บุรีรัมย์ - เกิดเหตุ “แก๊งโจรลักหมู” อาละวาด อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์หนัก เผยก่อเหตุกลางดึก ใช้วิธีบุกทุบหัวหมูในคอกก่อนลากขึ้นรถเข็นไปใส่รถปิกอัพที่จอดไว้บนถนน ป้องกันส่งเสียงดังและง่ายต่อการขนย้าย คาดทำเป็นขบวนการ ระบุสร้างความเดือดร้อนแก่เกษตรกรหลายราย ไม่สามารถจับคนร้ายได้
วันนี้ (27 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรชาวอำเภอหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ กำลังได้รับความเดือดร้อนหนัก หลังจากมีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวนออกอาละวาดลักขโมยหมูของเกษตรกรที่เลี้ยงไว้ในคอกเป็นอาชีพเสริมในหลายหมู่บ้าน โดยการใช้รถเข็นเป็นพาหนะในการขนลำเลียงหมู แทนการใช้รถจักรยานยนต์หรือรถยนต์เพื่อไม่ให้มีเสียงดัง และใช้วิธีค้อนปอนด์หรือของแข็งทุบหัวหมูให้ตายก่อนจะลากขึ้นรถเข็นที่เตรียมไว้ จากนั้นจะเข็นไปใส่รถปิกอัพที่จอดรอไว้บนถนนลาดยางแล้วขับหลบหนี และลงมือปฏิบัติการในช่วงกลางคืนเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุคนร้ายลักขโมยสัตว์เลี้ยง หมู วัว และพืชผลทางการเกษตรของเกษตรกรในเขตพื้นที่อำเภอหนองหงส์ สร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรเข้าแจ้งความไว้แล้วหลายราย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้แม้แต่รายเดียว
นายชัยวัฒนา นามไพร อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.1 บ้านไทยสามัคคี ต.ไทยสามัคคี อ.หนองหงส์ เกษตรกรรายหนึ่ง บอกว่า ได้เลี้ยงหมูไว้เป็นอาชีพเสริมจำนวน 4 ตัว น้ำหนักประมาณ 70-90 กิโลกรัม (กก.) แต่หมูได้ถูกขโมยไป 2 ตัว พบคราบเลือดเปื้อนไปทั่วบริเวณคอก นอกจากนี้ยังพบรถเข็น และค้อนปอนด์เปื้อนเลือดตกอยู่ใกล้กับถนนลาดยางห่างจากที่เลี้ยงหมูประมาณ 500 เมตร ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้ค้อนทุบหัวหมูแล้วขนด้วยรถเข็นขึ้นรถยนต์หลบหนีไป
นายชัยวัฒนาบอกด้วยว่า ปีที่ผ่านมาหมูที่เลี้ยงไว้ก็หายในลักษณะเดียวกัน 3 ตัว ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นอีก ซึ่งเป็นการซ้ำเติมเพราะปีนี้นาข้าวประสบปัญหาภัยแล้งฝนทิ้งช่วงได้รับความเสียหายและยังไม่รู้ว่าจะได้ผลผลิตมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ยังมีหมูของนายทวีกิจ ศรีหะวงศ์ อายุ 52 ปี เกษตรกรบ้านเดียวกัน ถูกลักขโมยในลักษณะเดียวกัน
จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายดังกล่าวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนด้วย เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนแก่เกษตรกรรายอื่นซ้ำอีก