ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ดีเอสไอเดินหน้ารวบรวมหลักฐานหวังฟื้นคดี “เคิร์สตี้ ซาร่า โจนส์” อีกครั้ง หลังล่าสุด มารดา-ตำรวจอังกฤษประกาศพร้อมมอบรางวัล 10,000 ปอนด์ให้ผู้ที่แจ้งเบาะแสคดีได้ ยันหากข้อมูลถูกต้องจับผู้ต้องหาได้จริงรับเงินทันที เชื่อตั้งรางวัลช่วยกระตุ้นให้ได้ข้อมูลใหม่ๆ เพิ่ม หลังผ่านไป 12 ปี คดียังนิ่ง ล่าสุด ตรวจดีเอ็นเอหลักฐานพบเรื่องใหม่ “คนเอเชียใต้” อาจมีเอี่ยว
วันนี้ (9 ส.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษพื้นที่ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศ และคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย นางซูซาน โจนส์ และนายแอนดรูว์ จอห์น ผู้กำกับกองสืบสวนสอบสวน กองตำรวจไดเฟด-พาววี่ส์ (Dyfed-Powys) ประเทศอังกฤษ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการเสนอมอบรางวัลแก่ผู้ที่ให้ข้อมูลและเบาะแสเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมน.ส.เคิร์สตี้ ซาร่า โจนส์ ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะครอบรอบ 12 ปีของการเสียชีวิตของเธอในวันที่ 10 ส.ค. นี้
รางวัลดังกล่าว ซึ่งมีมูลค่า 10,000 ปอนด์ หรือประมาณ 491,000 บาทจะมอบให้แก่ผู้ที่สามารถให้ข้อมูล และเบาะแสทางคดี ซึ่งจะเป็นชาวไทย หรือชาวต่างชาติที่อยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ในช่วงเวลาเกิดเหตุก็ได้ แต่มีเงื่อนไข คือ ผู้ที่ให้เบาะแสจะได้รับรางวัลเมื่อข้อมูลที่ให้สามารถนำไปสู่การระบุตัว และจับกุมผู้กระทำผิดได้เท่านั้น โดยเงินจำนวนดังกล่าว กองตำรวจไดเฟด-พาววี่ส์จะเป็นผู้รับผิดชอบ อีกทั้งยังได้จัดทำโปสเตอร์เพื่อประชาสัมพันธ์เรื่องเงินรางวัลดังกล่าว และจะนำไปติดไว้ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ ทั่วจังหวัดเชียงใหม่
การเสนอมอบรางวัลแก่ผู้ที่สามารถให้เบาะแสเกี่ยวกับคดีการฆาตกรรมน.ส.เคิร์สตี้ ซาร่า โจนส์ ในครั้งนี้ ถือเป็นความพยายามล่าสุดของหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการติดตามนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี หลังจากที่ น.ส.เคิร์สตี้ถูกข่มขืน และรัดคอจนเสียชีวิตที่อารีย์เกสต์เฮาส์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2543 และแม้ว่าต่อมา เจ้าหน้าที่จะทำการจับกุม และมีความเห็นสั่งฟ้องนายแอนดริว กิลล์ เจ้าของอารีย์เกสต์เฮาส์ในขณะนั้นเป็นผู้ต้องหา
แต่เนื่องจากผลการตรวจดีเอ็นเอของนายแอนดริวไม่ตรงกับดีเอ็นเอจากอสุจิที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ บวกกับพยานหลักฐานอื่นๆ มีไม่เพียงพอ อัยการจึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง และทำให้คดีดังกล่าวอยู่ในภาวะชะงักงัน จนกระทั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2548 จึงมีการสืบสวนสอบสวน ติดตามหาข้อมูล และประสานกับทางตำรวจอังกฤษเพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้
นางซูซาน โจนส์ มารดาของ น.ส.เคิร์สตี้ ซาร่า โจนส์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ชาวเชียงใหม่ให้ความช่วยเหลือในการติดตามหาตัวผู้กระทำผิดในคดีดังกล่าวกับครอบครัวของตนด้วย เนื่องจากเชื่อมั่นว่า น่าจะยังมีหลักฐาน หรือรายละเอียดที่สำคัญบางอย่างหลงเหลืออยู่ ซึ่งหากมีการเปิดเผยออกมาแล้วจะช่วยให้สามารถสืบสวนสอบสวนและนำไปสู่การจับกุมผู้ที่ฆาตกรรมบุตรสาวของตน ขณะที่นายแอนดรูว์ จอห์น ผู้กำกับกองสืบสวนสอบสวน กองตำรวจไดเฟด-พาววี่ส์ (Dyfed-Powys) ประเทศอังกฤษกล่าวว่า การเสนอที่จะมอบรางวัลให้แก่ผู้ที่สามารถให้เบาะแสเกี่ยวกับคดีดังกล่าวในวันนี้ จะเป็นอีกช่องทางหนนึ่งที่จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถรวบรวมข้อมูลใหม่ๆ ให้ได้มากที่สุด โดยที่ผ่านมา ได้มีการหารือกันถึงแนวทางดังกล่าวร่วมกับกรมสออบสวนคดีพิเศษแล้วเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่า การเสนอรางวัลน่าจะช่วยให้สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้
ด้าน พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวว่า ได้มีการประสานความร่วมมือระหว่างดีเอสไอ และทางการอังกฤษมาโดยตลอด ที่ผ่านมา ได้มีการประสานให้ทางการอังกฤษช่วยทำการเชิญตัว และสอบสวนพยานที่อยู่ในประเทศอังกฤษ จำนวน 5-6 ราย เพื่อรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่การตรวจสอบดีเอ็นเอจากหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ และส่งไปให้ทางอังกฤษช่วยทำการตรวจสอบนั้น พบว่า ดีเอ็นเอที่พบเป็นของคนเอเชียใต้
ข้อมูลที่ได้ก็จะนำมารวบรวม และพิจารณา เพื่อหาทางในการนำคดีดังกล่าวขึ้นมาดำเนินคดีอีกครั้งหนึ่ง โดยในขณะนี้ จะไม่ตั้งเป้าว่าใครที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง แต่จะพยายามติดตามรวบรวมข้อมูล พยานหลักฐานต่างๆ ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะสมารถนำคดีกลับมาดำเนินการ และติดตามหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป
