัวคนร้ายมาสอบปากคำที่ สภ.ท่าเรือ ทันที ทราบชื่อคือ นายมนตรี แซ่จู อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 5 ต.บางจานอ.เมือง จ.เพชรบุรี
นายพูลศักดิ์ เพชร์กล้า เจ้าของร้านทองให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า เวลาประมาณ 12.30 น.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังทำงานอยู่ที่ร้านทอง คนร้ายได้เดินเข้ามาที่ร้านพร้อมกับนำแหวนทองออกมาเพื่อขอจำนำในราคา 2 หมื่นบาท โดยอ้างว่าน้ำหนัก 1 บาท ซึ่งภายหลังจากที่ตรวจสอบแหวนทองดังกล่าวอย่างละเอียดพบว่าเป็นแหวนทองปลอม ทำขึ้นโดยนำแหวนเงินไปชุบทอง ส่วนแหวนนั้นมีน้ำหนัก 12.5 กรัม ซึ่งหนักเท่ากับทอง 1 บาทพอดี
ตอนแรกตนเกือบหลงเชื่อเช่นกัน อีกทั้งตนคิดขึ้นมาได้ว่า เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา มีคนร้ายเป็นหญิงนำแหวนทองมาจำนำ 2 หมื่นบาท และวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายเป็นชายก็นำแหวนชนิดเดียวกันมาจำนำได้เงินไปอีก 2 หมื่นบาทเช่นกัน แต่ในขณะนั้น ตนไม่อยู่ร้านปล่อยให้อาที่มีอายุ 85 ปีอยู่เพียงลำพัง ด้วยความที่อาของตนนั้นชรามากแล้ว ประกอบกับสายตามองไม่ค่อยเห็น จึงเสียรู้คนร้ายทั้งสองรายไป
นอกจากนั้น เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็เจอเหตุการณ์แบบเดียวกันรวมสูญเงิน 3 ครั้ง 6 หมื่นบาท ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารรายชื่อ และที่อยู่ของคนร้ายตนได้เก็บเอาไว้ และพร้อมที่จะมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.ไพฑูรย์ โรจนภาวโรทัย สว.สส.สภ.ท่าเรือ กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายมนตรี แซ่จู คนร้ายเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ แต่จากการสอบประวัติพบว่า นายมนตรี เคยนำแหวนทองวงเดียวกันไปจำนำที่ร้านทองแห่งหนึ่งที่อยู่ภายในห้างเทสโก้โลตัส สาขากาญจนบุรี แต่เจ้าของร้านทองตรวจพบว่าเป็นทองปลอม จึงไม่รับจำนำ แต่ไม่มีการแจ้งความแต่อย่างใด ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวผู้ต้องหาเองก็ต้องย่อมรู้อยู่แล้วว่าเป็นทองปลอม แต่ก็ยังคิดจะนำไปจำนำอีก อีกทั้งผู้ต้องหายังสารภาพว่า ไม่ทราบว่าแหวนทองวงดังกล่าวเป็นของปลอม เพราะได้มาจากการไปเล่นการพนันตามบ่อนในพื้นที่ จ.เพชรบุรี และมีนักพนันที่เสียเงินนำมาจำนำเอาไว้ แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และได้คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากเจ้าของร้านทองในพื้นที่ สภ.ท่าเรือ ทราบข่าวว่า มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ โดยมีเจ้าของร้านทอง 4-5 รายเดินทางมาดูตัวผู้ต้องหา พร้อมกับนำรูปที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายเอาไว้มาเปรียบเทียบดูซึ่งยังมีห้างทองอีกเป็นจำนวนมากที่โดยคนร้ายนำแหวนทองปลอมในลักษณะเดียวกันมาจำนำที่ร้าน ซึ่งคนร้ายจะอาศัยช่วงที่มีคนชราอยู่ร้านเพียงลำพังเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายบางรายก็ไม่เดินทางมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ หากเจ้าของร้านทองแห่งใดเคยเจอเหตุการณ์เดียวกันขอให้มาดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สภ.ท่าเรือ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง