ตรัง - ชลประทานยืนยัน ยังมีน้ำกินน้ำใช้เพียงพอ แม้จะเจอฝนทิ้งช่วงมานานนับเดือนแล้ว แต่ประชาชนที่อยู่นอกเขตชลประทานอีก 70% อาจได้รับผลกระทบจากการไม่มีแหล่งเก็บกักน้ำ ชี้หากเกิดสถานการณ์รุนแรงไปมากกว่านี้ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือ
นายวิรัตน์ สุกิจมงคลกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานตรัง กล่าวว่า จากสภาวะฝนทิ้งช่วงที่ยาวนานนับเดือนในหน้าฝนของปีนี้ ยังไม่มีผลกระทบสำหรับผู้ที่อยู่ในเขตชลประทาน ซึ่งคิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 30% ของพื้นที่ของจังหวัดตรังทั้งหมด เพราะในแม่น้ำลำคลองสายสำคัญๆ ยังมีปริมาณน้ำสูงเกินกว่า 50% ขึ้นไป และยังเพียงพอต่อการนำน้ำไปใช้เพื่อการบริโภคอุปโภค แม้ว่าสภาวะฝนทิ้งช่วงอาจจะกินเวลาไปมากกว่านี้อีก 1-2 เดือน อย่างเช่น อ่างเก็บน้ำท่างิ้ว ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 2-3 อำเภอ ขณะนี้ ยังมีปริมาณน้ำอยู่ที่ประมาณ 70% ของความจุ ซึ่งไม่มีปัญหาอะไรต่อการผลิตน้ำประปาสำหรับชุมชนต่างๆ
แต่ในส่วนของผู้ที่อยู่นอกเขตชลประทานอีกประมาณ 70% นั้น อาจจะเริ่มได้รับผลกระทบจากสภาวะฝนทิ้งช่วงในหน้าฝนของปีนี้บ้างแล้ว เนื่องจากไม่มีแหล่งน้ำที่กักเก็บน้ำได้เป็นปริมาณมากๆ โดยเฉพาะเรื่องการบริโภคอุปโภค และการเพาะปลูกพืชบางชนิด แต่โชคดีที่พื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของจังหวัดตรัง จะเป็นการทำสวนยางพารา ซึ่งเป็นพืชที่ต้องการน้ำไม่มาก จึงช่วยให้ความเดือดร้อนไม่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะฝนทิ้งช่วง สามารถแจ้งเรื่องเข้ามาได้ที่โครงการชลประทานตรัง ซึ่งตนสั่งให้เตรียมรถน้ำ เครื่องสูบน้ำ และกำลังเจ้าหน้าที่คอยออกไปช่วยเหลือแล้ว