สุโขทัย - พบฤาษีหนุ่มใหญ่กตัญญู หอบแม่วัย 84 ปีขึ้นเขาปฏิบัติธรรมเพื่อเลี้ยงดูตลอด 20 กว่าปี อาศัยซากรถเก๋งเก่าเป็นที่นอนกลางป่า บอกชีวิตที่เหลืออยู่ไม่ต้องคิดว่าพาแม่ไปด้วยเหมาะสมหรือไม่ เพราะท่านคือ “แม่”
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งวันนี้ (10 ส.ค.) ว่า ที่บริเวณป่าบนเขาตั้งหม้อ หรือเขาศรีสวรรค์ หมู่ 2 บ้านศรีสวรรค์ ต.บ้านแก่ง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ได้มีผู้ปฏิบัติตนเป็นฤาษีมาปฏิบัติธรรมอยู่ในป่าบนเขา โดยพาหญิงชราซึ่งเป็นแม่มาพักอาศัยอยู่ด้วย จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของคนในหมู่บ้านถึงความไม่เหมาะสม และเวทนาหญิงชราที่ต้องมาลำบากปีนเขา เข้าป่าไปอยู่กับลูกที่เป็นฤาษี
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ และสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ ทราบว่าแม่ของฤาษีดังกล่าวชื่อ นางโหลย กำมณี อายุ 84 ปี ตอนนี้พักอาศัยนอนอยู่ในรถเก๋งเก่าๆ ที่จอดชั่วคราวอยู่บ้านเลขที่ 172/1 หมู่ 2 ตรงบริเวณทางขึ้นเขาตั้งหม้อ ส่วนฤาษีที่ถูกเรียกขานว่า “หลวงปู่ฤาษีลายดาบส” กำลังปฏิบัติธรรมอยู่ในป่าบนเขา
ผู้สื่อข่าวได้เดินเท้าต่อไปยังสถานที่ปฏิบัติธรรมของฤาษีที่ตั้งอยู่กลางป่าบนเขา ระยะทางประมาณ 700 เมตร พบว่าทางขึ้น 200 เมตรแรกค่อนข้างชัน แต่ได้มีการเทปูนทำเป็นขั้นบันไดเพื่อให้เดินได้สะดวก ส่วนบริเวณสถานที่ปฏิบัติธรรมได้มีการทำเพิงแบบง่ายๆ ไว้เป็นที่พักหลับนอน และมีการสร้างศาลาประดิษฐานรูปปั้นหลวงปู่พระฤาษีตาไฟประลัยโกฏิดาบส ไว้ให้ชาวบ้านกราบไหว้ขอพรด้วย
หลวงปู่ฤาษีลายดาบสเปิดเผยว่า ที่ตนมาหมู่บ้านศรีสวรรค์แห่งนี้เพราะมีชาวบ้านเชิญให้มาอยู่เพื่อปฏิบัติธรรม และให้ช่วยปรุงยาสมุนไพรรักษาโรคให้แก่คนที่ป่วย ตนมีความรู้ด้านนี้เพราะพ่อเป็นหมอต้มยาจึงได้วิชาติดตัวมาแต่เด็ก ประกอบกับได้ศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้กับพระหลายท่านที่เชี่ยวชาญเรื่องสมุนไพร
ส่วนสาเหตุที่ต้องพาแม่ที่ชรามากแล้วมาอยู่ด้วยกันก็เพราะไม่มีใครคอยดูแล จึงต้องเป็นภาระของตนคนเดียว ซึ่งชาวบ้านบางกลุ่มไม่เข้าใจหาว่าพาคนแก่มาลำบาก และบางคนก็ว่าพาแม่มาหากิน
“ตนดูแลแม่มาตั้งแต่ปี 2534 ช่วงนั้นยังเป็นพราหมณ์ ต่อมาได้บวชเป็นพระ มีครั้งหนึ่งแม่ป่วยหนักจึงต้องนอนมุ้งเดียวกับท่านในบ้านเพื่อคอยดูอาการอย่างใกล้ชิด และต่อมาก็ได้สึกจากพระเพื่อมาถือปฏิบัติตนเป็นฤาษี ก็ยังคงต้องหอบหิ้วเอาแม่ขึ้นรถเก๋งคันเก่าๆ เดินทางตระเวนไปฝึกจิต และปฏิบัติธรรมตามป่าเขาหลายแห่งในพื้นที่หลายจังหวัด”
ช่วงกลางคืนจะให้แม่นอนเบาะหลังในรถ ส่วนตัวเองก็จะปักกลดอยู่ใกล้ๆ แต่ก็มีบางครั้งที่ต้องนอนขดบนเบาะคนขับ
ส่วนเรื่องอาหารการกินนั้น ไม่กินเนื้อสัตว์มานาน 21 ปีแล้ว ตัวแม่เองก็เพิ่งจะมากินเจตามตอนหลัง ซึ่งบางครั้งก็มีชาวบ้านทำอาหารมาให้ แต่บางครั้งก็ต้องทำกินเอง
“พเนจรไปแบบนี้มานานหลายปีแล้ว ที่ไหนสงบก็จะอยู่นาน”
หลวงปู่ฤาษีลายดาบสกล่าวต่อว่า มีหลายคนที่มองว่าตนบ้าเพราะมีรอยสักเต็มตัว ซ้ำยังแต่งเป็นฤาษี ขับรถเก๋งเก่าๆ มีพระพุทธรูป และรูปพระต่างๆ ติดเต็มรถไปหมด บางครั้งจำเป็นต้องออกจากป่ามาหาซื้อยา กับข้าวของจำเป็นมากักตุนไว้ให้แม่ บางคนก็มองว่าฤาษีอะไรมาเดินซื้อของในตลาด บ้างก็แสดงอาการรังเกียจ เรื่องแบบนี้เจอจนชินแล้ว ก็ไม่โกรธกัน
“ทุกวันนี้ตนเหลือแม่เพียงคนเดียวที่ยังห่วงอยู่ จะดูแลกันไปจนกว่าคนหนึ่งจะตายจากกัน ช่วงชีวิตที่ผ่านมาเคยทำให้ท่านเสียใจมามากพอแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่คงไม่ต้องคิดมากว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะท่านคือแม่”
ด้าน นายฉลวย อ่อนเตียง อายุ 41 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ตนมีความเลื่อมใสศรัทธาในฤาษี และตั้งใจที่จะฟื้นฟูพัฒนาเขาตั้งหม้อ หรือเขาศรีสวรรค์ ซึ่งมีตำนาน และหลักฐานเคยเป็นที่ตั้งอาศรมของฤาษีมาตั้งแต่ยุคสุโขทัย หรืออาจยาวนานกว่านั้น ที่ผ่านมาจึงได้ร่วมกับชาวบ้านช่วยกันสร้างศาลา และรูปปั้นหลวงปู่พระฤาษีตาไฟเพื่อไว้กราบไหว้ขอพร
โดยเชิญปู่ฤาษีสิงห์สมิงพรายดำดาบส กับเพื่อนฤาษี พร้อมพระครูบาชื่อดังอีกหลายท่าน มาทำพิธีบวงสรวงให้ และได้เชิญหลวงปู่ฤาษีลายดาบส กับฤาษีอีกหลายท่าน ให้มาช่วยสอนธรรมะ และรักษาโรคให้แก่คนเจ็บป่วยที่นี่
สำหรับหลวงปู่ฤาษีลายดาบส เดิมชื่อ นายจำลอง กำมณี อายุ 47 ปี เป็นชาวไทยทรงดำ บ้านเกิดอยู่ ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เป็นลูกคนสุดท้องในพี่น้องรวม 6 คน ปัจจุบันพ่อกับพี่อีก 2 คนเสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนพี่ 3 คนที่เหลือ ไม่สนใจที่จะดูแลแม่ของตัวเอง หลวงปู่ฤาษีลายดาบสจึงต้องรับภาระตามเฝ้าดูแลแม่มานานกว่า 20 ปีแล้ว และเคยมีครอบครัวมาแล้ว 3 ครั้งแต่ไม่มีลูก เคยทำนาและเป็นช่างตีมีด-ช่างซ่อมเครื่องยนต์ ที่สุดเบื่อชีวิตทางโลก จึงบวชเป็นพราหมณ์ เป็นพระ และมาเป็นฤาษี
สำหรับรถเก๋งประหลาด หลวงปู่ฤาษีลายดาบสบอกว่าซื้อมาตั้งแต่ยังเป็นพระในราคา 20,000 บาท โดยเก็บขยะในวัดไปขายเอาเงินมาผ่อนส่งรายเดือน ส่วนพระพุทธรูปต่างๆ ที่นำมาติดรถ นอกจากเก็บสะสมส่วนตัวแล้ว ก็หาเก็บตามใต้ต้นโพธิ์ และขอชาวบ้านที่เขาจะทิ้งบ้าง โดยเรื่องรถกับเรื่องรอยสักทั่วตัวเป็นความชอบส่วนตัว และถือเป็นการแสดงธรรมให้แง่คิดอีกรูปแบบหนึ่ง
ฤาษีเล่าว่า มีครั้งหนึ่งเดินทางไปทำธุระที่กรุงเทพฯ แท็กซี่ถามท่านว่าชอบสีอะไร ท่านตอบว่าชอบสีน้ำเงิน แล้วระหว่าง “อภิสิทธิ์กับทักษิณ” ชอบใครมากกว่ากัน ก็ได้ตอบว่า รักในหลวงมากที่สุด
