เขื่อนสิริกิติ์เริ่มรับน้ำเพิ่ม หลังพร่องน้ำจนเหลือน้อยสุดรอบหลายปี

อุตรดิตถ์ - เขื่อนสิริกิติ์เริ่มรับน้ำใหม่แล้ว หลังจากพร่องน้ำตามคำสั่งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำแห่งชาติเหลือไว้ 49% น้อยที่สุดในรอบหลายปี ล่าสุดน้ำในอ่างเพิ่มขึ้นเป็น 51% พร้อมยืนยันว่าเขื่อนยังมั่นคงแข็งแรง

จากการที่มีร่องมรสุมพัดพาเอาฝนมาตกในภาคเหนือในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา จังหวัดน่านซึ่งเป็นต้นน้ำน่านมีฝนตกหนักทำให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเฉลี่ยวันละกว่า 64- 86 ล้านลูกบาศก์เมตร ดังนั้นจึงมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 51% ในปัจจุบัน แต่จะปล่อยน้ำลงท้ายเขื่อนเพื่อการบริโภคอุปโภค เช่น การเกษตร, การประปา และการเลี้ยงปลาในกระชังในลุ่มน้ำน่าน วันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ทางเขื่อน ยังมีพื้นที่การรับน้ำได้อีกกว่า 5,300 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเทียบกับมีดีเปรสชัน 3-4 ลูกนำฝนมาตกในต้นน้ำเขื่อนสิริกิติ์

นายกิตติศักดิ์ ล้ออุทัย หัวหน้ากองเดินเครื่องโรงไฟฟ้าเขื่อนสิริกิติ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีพายุฝนตกในต้นน้ำ มีน้ำไหลเข้าอ่างค่อนข้างมาก เราจะเริ่มเก็บกักน้ำตามที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำแห่งชาติอนุญาต ตอนนี้เรามีน้ำอยู่ที่ 51% แต่ยังปล่อยน้ำให้ประชาชนได้ใช้ด้านท้ายเขื่อนอยู่

ส่วนกรณีการเกิดแผ่นดินไหวที่อำเภอบ้านโคก ซึ่งห่างจากเขื่อนฯไปทางเหนือ 66 กว่ากิโลเมตร เมื่อ 10 ส.ค. 55 นั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อเขื่อนสิริกิติ์แต่อย่างใด และยังยืนยันว่า เขื่อนยังมั่นคงแข็งแรงตามปกติ และมีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงเป็น รายวัน, ราย 3 วัน และรายเดือน-รายปี อย่างอย่างต่อเนื่อง โดยทางเขื่อนมีเครื่องมือจับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวถึง 3 เครื่องก็ยังไม่สามารถวัดแรงสั่นสะเทือนได้