ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจ-ป.ป.ส. คาด “สมชัย” ผู้ต้องหาคดีซูโดอีเฟดรีนที่สันกำแพง ซื้อบัตรประชาชนเอาสัญชาติไทย เตรียมประสาน อ.แม่สรวย ตรวจสอบว่าเป็นคนไทยจริงหรือไม่ หากพบปลอมแปลงเตรียมชงเรื่องเล่นงานซ้ำ หลังโดนจับอ้างที่เมียนมาร์แล้วอ้างเป็นคนสองสัญชาติหวังหนีโทษเมืองไทย ตะลึงเข้าตรวจค้นบ้านย่านดอยสะเก็ดเจอ “เครื่องทำลายเอกสาร-ซองยาแก้หวัด”
วันนี้ (15 ส.ค. 2555) เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกันเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 90/19 หมู่บ้านกาญจน์กนก 2 ซอย 2 หมู่ที่ 8 ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
ภายหลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของนายสมชัย รักยอดยิ่ง ผู้ต้องหาคดีพบซองยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีนจำนวนมากในพื้นที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจและถูกจับกุมได้ที่ประเทศเมียนมาร์ในขณะนี้
จากการเข้าตรวจค้นภายในบ้านหลังดังกล่าวซึ่งไม่มีผู้ใดอยู่อาศัย พบว่ามีการเข้ามาเก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนใหญ่ออกไปจากบ้านแล้ว อย่างไรก็ตามพบเครื่องทำลายเอกสารยี่ห้อง IDEAL จำนวน 1 เครื่อง พร้อมเศษซองยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีนจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบหนังสือเดินทางระบุชื่อนายสมชัย รักยอดยิ่ง 1 เล่ม สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศรีนครพิงค์ 1 เล่ม ขวดบรรจุยาและกล่องใส่ยาแก้หวัด และกัญชาอีกจำนวนหนึ่ง
การตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวในครั้งนี้เป็นการติดตามขยายผลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายหลังจากที่นายสมชัยซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกับนายอุดร การสมพรต ในคดีการตรวจพบยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟรดีน ภายในบ้านเช่าที่ ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่านายอุดรเป็นผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าว ส่วนนายสมชัยเป็นผู้ทำหน้าที่รับและแกะยาออกจากซองเพื่อรวบรวมส่งต่อให้กับผู้ซื้อซึ่งคาดว่าจะเป็นเครือข่ายผู้ผลิตยาเสพติด
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุนายสมชัยและนายอุดรได้หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ก่อนที่นายสมชัยจะถูกจับกุมได้ในประเทศเมียนมาร์ อย่างไรก็ตามการนำตัวนายสมชัยกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยยังไม่สามารถดำเนินการได้
นายสมชัยอ้างว่าเป็นบุคคลสองสัญชาติ โดยระบุว่าเกิดที่เมืองเชียงตุง ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งจะทำให้นายสมชัยสามารถรับโทษในประเทศเมียนมาร์ได้หากตรวจสอบพบว่าเป็นชาวเมียนมาร์จริง เนื่องจากไทยและเมียนมาร์ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน
พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นในครั้งนี้พบหลักฐานที่สำคัญหลายรายการ ถือเป็นหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่านายสมชัยมีความเกี่ยวข้องกับการรวบรวมและซุกซ่อนยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟรดีน รวมทั้งนำซากซองยากแก้หวัดไปทิ้งเพื่อทำลายหลักฐานในพื้นที่ อ.สันกำแพงในช่วงที่ผ่านมา โดยมูลค่าของบ้านและสิ่งของต่างๆ ที่มีการตรวจยึดได้ในวันนี้มีมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งหลังการตรวจค้นในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ ส่งมอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป
ส่วนกรณีที่นายสมชัยระบุว่าเป็นคนสัญชาติเมียนมาร์นั้น พล.ต.ต.ชำนาญเปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบประวัติของนายสมชัยแล้ว พบว่านายสมชัยอาจมีพฤติกรรมในการปลอมแปลงสัญชาติ
มีรายงานว่านายสมชัยได้ซื้อบัตรประชาชนเพื่อให้ได้สัญชาติเป็นคนไทย ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำการสอบสวนว่าบัตรประชาชนของนายสมชัยที่ทำขึ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2539 ณ อ.แม่สรวย จ.เชียงรายนั้นมาจากการปลอมแปลงหรือไม่ โดยจะประสานไปยัง อ.แม่สรวยเพื่อตรวจสอบข้อมูลต่อไป พร้อมกันนี้จะติดตามตรวจสอบด้วยว่า นายบุญเชิด รักยอดยิ่ง และนางไหนจิ้ว รักยอดยิ่ง ซึ่งระบุว่าเป็นบิดาและมารดาของนายสมชัยนั้นเป็นบิดามารดาที่แท้จริงหรือไม่
ด้านนายวิชัย ไชยมงคล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 กล่าวว่า นอกจากการเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นของนายสมชัยแล้ว เจ้าหน้าที่ยังได้เข้าตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัยอีก 2 จุด ได้แก่บ้านเลขที่ 87/74 หมู่บ้านกาญจน์กนก 1 ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และบ้านเลขที่ 97/38 หมู่บ้านสิรินโฮม 2 ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ หลังจากพบว่าเป็นบ้านของผู้ที่เกี่ยวข้องกับนายสมชัย โดยขณะนี้กำลังติดตามเจ้าของบ้านที่หมู่บ้านกาญจน์กนก 1 เพื่อมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่
ส่วนที่บ้านในหมู่บ้านสิรินโฮม 2 พบเจ้าของบ้านที่อ้างว่าเป็นอดีตภรรยาของนายสมชัย และทรัพย์สินบางส่วน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องกับนายสมชัยหรือไม่ หากพบว่ามมีความเกี่ยวข้องก็จะทำการอายัดทรัพย์สินทั้งหมดต่อไป