ระยอง - ททท.ออกกฎเหล็ก ห้ามผู้ประกอบการใช้โลโก้ ททท.ในทางที่ไม่เหมาะสม ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 109 แห่ง พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534
นายอภิชาติ อินทร์พงษ์พันธุ์ รองผู้ว่าการด้านบริหาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานการประชุมชี้แจงการจดทะเบียนตราเครื่องหมาย และชื่อย่อภาษาไทย และภาษาอังกฤษของ ททท.(การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) ให้ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดระยองทราบ โดยมีนายชูชาติ อ่อนเจริญ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง-จันทบุรี นายไชยรัตน์ ไตรรัตน์จรัสพร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง และผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง
นายอภิชาติ อินทร์พงษ์พันธุ์ รองผู้ว่าการด้านบริหาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ได้จดทะเบียนเครื่องหมาย พร้อมชื่อย่อของ ททท. ทั้งภาษาไทย และอังกฤษ กับสำนักเครื่องหมายการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ตั้งแต่ ปี 2553-2554 แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้หน่วยงาน หรือบุคคลภายนอกนำตราเครื่องหมาย และชื่อย่อของททท. ไปใช้ในทางไม่เหมาะสม แต่หลังจดทะเบียน ก็ยังพบว่า มีผู้ประกอบการบางรายนำเครื่องหมายไปใช้อยู่ แต่ส่วนใหญ่เป็นการใช้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สำหรับการประชุมครั้งนี้ เพื่อเป็นการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวเกี่ยวกับการนำตราเครื่องหมาย และชื่อย่อของ ททท. ไปใช้
นายอภิชาต รองผู้ว่าการด้านบริหาร ททท. กล่าวว่า ส่วนใหญ่ที่ตรวจสอบพบก็คือ ผู้ประกอบการยังเข้าใจผิดคิดว่า ททท. มีอำนาจในการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจบริษัทนำเที่ยว และนำใบอนุญาตเดิมที่เคยขอกับ ททท. และมีตราของ ททท. อยู่ มาติดประกาศไว้ จริงๆ แล้ว ททท. ไม่ได้มีอำนาจเรื่องนี้แล้ว เพราะอำนาจทั้งหมดโอนไปอยู่ในความดูแลของกรมการท่องเที่ยวนานแล้ว ซึ่ง ททท. ก็พยายามร่วมมือกับกรมการท่องเที่ยว และตำรวจท่องเที่ยว ให้ความรู้เรื่องนี้อยู่ โดยหลังจากให้ความรู้ไป ผู้ประกอบการบางรายที่เคยนำป้ายใบอนุญาตที่มีตรา ททท. ไปโฆษณา ก็นำป้ายนั้นออกแล้ว
ทั้งนี้ ททท. จะพิจารณาให้หน่วยงานภายนอก ทั้งส่วนราชการ และเอกชนใช้เครื่องหมาย และชื่อย่อได้ ก็ต่อเมื่อนำไปใช้ในงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โดยไม่ได้เป็นการหาประโยชน์ทางธุรกิจ เช่น กรณีที่เป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดงานกับ ททท. กรณีที่ ททท. เป็นผู้สนับสนุนการจัดงาน โดยที่การอนุญาตให้ใช้ต้องทำบันทึกข้อตกลงการใช้ไว้เป็นหลักฐานด้วย ส่วนบทลงโทษของผู้ที่นำไปใช้โดยมิชอบ จะมี 2 กรณี คือ กรณีการปลอมเครื่องหมายบริการ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 108 แห่ง พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 อีกกรณี คือ เลียนแบบเครื่องหมายบริการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 109 แห่ง พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534
นายอภิชาติ อินทร์พงษ์พันธุ์ รองผู้ว่าการด้านบริหาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานการประชุมชี้แจงการจดทะเบียนตราเครื่องหมาย และชื่อย่อภาษาไทย และภาษาอังกฤษของ ททท.(การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) ให้ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดระยองทราบ โดยมีนายชูชาติ อ่อนเจริญ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง-จันทบุรี นายไชยรัตน์ ไตรรัตน์จรัสพร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง และผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง
นายอภิชาติ อินทร์พงษ์พันธุ์ รองผู้ว่าการด้านบริหาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ได้จดทะเบียนเครื่องหมาย พร้อมชื่อย่อของ ททท. ทั้งภาษาไทย และอังกฤษ กับสำนักเครื่องหมายการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ตั้งแต่ ปี 2553-2554 แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้หน่วยงาน หรือบุคคลภายนอกนำตราเครื่องหมาย และชื่อย่อของททท. ไปใช้ในทางไม่เหมาะสม แต่หลังจดทะเบียน ก็ยังพบว่า มีผู้ประกอบการบางรายนำเครื่องหมายไปใช้อยู่ แต่ส่วนใหญ่เป็นการใช้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สำหรับการประชุมครั้งนี้ เพื่อเป็นการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวเกี่ยวกับการนำตราเครื่องหมาย และชื่อย่อของ ททท. ไปใช้
นายอภิชาต รองผู้ว่าการด้านบริหาร ททท. กล่าวว่า ส่วนใหญ่ที่ตรวจสอบพบก็คือ ผู้ประกอบการยังเข้าใจผิดคิดว่า ททท. มีอำนาจในการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจบริษัทนำเที่ยว และนำใบอนุญาตเดิมที่เคยขอกับ ททท. และมีตราของ ททท. อยู่ มาติดประกาศไว้ จริงๆ แล้ว ททท. ไม่ได้มีอำนาจเรื่องนี้แล้ว เพราะอำนาจทั้งหมดโอนไปอยู่ในความดูแลของกรมการท่องเที่ยวนานแล้ว ซึ่ง ททท. ก็พยายามร่วมมือกับกรมการท่องเที่ยว และตำรวจท่องเที่ยว ให้ความรู้เรื่องนี้อยู่ โดยหลังจากให้ความรู้ไป ผู้ประกอบการบางรายที่เคยนำป้ายใบอนุญาตที่มีตรา ททท. ไปโฆษณา ก็นำป้ายนั้นออกแล้ว
ทั้งนี้ ททท. จะพิจารณาให้หน่วยงานภายนอก ทั้งส่วนราชการ และเอกชนใช้เครื่องหมาย และชื่อย่อได้ ก็ต่อเมื่อนำไปใช้ในงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โดยไม่ได้เป็นการหาประโยชน์ทางธุรกิจ เช่น กรณีที่เป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดงานกับ ททท. กรณีที่ ททท. เป็นผู้สนับสนุนการจัดงาน โดยที่การอนุญาตให้ใช้ต้องทำบันทึกข้อตกลงการใช้ไว้เป็นหลักฐานด้วย ส่วนบทลงโทษของผู้ที่นำไปใช้โดยมิชอบ จะมี 2 กรณี คือ กรณีการปลอมเครื่องหมายบริการ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 108 แห่ง พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 อีกกรณี คือ เลียนแบบเครื่องหมายบริการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 109 แห่ง พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534
