นครพนม - ชาวบ้านตำบลกุรุคุ นครพนมเดือดร้อนหนัก แก๊งขโมยสุนัขข้ามชาติอาละวาดกลางดึก กำนันชี้ต้องตั้งจุดตรวจทั้งคืนปิดเส้นทางเข้าออกทั้งตำบล ชี้พฤติกรรมสุดอำมหิตโยนบ่วงคล้องคอผู้ใหญ่บ้านหวิดสิ้นชื่อ
วันนี้ (20 ส.ค.) นายสุริยา ชาวหมู่ กำนันตำบลกุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้านทั้งตำบลจำนวน 10 หมู่บ้าน โดยเฉพาะบ้านเรือนติดริมถนนในหมู่บ้านได้รับความเดือดร้อนมากจากแก๊งขโมยสุนัข โดยพฤติกรรมแก๊งนี้จะปฏิบัติการช่วงประมาณ 01.00-04.00 น.โดยจะขับรถปิกอัฟรุ่นใหม่ ด้านหลังจะมีทีมคล้องสุนัข 2-3 คน พร้อมเชือกบ่วงคล้องสุนัข 1-2 อัน ขับตระเวนเข้าไปในทุกหมู่บ้าน
เมื่อพบเห็นสุนัขที่อยู่บนถนนหรือนอนริมถนน แก๊งนี้จะโยนเชือกบ่วงคล้องคอสุนัขทันทีด้วยความแม่นยำเชี่ยวชาญมาก แม้กระทั่งรถยังวิ่งอยู่สุนัขที่ถูกเชือกบ่วงคล้องคอจะถูกลากไปตามถนนร้องด้วยความเจ็บปวด และถูกลากขึ้นไปบนท้ายรถ ล่าสุดเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมาแก๊งนี้เข้ามาขโมยสุนัขในหมู่ 8 สุนัขของชาวบ้านหาย 2 ตัว
นายสุริยา ชาวหมู่ กำนันตำบลกุรุคุ กล่าวอีกว่า ในปีที่ผ่านมาสุนัขของชาวบ้านจำนวน 10 หมู่บ้านจะถูกขโมยในลักษณะนี้เฉลี่ยหมู่บ้านละ 9-10 ตัว สำหรับเส้นทางสุนัขที่ถูกขโมยจะไปอยู่ในคอกสุนัขที่ ต.ท่าแร่ จ.สกลนคร ก่อนที่จะนำข้ามโขงไปขายที่เวียดนามตามที่เป็นข่าวขบวนการค้าสุนัขข้ามชาติ
นายสุริยาเล่าว่า ครั้งหนึ่งชาวบ้านที่สุนัขหาย เขารักสุนัขมากเขาตามไปหาที่ตำบลท่าแร่ สกลนคร พบสุนัขของเขาอยู่ที่คอกแต่ไม่สามารถเอาสุนัขออกมาได้เพราะไม่มีหลักฐานแสดง จึงรีบกลับมาแจ้งความเพื่อนำหลักฐานไปขอสุนัขคืน แต่ไม่ทันสุนัขเขาหายไปแล้ว พวกตนจึงเชื่อว่าแก๊งขโมยสุนัขต้องเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าสุนัขข้ามชาติแน่นอน
โดยมาตรการป้องกันแก๊งขโมยสุนัขขณะนี้ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมาตนได้มีการประชุมผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่และมีการตั้งจุดตรวจทางเข้าหมู่บ้านทางเข้าออกตำบลปิดจุดเข้าออกทุกคืนรวม 4 ด่าน จุดแรกทางเข้าบ้านกุรุคุหมู่ 8 จากปากทางถนนหลวงสายนครพนม-สกลนคร เข้าหมู่บ้าน จุดที่ 2 คือหมู่ 9 เส้นทางออกจากตำบลกุรุคุไปตำบลวังตามัว จุด 3 เส้นทางระหว่างบ้านกุรุคุหมู่ 3 ไปอำเภอโพนสวรรค์ จุดที่ 4 คือหมู่ 6 ทางออกไปถนนหน้าค่าย
นายสมสมัย ถาวรรณ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านหนองไซ ต.กุรุคุ อ.เมือง เปิดเผยนาทีชีวิตว่า แก๊งขโมยสุนัขอำมหิตมาก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตนที่หน้าบ้านประมาณเวลา 01.00 น.เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2554 ตนได้ยินเสียงรถช่วงแก๊งขโมยสุนัขอาละวาดหนักสุนัขหายไปนับ 10 ตัวเลยตื่นขึ้นมาดู แต่ไม่มีอาวุธปืนลูกซองที่ทางการแจกให้เพราะถูกยึดหมดจากช่วงการเมืองร้อนแรงสีแดงสีเหลือง ขณะนั้นรถปิกอัพรุ่นใหม่ของแก๊งสุนัขวิ่งเลี้ยวจะผ่านหน้าบ้านตนก็เดินออกไปกลางถนนเพื่อจะตรวจสอบ พอคนในรถเห็นก็เหยียบคันเร่งพุ่งมาหาตนทันที
ตนก็กระโดดหลบเข้าไปในบ้าน ขณะนั้นเองคนอยู่ด้านหลังรถได้โยนเชือกคล้องสุนัขใส่คอตนแต่หลบทันเชือกลอยมาติดปลายคางกระแทกจนได้รับบาดเจ็บแรงมากก่อนเชือกจะหลุดมือทิ้งบ่วงไว้เป็นหลักฐาน เท่าที่สังเกตด้านหลังรถจะมี 2-3 คน หวาดเสียวมากขนาดหน้าบ้านติดป้ายที่ทำการผู้ใหญ่บ้านเขาก็ยังไม่กลัว ก็ขอให้ระวังด้วยโดยเฉพาะช่วงสุนัขผสมพันธุ์จะออกมาถนนมากแก๊งนี้ก็จะออกมาอาละวาดหนักที่สุด ซึ่งตนก็เตือนลูกบ้านให้ระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากแก๊งขโมยสุนัข
นางสมใจ บุตรวงษ์ ชาวบ้านกุรุคุ หมู่ 8 เปิดเผยว่า แก๊งขโมยสุนัขจะอาละวาดหนักที่สุดคือช่วงเดือน 12 ฤดูผสมพันธุ์ของสุนัข วิธีป้องกันเนื่องจากบ้านตนติดริมถนน มีสุนัข 2 ตัว พอตกกลางคืนตนจะให้ลูกผูกสุนัขไว้ใต้ถุนบ้านไม่ให้ไปวิ่งบนถนนกลัวจะถูกแก๊งขโมยสุนัขคล้องไปเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อนและบอกเพื่อนบ้านด้วย
นายไพรัช ประทุมสุวรรณ ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า การนำสุนัขข้ามโขงไปขายที่เวียดนามของขบวนการค้าสุนัขข้ามชาติ ทุกครั้งเมื่อนำสุนัขมาที่ด่านกักกันสัตว์นครพนมเพื่อเยียวยาฟื้นฟูสภาพ จะพบว่ามีประชาชนจากหลายจังหวัดทั้งในภาคอีสานที่สุนัขหายโทร.มาติดต่อสอบถามจำนวนมากว่าเห็นสุนัขตนไหมลักษณะแบบนั้นแบบนี้ บ้างก็ส่งรูปสุนัขมาทางเว็บไซต์ บ้างก็เดินทางมาหาที่คอกพบบ้างไม่พบบ้าง ซึ่งเดิมทีเราจะเข้าใจว่าเป็นสุนัขที่แลกมาระหว่างผู้ซื้อสุนัขกับชาวบ้าน แต่ปัจจุบันสุนัขหายากขึ้นและผลประโยชน์สูงทำให้เกิดขบวนการขโมยสุนัขขึ้น
“ปัจจุบันยอดล่าสุดสุนัขที่ด่านกักสัตว์นครพนมศูนย์ฟื้นฟูสุนัขจำนวน 1,889 ตัว ตายสะสม 1,683 ตัว ขอไปเลี้ยง 1,345 ตัว ยอดเงินในบัญชีกองทุนเลี้ยงสุนัขคงเหลือจำนวน 8,742,003 ล้านบาท เลี้ยงได้อีกไม่นานแต่เราจะทำให้ดีที่สุดและยังคงเปิดรับบริจาคจากผู้ใจบุญตลอด"