xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายเภสัชกร 20 จว.อีสานร่วมทำลายยา “แลกไข่” 2 ล้านเม็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เครือข่ายเภสัชกรและสาธารณสุขภาคอีสาน นำยาหมดอายุและเสื่อมสภาพ โครงการ “ไข่ใหม่แลกยาเก่า”  ร่วม 2 ล้านเม็ด กว่า 3 ล้านบาท  มาบดทำลายก่อนนำไปเผาและฝังกลบยังบ่อกำจัดขยะ ที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้  6 ส.ค.)
บุรีรัมย์ - สสจ.บุรีรัมย์ร่วมเครือข่ายเภสัชกร 20 จังหวัดภาคอีสาน นำยาหมดอายุและเสื่อมสภาพที่ประชาชนนำมาแลกในโครงการ “ไข่ใหม่แลกยาเก่า” ร่วม 2 ล้านเม็ด รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านมาบดทำลายก่อนนำไปเผาและฝังกลบที่บ่อกำจัดขยะ ชี้ยังมียาเก่าที่ตกค้างตามบ้านเรือนอีกจำนวนมาก

วันนี้ (6 ส.ค.) กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บุรีรัมย์ ร่วมกับเครือข่ายเภสัชกรและสาธารณสุขภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้นำยาหมดอายุและเสื่อมคุณภาพหลากหลายชนิด ทั้งที่ผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ ที่ประชาชนรับประทานไม่หมดตกค้างอยู่ตามบ้านเรือน นำมาแลกในโครงการ “ไข่ใหม่แลกยาเก่า” จากทั้ง 20 จังหวัดภาคอีสาน ร่วม 2 ล้านเม็ด รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยารักษาโรคเบาหวาน ความดัน และยาลดไขมัน มาบดทำลายที่บริเวณลานจอดรถหน้าโรงแรมเทพนคร อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ก่อนจะนำไปเผาและฝังกลบที่บ่อกำจัดขยะของเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ โดยมีเภสัชกรศรีนวล กรกชกร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เป็นประธานในพิธี

พร้อมกันนี้ เครือข่ายเภสัชกรทั้ง 20 จังหวัดภาคอีสานยังได้ร่วมประกาศเจตนารมณ์ในฐานะเภสัชกร ซึ่งเป็นวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองและบริการผู้บริโภค ว่าจะร่วมกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเกิดความตระหนักและเห็นความสำคัญของยารักษาโรคที่ได้มาเป็นจำนวนมาก ทั้งการเก็บรักษา และรับประทานอย่างถูกวิธี ถูกเวลา ครบกำหนดตามที่แพทย์ หรือเภสัชกรสั่งจ่ายยา เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจของชาติในการจัดซื้อยามารักษาโรคให้ประชาชนปีละหลายล้านบาทอีกด้วย

เภสัชกรศรีนวล กรกชกร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ประธานพิธีทำลายยาหมดอายุและเสื่อมคุณภาพจาก “โครงการไข่ใหม่แลกยาเก่า” ในครั้งนี้ กล่าวว่า ยาที่นำมาทำลายในครั้งนี้เป็นยาที่ประชาชนรับประทานไม่หมดตามที่แพทย์สั่ง ที่ได้นำมาแลกในโครงการ “ไข่ใหม่แลกยาเก่า” ซึ่งเฉลี่ยแต่ละจังหวัดมีประชาชนนำยามาแลกมากกว่า 1 ล้านเม็ด ที่นำมาทำลายในวันนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็จะทำลายในพื้นที่จังหวัดของตัวเอง

ส่วนสาเหตุที่ไม่นำยาดังกล่าวกลับมาใช้ใหม่ เนื่องจากการเก็บรักษายาของประชาชนไม่ได้มาตรฐานเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งสร้างความไม่มั่นใจให้ผู้ป่วยที่จะบริโภคยาดังกล่าวด้วย








กำลังโหลดความคิดเห็น