ศูนย์ข่าวศรีราชา - รองนายก อบต.พลูตาหลวง เป็นแกนนำประชาชนชาวพลูตาหลวง ขับไล่โรงงานต่างชาติชาวจีน บริษัท แอฟเวอร์แฟรงค์ เทคโนโลยี จำกัด โรงงานรีไซเคิลน้ำมัน ส่งกลิ่นเหม็นสร้างมลพิษทางอากาศ ปล่อยสารพิษลงสู่แม่น้ำ และไม่ได้มาตรฐานการผลิต ชาวบ้านยันปักหลักขับไล่หากไม่ย้ายฐานการผลิต
เมื่อเย็นวันนี้ (29 ส.ค.) หน้าที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายวิษณุ โตสมบัติ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง พร้อมด้วย นางพิกุล โสภา ปลัดอำเภอสัตหีบ นายสุเมธี ศิริพรรณ กำนันตำบลพลูตาหลวง น.ส.วรพร ศุภรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 นายไชยา เมธากุล เจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดจนผู้แทนสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ผู้แทนสาธารณสุของค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง ได้เข้าร่วมประชาพิจารณ์รับฟังปัญหาชาวบ้านในพื้นที่ตำบลพลูตาหลวงกว่า 100 คน ที่มารวมตัวเรียกร้องให้ บริษัท แอฟเวอร์แฟรงค์ เทคโนโลยี จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 117/72 ม.4 ต.พลูตาหลวง ซึ่งเป็นโรงงานประกอบกิจการคัดแยกวัสดุ ผลิตน้ำมันผสมสี น้ำมันหยดทิ้งอเนกประสงค์ และน้ำมันทาไม้ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากน้ำมันใช้แล้ว โดยมี นายผังวันจง นายผังว่านเติง และนายผังซี นักธุรกิจชาวจีน เป็นเจ้าของกิจการ ให้ดำเนินการปิดกิจการ และย้ายฐานการผลิตทันที หลังประชาชนในพื้นที่ต่างประสบปัญหากลิ่นเหม็นจากแก๊สการเผาไหม้เชื้อเพลิง และส่งผลให้แม่น้ำคูคลองเน่าเสีย ทำให้สัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมาก
นายวิษณุ โตสมบัติ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง ในฐานะผู้นำกลุ่มชาวบ้าน กล่าวว่า การรวมตัวของกลุ่มชาวบ้านครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายขับไล่โรงงานดังกล่าวออกนอกพื้นที่ เนื่องจากไม่ได้มาตรฐาน สร้างความเดือดร้อนด้านมลพิษทางอากาศ และทางน้ำ ส่งผลให้ประชาชนล้มป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ และไม่สามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำได้มานานนับปี ซึ่งการดำเนินการได้เริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 เม.ย.55 โดยให้ทางสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าวพบมี 9 ข้อ ที่ต้องดำเนินการแก้ไข คือ
1.ตรวจสอบการรั่วไหลของน้ำมันเครื่องจักร
2.ปิดถังน้ำมันตลอดเวลา
3.นำกากสารพิษส่งกำจัดยังบริษัทที่ได้มาตรฐาน
4.ดำเนินการจัดเก็บทรายกอง และน้ำมันที่เหลือจากกระบวนการผลิตให้มิดชิดป้องกันการส่งกลิ่นเหม็น
5.จัดทำกำแพงล้อมรอบถังเก็บวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์
6.ห้ามใช้สารเคมีในกรรมวิธีผลิต
7.ดำเนินการขอใบอนุญาตนำสิ่งปฏิกูลออกนอกโรงงาน
8.ดำเนินการรื้อถอนท่อระบายน้ำจากโรงงานที่ไหลลงสู่คลองสาธารณะและจัดทำระบบบำบัดน้ำเสีย
9.ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพทางอากาศจากปล่องระบายควันหม้อไอน้ำ
ต่อมา ทางเทศบาลตำบลพลูตาหลวง ในฐานะผู้ดูแลพื้นที่ จึงได้ออกหนังสือยื่นต่อเจ้าของธุรกิจ ให้ดำเนินการแก้ไขใน 9 ข้อ โดยมีห้วงระยะเวลาจนถึงวันที่ 30 พ.ค.55 พร้อมทำหนังสือยื่นต่อ นายสมศักดิ์ สุวัฒนะ ผู้อำนวยการสำนักทะเบียนโรงงาน เพื่อดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้ แต่ทางเจ้าของกิจการไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด กลับยิ่งผลิตสินค้าตลอดทั้งวันทั้งคืนโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบ ด้วยเหตุนี้ ทำให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จึงต้องรวมตัวกันขับไล่โรงงานแห่งนี้ให้ออกไปจากพื้นที่อย่างไม่มีข้อยกเว้น
ด้านนายไชยา เมธากุล เจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า โรงงานไม่ได้มาตรฐานจริง และตรวจพบว่ามีการนำเครื่องจักรเข้ามาใช้ในฐานผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงตั้งข้อหาดำเนินคดีกับเจ้าของธุรกิจ ในความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงาน ฐานนำเครื่องจักรเข้ามาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมสั่งปิดโดยไม่มีกำหนด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรวมตัวขับไล่โรงงานของกลุ่มชาวบ้านกว่า 100 คน ได้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ท่ามกลางการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นาย เบื้องต้น พบว่าทางผู้ประกอบการเจ้าของธุรกิจได้เดินทางเข้ารับฟังปัญหาในครั้งนี้ และพร้อมจะรับข้อเสนอไปดำเนินการแก้ไข ส่วนการจะปิดกิจการหรือไม่นั้นยังไม่ได้ให้คำตอบแต่อย่างใด ส่วนทางด้านชาวบ้านยืนยันจะปักหลักขับไล่หากพบว่าโรงงานยังเปิดประกอบกิจการอีก