หนองคาย - ชาวไร่ยาสูบหนองคายรวมตัวยื่นหนังสือต่อจังหวัดถึงรัฐบาล ร้องให้ยกเลิกกฎกระทรวงฉบับใหม่ที่ทำให้ชาวไร่ยาสูบต้องเสียภาษียาสูบจากเดิมกิโลกรัมละ 1 บาท ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 10 บาท ขูดรีดเกษตรกร ขณะที่รองผู้ว่าฯ รับหนังสือก่อนจะทำหนังสือแจ้งรัฐบาล
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (30 ส.ค.) ได้มีตัวแทนเกษตรกรชาวไร่ยาสูบในพื้นที่อำเภอเมืองหนองคาย และอำเภอท่าบ่อ ประมาณ 150 คน เดินทางด้วยรถกระบะถือป้ายข้อความต่อว่าโจมตีรัฐบาลขูดรีดภาษีสูง พร้อมขนตัวอย่างใบยาสูบ อากรแสตมป์ยาสูบ มายังบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดหนองคาย โดยเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกกฎกระทรวงฉบับใหม่ที่เพิ่มอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยนายสุรชัย ทิพยมาศ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 3 ต.กวนวัน อ.เมืองหนองคาย เป็นผู้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องของเกษตรกร ต่อนายวิวัฒ เมธีวรรณกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย
นางสุพิชญา สุวรรณโสภา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 281 หมู่ 5 ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย หนึ่งในเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลได้บังคับใช้กฎกระทรวงการคลังฉบับใหม่ที่กำหนดอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ จากเดิมที่เกษตรกรต้องจ่ายค่าแสตมป์ยาสูบกิโลกรัมละ 1 บาท แต่กฎกระทรวงฉบับใหม่ เกษตรกรต้องจ่ายค่าแสตมป์เพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 10 บาท หรือ 10 เท่าของอัตราเดิม
ทำให้เกษตรกรต้องแบกรับค่าภาษีอากรแสตมป์ที่ไม่เป็นธรรม สวนทางกับต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะปุ๋ยสำหรับยาสูบมีราคาแพง ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาขาดทุนเป็นอย่างมาก
การชุมนุมในครั้งนี้จึงเป็นการรวมตัวกันของเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบในพื้นที่อำเภอเมืองหนองคายและอำเภอท่าบ่อ ซึ่งมีปริมาณการปลูกยาสูบมากถึงร้อยละ 70 ของพื้นที่จังหวัด ปลูกยาสูบเป็นอาชีพมานานหลายสิบปี ต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกกฎกระทรวงฉบับใหม่ที่ขูดรีดภาษีจากเกษตรกร หันกลับไปใช้กฎกระทรวงฉบับเดิม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตร และประชาชน
หากรัฐบาลจะปรับขึ้นควรค่อยๆ ปรับ ไม่ใช่ปรับครั้งเดียวในอัตราสูงทำให้เกษตรกรอยู่ไม่ได้ หลังจากชุมนุมและยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมในครั้งนี้แล้วไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาลเป็นที่น่าพอใจ กลุ่มเกษตรกรจะนัดชุมนุมกันอีกครั้ง และจะเป็นการชุมนุมที่ใหญ่กว่าครั้งนี้หลายเท่า
ด้านนายวิวัฒ เมธีวรรณกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวกับกลุ่มเกษตรกรหลังรับหนังสือว่า จะเร่งทำหนังสือส่งต่อไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลเพื่อพิจารณาโดยเร็ว และขอให้ประชาชนใจเย็นๆ ก่อน กลุ่มเกษตรกรพอใจในขั้นตอนแรกก่อนจะแยกย้ายกันเดินทางกลับ