xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายเฟซบุ๊ก “ถลกหนังคนโกงหอมแดง” โต้ไม่เคยข่มขู่ใคร-จี้ลากคอคนผิดมารับโทษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เครือข่ายถลกหนังคนโกงหอมแดงยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเกิดจากการตั้งเครือข่ายในเฟซบุ๊ก ชี้แจงไม่เคยข่มขู่ใคร  เตรียมหอบหลักฐานจี้ ดีเอสไอเร่งเอาตัวคนผิดมารับโทษให้ได้ วันนี้ (15 ส.ค.)
ศรีสะเกษ - เครือข่ายเฟซบุ๊ก “ถลกหนังคนโกงหอมแดงยางชุมน้อย” จ.ศรีสะเกษ ดับเครื่องชน โต้ไม่เคยข่มขู่ใคร เตรียมหอบหลักฐานจี้ “ดีเอสไอ” เร่งเอาตัวคนผิดมารับโทษให้ได้ พร้อมวอนอย่าเปลี่ยนตัว จนท.สอบสวนตามความต้องการของโจรจะทำให้ประเทศวุ่นวายล่มจม ยันไม่ใช่ฝ่ายนักธุรกิจและนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามตามที่ถูกกล่าวหา

วันนี้ (15 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) นายกันตนา ทองอินทร์ นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.ยางชุมน้อย อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีที่นายรณวัฒน์ สาระพันธ์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ในลักษณะข่มขู่ชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการแทรกแซงราคาหอมแดงขององค์การคลังสินค้า (อคส.) โดยระบุว่า หากใครเข้าให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คือ นายภูวิช ยมหา เจ้าหน้าที่คดีพิเศษของดีเอสไอ อาจถูกทำร้ายร่างกายได้ หรืออาจกลายเป็นบุคคลสูญหายได้ ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวั่นเกรงในความไม่ปลอดภัย จึงได้มาแจ้งต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น

ล่าสุดวันนี้เครือข่ายถลกหลังคนโกงทุจริตหอมแดงยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเครือข่ายในเฟซบุ๊กที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเส้นทางการทุจริตคอร์รัปชันหอมแดงยางชุมน้อย และต่อมาได้พัฒนาเป็น “กลุ่มผู้รักความเป็นธรรมแห่งยางชุมน้อย” ได้เตรียมเดินทางเข้าพบอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายหลังจากที่ถูกกล่าวหาดังกล่าว พร้อมทั้งจะได้นำเอาเอกสารหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับเส้นทางการทุจริตหอมแดงในครั้งนี้มอบแก่อธิบดีดีเอสไอ เพื่อเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ และเรียกร้องให้ นายภูวิช ยมหา เจ้าหน้าที่คดีพิเศษของดีเอสไอ ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ให้ทำหน้าที่ตรงนี้ต่อไป

นายรณวัฒน์ สาระพันธุ์ ตัวแทนกลุ่มผู้รักความเป็นธรรมแห่งยางชุมน้อย ที่ถูกกล่าวหา เปิดเผยว่า เรื่องนี้เกิดจากการที่ตนเขียนลงในเฟซบุ๊ก ข้อความว่า ชาวบ้านเราคนไหนที่มีหอมลมเข้ามาในบัญชี หรือมีส่วนในการทุจริตหอมแดงกับเขาให้รีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่เกษตร ตำรวจ หรืออำเภอ เพื่อที่เขาจะได้กันออกมาเป็นพยาน ถ้าใครไม่ไปแจ้ง หรือหากมีการตรวจเจอ ท่านอาจจะถูกจับไปติดคุก ซึ่งนี่ไม่ใช่การข่มขู่ แต่เป็นการแจ้งเตือนชาวบ้านที่ยังไม่รู้เรื่องให้ไปแสดงความบริสุทธิ์ใจของตัวเองว่าไม่มีส่วนร่วม และให้ออกมาจากขบวนการโกงตรงนั้น ตรงนี้แหละที่เขาไปกล่าวหาว่าข่มขู่ ซึ่งความจริงเราไม่ได้ข่มขู่ใคร แต่พวกเรามีเจตนาดีกับคนที่บริสุทธิ์ก็เท่านั้น

นายรณวัฒน์กล่าวต่อว่า ในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค.) ทางกลุ่มฯ ของเราจะเดินทางไปมอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตหอมแดงแก่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อเอาตัวผู้กระทำผิดมารับโทษให้ได้ และขอให้กำลังใจนายภูวิช ยมหา เจ้าหน้าที่คดีพิเศษของดีเอสไอ ที่เป็นตัวอย่างของข้าราชการไทยในการปฏิบัติหน้าที่ ผดุงความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งชาวศรีสะเกษรอความหวังว่าจะนำผู้ทุจริตหอมแดงในครั้งนี้มาลงโทษให้ได้

“ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า ขออย่าได้มีการเปลี่ยนตัวนายภูวิช ยมหา ออกจากคณะที่ลงมาทำการสอบสวนในพื้นที่ เพราะนายภูวิชจะทราบข้อมูลเชิงลึกแทบทั้งหมดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น กลุ่มโจรซึ่งมีแต่เจ้าหน้าที่รัฐจะได้ใจและเหิมเกริมยิ่งขึ้น เพราะหากไม่พอใจเจ้าหน้าที่คนใด หรือเจ้าหน้าที่คนไหนที่ไม่ยอมทำตามความต้องการของตัวเองก็จะร้องเรียนผู้บังคับบัญชาให้ลงโทษ หรือเปลี่ยนตัว ซึ่งหากทำตามความต้องการของโจรในคราบของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ประเทศไทยคงจะเกิดความวุ่นวาย และล่มจมอย่างแน่นอน” นายรณวัฒน์กล่าว

ทางด้าน นายนิวัตร ปิยะพิสุทธิ์ ตัวแทนกลุ่มถลกหนังคนโกงทุจริตหอมแดงยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงแล้วเราไม่เคยไปข่มขู่ใคร เพราะเราไม่มีอิทธิพล หรืออำนาจที่จะสามารถไปข่มขู่ใครได้ มีแต่ฝ่ายตรงข้ามกับเราที่ไปข่มขู่ชาวบ้าน เช่น ให้ผู้นำหมู่บ้านประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงในหมู่บ้านว่า หากชาวบ้านคนไหนเข้าไปให้การต่อเจ้าหน้าที่จะถูกเล่นงานอย่างหนัก ขณะที่ฝ่ายเราแค่ต้องการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทราบถึงข้อเท็จที่เกิดขึ้น แต่ว่าเราเป็นคนส่วนน้อย จึงไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้

“ขอยืนยันว่าเครือข่ายถลกหนังคนโกงหอมแดงยางชุมน้อยของเรา เกิดขึ้นด้วยความที่พวกเราต้องการให้พี่น้องประชาชนได้รับความเป็นธรรม หลังจากที่ถูกหลอก ถูกโกงจากการขายหอมแดงในปีนี้ พวกเราไม่ได้เป็นฝ่ายธุรกิจ หรือการเมืองฝ่ายตรงข้ามตามที่ถูกกล่าวหา แต่ทำไปเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานของสังคม ไม่อยากให้ใครมาเอารัดเอาเปรียบประชาชน ดังนั้นจึงได้เกิดเครือข่ายเฟซบุ๊กนี้ขึ้นมา และขอยืนยันอีกว่าไม่มีใครอยู่เบื้องหลังแน่นอน เป็นกลุ่มที่มีเจตนาบริสุทธิ์อย่างแท้จริง” นายนิวัตรกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น