ศรีสะเกษ - ยุคเสื่อมทั้งแผ่นดิน! ตำรวจศรีสะเกษ บุกจับยกครัว 3 พ่อแม่ลูก ที่ อ.น้ำเกลี้ยง ขายยาบ้า ส่วนอีกรายบุกตรวจปัสสาวะเจ้าอาวาส พร้อมพระลูกวัด อ.กันทรารมย์ พบมีสารเสพติด ตรวจค้นภายในกุฏิ พบยาบ้า พร้อมอาวุธปืนจับสึกทันควัน ผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
วันนี้ (16 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. ร.ต.ท.สุทธิพงษ์ ห่มเมือง รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายหมวดเอกดิศนันทน์ ชนะกุล ผู้บังคับกองร้อยกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ, เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการด้านการข่าวศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จ.ศรีสะเกษ และ กำลัง อส.จากกองร้อยกองอาสารักษาดินแดน จ.ศรีสะเกษ ที่ 2 บุกเข้าทำการจับกุมตัว นายบัญชี เหิมหาญ อายุ 45 ปี พร้อมด้วย นางศิริพร เหิมหาญ อายุ 40 ปี ภรรยา และนายเอก (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ลูกชาย ได้ที่บ้านเลขที่ 302 หมู่ 13 ต.ละเอาะ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันจำหน่ายยาบ้า
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวสืบทราบว่า นายบัญชี มีพฤติกรรมแอบลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับวัยรุ่นในพื้นที่ โดยส่งสายเข้าทำการล่อซื้อยาบ้าจาก นายบัญชี จำนวน 30 เม็ด ในราคา 3,600 บาท และจากการเข้าทำการจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบยาบ้าอีก จำนวน 50 เม็ด อยู่ในตัวของ นายบัญชี และ อีก 3 เม็ด อยู่ในตัวของ นายเอก นอกจากนี้ ยังพบเงินสดที่ใช้ในการล่อซื้อยาบ้าในครั้งนี้ อยู่ในกระเป๋ากางเกงของ นางศิริพร ซึ่งได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดย นายบัญชี และ นางศิริพร ถูกแจ้งข้อหาในคดี “ร่วมกันจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ส่วน นายเอก ถูกแจ้งข้อหาในคดี “ครอบครองยาบ้า” จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พร้อมยาบ้าของกลาง รวม 58 เม็ด ส่งมอบพนักงานสอบสวน สภ.น้ำเกลี้ยง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนอีกคดี ที่วัดหนองบัวไชยวาน หมู่ 8 ต.โนนสังข์ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นายเพิ่มวุฒิ หัวหน้าผู้ประสานงานศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการด้านการข่าวศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอกันทรารมย์, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรารมย์, กำนันตำบลโนนสังข์ และรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โนนสังข์ เข้าพบกับ พระสำราญ จันทปัญโน อายุ 32 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองบัวไชยวาน และ พระอาทิตย์ อาทโร อายุ 21ปี พระลูกวัด เพื่อขอทำการตรวจปัสสาวะ พระทั้ง 2 รูป
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เปิดสายตรง รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ผ่านทางรายการวิทยุ “ผู้ว่าฯ มาแล้ว” ว่า พระสำราญ และ พระอาทิตย์ มีพฤติกรรมข้องเกี่ยวกับยาเสพติด (ยาบ้า) ดังนั้น จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวเข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจากการตรวจปัสสาวะของพระทั้ง 2 รูป พบว่า มีสารเสพติด และจากการตรวจค้นภายในกุฎิของพระสำราญ พบอุปกรณ์การเสพยาบ้าตกเกลื่อนอยู่ทั่วบริเวณห้อง และพบอาวุธปืนลูกโม่ แบบไทยประดิษฐ์ ขนาดจุด 22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนบรรจุอยู่ในลูก ลักษณะพร้อมใช้งาน
นอกจากนี้ ยังพบยาบ้าอีกจำนวน 3 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในห้อง และจากการตรวจสอบข้อมูลทางโทรศัพท์ พบว่า พระสำราญยังมีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับสีกานางหนึ่ง ซึ่งมีการส่งข้อความในลักษณะตัดพ้อถึงความรักอีกด้วย จากนั้น จึงได้นำตัวไปให้เจ้าคณะตำบลโนนสังข์ ทำการสึก และนำตัวไปทำการสอบสวนที่ สภ.กันทรารมย์
จากการสอบสวนเบื้องต้น พระสำราญ หรือ นายสำราญ สมพร ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าที่เจ้าหน้าที่ค้นพบเป็นของตนจริง และตนได้เสพยาบ้าจริง โดยมีเอเย่นต์ขายยาบ้าจาก จ.อุบลราชธานี เป็นคนนำมาส่งให้ถึงวัด ส่วนอาวุธปืนนั้น มีไว้เพื่อป้องกันตัว เนื่องจากต้องดูแลเงินของวัด กลัวว่าจะถูกขโมยไป
ส่วน พระอาทิตย์ หรือ นายอาทิตย์ จันทโคตร ให้การรับสารภาพว่า ตนได้เสพยาบ้าจริง โดยซื้อมาจากเจ้าอาวาสวัด ในราคาเม็ดละ 350 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ในคดีครอบครองและเสพยาบ้า และ คดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน จากนั้น จึงได้นำตัวส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (16 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. ร.ต.ท.สุทธิพงษ์ ห่มเมือง รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายหมวดเอกดิศนันทน์ ชนะกุล ผู้บังคับกองร้อยกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ, เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการด้านการข่าวศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จ.ศรีสะเกษ และ กำลัง อส.จากกองร้อยกองอาสารักษาดินแดน จ.ศรีสะเกษ ที่ 2 บุกเข้าทำการจับกุมตัว นายบัญชี เหิมหาญ อายุ 45 ปี พร้อมด้วย นางศิริพร เหิมหาญ อายุ 40 ปี ภรรยา และนายเอก (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ลูกชาย ได้ที่บ้านเลขที่ 302 หมู่ 13 ต.ละเอาะ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันจำหน่ายยาบ้า
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวสืบทราบว่า นายบัญชี มีพฤติกรรมแอบลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับวัยรุ่นในพื้นที่ โดยส่งสายเข้าทำการล่อซื้อยาบ้าจาก นายบัญชี จำนวน 30 เม็ด ในราคา 3,600 บาท และจากการเข้าทำการจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบยาบ้าอีก จำนวน 50 เม็ด อยู่ในตัวของ นายบัญชี และ อีก 3 เม็ด อยู่ในตัวของ นายเอก นอกจากนี้ ยังพบเงินสดที่ใช้ในการล่อซื้อยาบ้าในครั้งนี้ อยู่ในกระเป๋ากางเกงของ นางศิริพร ซึ่งได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดย นายบัญชี และ นางศิริพร ถูกแจ้งข้อหาในคดี “ร่วมกันจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ส่วน นายเอก ถูกแจ้งข้อหาในคดี “ครอบครองยาบ้า” จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พร้อมยาบ้าของกลาง รวม 58 เม็ด ส่งมอบพนักงานสอบสวน สภ.น้ำเกลี้ยง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนอีกคดี ที่วัดหนองบัวไชยวาน หมู่ 8 ต.โนนสังข์ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นายเพิ่มวุฒิ หัวหน้าผู้ประสานงานศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการด้านการข่าวศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอกันทรารมย์, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรารมย์, กำนันตำบลโนนสังข์ และรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โนนสังข์ เข้าพบกับ พระสำราญ จันทปัญโน อายุ 32 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองบัวไชยวาน และ พระอาทิตย์ อาทโร อายุ 21ปี พระลูกวัด เพื่อขอทำการตรวจปัสสาวะ พระทั้ง 2 รูป
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เปิดสายตรง รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ผ่านทางรายการวิทยุ “ผู้ว่าฯ มาแล้ว” ว่า พระสำราญ และ พระอาทิตย์ มีพฤติกรรมข้องเกี่ยวกับยาเสพติด (ยาบ้า) ดังนั้น จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวเข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจากการตรวจปัสสาวะของพระทั้ง 2 รูป พบว่า มีสารเสพติด และจากการตรวจค้นภายในกุฎิของพระสำราญ พบอุปกรณ์การเสพยาบ้าตกเกลื่อนอยู่ทั่วบริเวณห้อง และพบอาวุธปืนลูกโม่ แบบไทยประดิษฐ์ ขนาดจุด 22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนบรรจุอยู่ในลูก ลักษณะพร้อมใช้งาน
นอกจากนี้ ยังพบยาบ้าอีกจำนวน 3 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในห้อง และจากการตรวจสอบข้อมูลทางโทรศัพท์ พบว่า พระสำราญยังมีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับสีกานางหนึ่ง ซึ่งมีการส่งข้อความในลักษณะตัดพ้อถึงความรักอีกด้วย จากนั้น จึงได้นำตัวไปให้เจ้าคณะตำบลโนนสังข์ ทำการสึก และนำตัวไปทำการสอบสวนที่ สภ.กันทรารมย์
จากการสอบสวนเบื้องต้น พระสำราญ หรือ นายสำราญ สมพร ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าที่เจ้าหน้าที่ค้นพบเป็นของตนจริง และตนได้เสพยาบ้าจริง โดยมีเอเย่นต์ขายยาบ้าจาก จ.อุบลราชธานี เป็นคนนำมาส่งให้ถึงวัด ส่วนอาวุธปืนนั้น มีไว้เพื่อป้องกันตัว เนื่องจากต้องดูแลเงินของวัด กลัวว่าจะถูกขโมยไป
ส่วน พระอาทิตย์ หรือ นายอาทิตย์ จันทโคตร ให้การรับสารภาพว่า ตนได้เสพยาบ้าจริง โดยซื้อมาจากเจ้าอาวาสวัด ในราคาเม็ดละ 350 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ในคดีครอบครองและเสพยาบ้า และ คดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน จากนั้น จึงได้นำตัวส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป