ระยอง - ศาลปกครองระยอง พิจารณาคดีนายเศรษฐา ปิตุเตชะ พร้อมพวก 386 คน ฟ้องเพิกถอนประกาศตั้งนิคมอุตสาหกรรมบ้านค่าย (ไออาร์พีซี) โดยศาลนัดตัดสินคดี ในวันที่ 31 สิงหาคมนี้
วันนี้ (9 ส.ค.) ที่ศาลปกครองระยอง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง ศาลปกครองระยอง เปิดให้มีการพิจารณาคดี นายเศรษฐา ปิตุเตชะ พร้อมพวกรวม 386 คน ฟ้องการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 คณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 โดยนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และนายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ผู้รับมอบอำนาจคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย
โดยนายเชี่ยวชาญ สุขช่วย ตุลาการเจ้าของสำนวน นายประสาน บางประสิทธิ์ รองอธิบดีศาลปกครองระยอง นายยงยุทธ เชี่ยวชาญกิจ ตุลาการศาลปกครองระยอง และนายวิบูลย์ กัมมาระบุตร ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองระยอง นั่งบัลลังก์ห้องพิจารณาคดีที่ 1 หมายเลขดำที่ ส.8/2554 แผนกคดีสิ่งแวดล้อม โดยมี นางปะราลี เตชะจงจินตนา ทนายความรับมอบอำนาจบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) และชาวบ้านมารับฟังการพิจารณาคดีในห้องพิจารณารวม 30 คน และมีชาวบ้านจำนวน 50 คน มานั่งรับฟังทางหน้าจอทีวีนอกห้องพิจารณาที่ทางเจ้าหน้าที่ศาลปกครองระยองได้เปิดให้รับชม
นายเศรษฐา ปิตุเตชะ พร้อมพวกรวม 386 คน ฟ้องว่า ผู้ถูกฟ้องคดีได้ประกาศจัดตั้งเขตอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรมระยอง (บ้านค่าย) ในพื้นที่ ต.หนองบัว และ ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2554 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 1 มิถุนายน 2554 การประกาศจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว อาจทำให้เกิดความเดือดร้อน และเกิดความเสียหายแก่ผู้ฟ้องคดี รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ อ.บ้านค่าย แหล่งที่อยู่อาศัย อาจเกิดการแย่งน้ำเพื่อการเกษตร เกิดมลพิษต่างๆ และสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการท่องเที่ยว และอยู่ใกล้แหล่งโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแล้วจากกรมศิลปากร
สำหรับกระบวนการจัดตั้งเขตนิคมอุตสาหกรรม ไม่มีการทำประชาพิจารณ์ อีกทั้งประชาชนในพื้นที่ได้รวมตัวคัดค้านการก่อสร้าง ความไม่โปร่งใสในการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และผลกระทบทางสุขภาพ (HIA) และบริเวณพื้นที่ตั้งเขตนิคมอุตสาหกรรมอยู่ในพื้นที่ประเภทอนุรักษ์ ชนบท และเกษตรกรรม ตามร่างผังเมืองรวมจังหวัดระยอง ผู้ฟ้องคดีได้ร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ยังมิได้รับคำตอบ
สำหรับผู้ฟ้อง ขอให้ศาลพิพากษา 1.เพิกถอนประกาศคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เรื่องจัดตั้งเขตนิคมอุตสาหกรรมระยอง (บ้านค่าย) ท้องที่ ต.หนองบัวและ ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย ฉบับลงวันที่ 20 เมษายน 2554 2.ให้ผู้ฟ้องคดีดำเนินการให้ครบถ้วนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยเฉพาะมาตรา 67 วรรคสอง และพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มาตรา 11 ก่อนที่จะดำเนินการใดๆ 3.ให้ผู้ฟ้องคดีดำเนินการศึกษาการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางยุทธศาสตร์ หรือการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเชิงกลยุทธ์ (SEA) ในท้องที่ จ.ระยอง
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ผู้รับมอบอำนาจได้แถลงข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2555 ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศกฎกระทรวงใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านค่าย มาบข่า จ.ระยอง พ.ศ.2555 มาบังคับใช้ ซึ่งสอดคล้องกับคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีที่ระบุว่า หน่วยงานทางปกครองผู้ถูกฟ้องคดี ร่วมกับบริษัท ไออาร์พีซี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ได้สมรู้ร่วมคิดในการที่จะใช้อำนาจทางปกครองใช้พื้นที่ชุมชนบ้านค่าย มาเป็นพื้นที่จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมระยอง (บ้านค่าย) หากพิจารณาตามผังของนิคมอุตสาหกรรมระยอง (บ้านค่าย) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ได้มีการเสนอมาสอดคล้องกับผังเมืองที่ถูกประกาศเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมาชัดเจน เหตุผลเนื่องจากการดำเนินการจัดทำผังเมืองบ้านค่าย และมาบข่า กระบวนการจัดทำชาวบ้านในพื้นที่รวมทั้งผู้ฟ้องคดีทั้ง 386 ราย มีการคัดค้านมาโดยตลอด ในร่างผังเมืองกำหนดไว้ชัดเจน พื้นที่บริเวณพิพาทเป็นพื้นที่สีขาวคาดเขียว คือ ต้องเป็นพื้นที่เพื่อเกษตรกรรม ต่อมา เมื่อมีการประกาศผังเมืองออกมาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นพื้นที่สีม่วง
ด้าน น.ส.ปะราลี เตชะจงจินตนา ผู้รับมอบอำนาจผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 แถลงเพิ่มเติมว่า กรณีข้อมูลเรื่องการประกาศผังเมืองรวมใหม่วันที่ 24 กรกฎาคม 2555 ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 จะนำเอกสารดังกล่าวไปศึกษา และชี้แจงเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษร กรณีที่มีการกล่าวพาดพิงกรณีเรื่องการสมรู้ร่วมคิดของ (ถูกฟ้องคดีที่ 3 กับหน่วยงานของรัฐ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เป็นการกล่าวอ้างใส่ความผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ที่ไม่เป็นธรรม หลังเสร็จสิ้นการแถลง ศาลได้นัดตัดสินคดีในวันที่ 31 สิงหาคมนี้