จันทบุรี - ตำรวจจันทบุรีตามรวบทาสยาบ้า ลวงอดีตทหารเรือยศ "พันจ่าเอก" วัย 81 ปี ฆ่าชิงพระขุนแผนวัดดัง สารภาพเอาไปแลกยาบ้า 100 เม็ดมาเสพ
วันนี้ (30 ส.ค.55) พ.ต.ท.ปิติ พาณิชย์ สารวัตรเวร สภ.เมืองจันทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.วรรณษิฐ์ บำรุงราษฐ์ สารวัตรสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ควบคุมตัวนายวัทธิกร บำรุงษ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 2 ตำบลตกพรหม อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ผู้ต้องหาในคดี ฆ่าชิงทรัพย์ พันจ่าเอก สุธรรม ปิ่นแก้ว อายุ 81 ปี อดีตทหารเรือปลดประจำการ มาขอขมาญาติผู้เสียชีวิต และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะที่มาหลอกผู้ตายไปดูพระเครื่อง
ขณะทำแผนได้มีญาติของผู้ตาย ฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่ เข้ามาชกหน้าผู้ต้องหาอย่างรุนแรง ขณะชาวบ้านที่มียืนมุงดูแห่จะเข้ารุมประชาทัณฑ์ด้วยความโกรธแค้น จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถไปยังจุดที่ลงมือสังหารผู้ตาย
จากการสอบสวนนายวัทธิกร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2555 ได้เข้ามาหา พันจ่าเอก สุธรรม ที่บ้าน เพื่อมาติดต่อขอเช่าพระเครื่องขุนแผนพรายกุมาร ในราคา 30,000 บาท แต่ผู้ตายจะให้เช่าในราคา 45,000 บาท จึงลวงผู้ตาย ไปรับเงินภายใน ซอยดาวเรือง ตำบลพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ที่เกิดเหตุ พร้อมโทรศัพท์หาเพื่อนร่วมแก๊ง อีก 2 คน มาดูต้นทาง
จากนั้นจึงได้ใช้หมวกนิรภัยและด้ามปืนพกที่เตรียมมาเข้าตีที่ท้ายทอยและศีรษะหลายครั้งจน พันจ่าเอกสุธรรม ล้มลงสลบคากองเลือด แล้วทำการชิงพระเครื่องหลบหนีไป ส่วน พันจ่าเอกสุธรรม ได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล เนื่องจากสมองถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
ส่วนนายวัทธิกร ผู้ต้องหา ได้หลบหนีไปกบดานที่ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง และนำพระเครื่อง ไปแลกเอายาบ้าจำนวน 100 เม็ด มาเสพ ก่อนจะย้อนรอยกลับมาบ้านที่อำเภอขลุง เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2555 และถูกเจ้าตำรวจบุกเข้าจับตัวได้ดังกล่าว