ตราด-สภาเกษตรกรแห่งชาติ 4 ภาค สัมมนาเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน ด้านประธานสภาฯ ตราด เผยเกษตรกรต้องพร้อมรับ AEC
วันนี้ (21 ส.ค.) ที่โรงแรมทะเลภูรีสอร์ท อ.คลองใหญ่ จ.ตราด นายมานพ ศรีสุข รองผู้ว่าราชการ จ.ตราด เป็นประธานการสัมมนาเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน มีประธานสภาการเกษตรกรระดับจังหวัดจากภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และสมาชิกสภาเกษตรกร เจ้าหน้าที่ จำนวน 70 คนร่วมประชุม โดยมีนายสว่าง ชื่นอารมณ์ ประธานสภาเกษตรกร จ.ตราด เป็นเจ้าภาพร่วมกับสภาเกษตรกรกลุ่มภาคตะวันออก
นายสว่าง กล่าวว่า สภาการเกษตรแห่งชาติได้จัดตั้งขึ้นมาเป็นเวลา 2 ปี และได้มีการประชุมในระดับชาติมาแล้ว 1 ครั้ง และมีการเลือกประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ พร้อมกำหนดนโยบาย กติกา หลักเกณฑ์การประชุม รวมทั้งกำหนดยุทธศาสตร์การทำงานในอีก 2 ปีข้างหน้า
ในโอกาสต่อไป จะมีการจัดตั้งสำนักงานสภาเกษตรกรระดับจังหวัดขึ้นทุกแห่ง และมีเจ้าหน้าที่เลขาธิการดำเนินงานด้านธุรกิจ ก็จะทำให้การทำงานของสภาเกษตรกรมีความคืบหน้ามากขึ้น
ขณะเดียวกัน การที่ประเทศไทยจะก้าวไปสู่การเป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า ทำให้สภาการเกษตรกรแห่งชาติ ต้องเตรียมพร้อมในการเข้าร่วม และเตรียมความพร้อมการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติสภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ.2553 เป็นการระดมความคิดเห็นการจัดทำแผ่นแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม โดยผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย และการจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรเชิงคุณภาพในระดับพื้นที่ หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด
นายนพดล กล่าวว่า การเข้าร่วม AEC จะทำให้ประเทศไทยต้องรับกับการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งเกษตรกรก็ต้องปรับตัว เพราะในอีก 3 ปีข้างหน้าจะเกิดการรวมตัวเป็นตลาดเดียวกันทั้ง 10 ประเทศ ทำให้เกษตรกรที่จะได้ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทั้งด้านภาษี แรงงาน การลงทุน หรือการเคลื่อนย้ายสินค้าเกษตร ซึ่งเกษตรกรต้องรับรู้อย่างชัดเจน เพื่อจะไม่เสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้านที่มีความเข้มแข้งทางด้านเกษตรกรรมมากกว่า
กรณีที่สภาเกษตรกรแห่งชาติ ตื่นตัวเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้เกษตรกรได้มีเกราะป้องกันปัญหาได้อย่างถูกต้อง และมีเป้าหมายที่แท้จริง
ด้านนายสุมิตร เขียวขจี ประธานหอการค้า จ.ตราด กล่าวว่า ปัจจุบันการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจการค้าชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา เพิ่มมากขึ้น เฉพาะชายแดนด้านจังหวัดตราด มีการค้าขายระหว่างประเทศมูลค่าปีละ 20,000-25,000 ล้านบาท หากไทยเข้าสู่ AEC จะเกิดทั้งผลดี และผลเสีย
ภาคธุรกิจใดที่มีความพร้อม และมีความเข้มแข็งก็จะได้เปรียบกว่าประเทศอื่นๆ แต่ถ้าอ่อนแอกว่าจะส่งผลกระทบ โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตร หากเกษตรกรไทยหรือสถาบันการเกษตรของไทยไม่เข้มแข็ง โอกาสจะเกิดผลกระทบก็จะมีมาก หรืออาจจะสูญเสียผลประโยชน์ไปให้แก่ประเทศอื่นๆ ที่มีความพร้อมมากกว่าไทยได้