พิษณุโลก - ผอ.ส่วนป้องกัน สำนัก 4 ยันรู้ตัวคนรุกป่าสงวนลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา ยิงปืนขู่ จนท.ขณะเข้าจับกุม แถมแย่งกุญแจรถไถบึ่งหนีเข้ากลีบเมฆแล้ว เผยเป็นคนใต้ตั้งก๊วนนายหน้าออกกว้านซื้อที่ดินราคาถูกจากชาวบ้าน ขายต่อให้นายทุนสวนยางภาคใต้ราคาสูง ชี้หนึ่งในนั้นอ้างตัวเป็นนักข่าวคอยเคลียร์เจ้าหน้าที่
วันนี้ (1 ส.ค.) ที่เขื่อนนเรศวร อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานโครงการประเทศสีเขียวเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยจัดกิจกรรม “รวมดวงใจปลูกต้นไม้ อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถวายมหาราชา ถวายมหาราชินี ร่วมสร้างประเทศสีเขียว” ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลกจัดขึ้น เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้ร่วมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งพิษณุโลกเป็น 1 ใน 10 จังหวัดนำร่องของประเทศไทย
กิจกรรมครั้งนี้ใช้พื้นที่ 144 ไร่บริเวณเขื่อนนเรศวรปลูกต้นไม้ 10,223 ต้น จากเป้าหมายโครงการของมูลนิธิประเทศสีเขียว ปลูกป่า 1.6 ล้านต้น ภายในปี 2560 โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เช่น นายอนันต์ พรหมดนตรี ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก, นายธนัช เนมีย์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก และนายอดิเรก อินใจ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนัก 4 (พิษณุโลก) และนายกิติพงษ์ ศิริสานนท์ นายอำเภอวังทอง ฯลฯ เข้าร่วม และมีประชาชน ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา มาร่วมปลูกต้นไม้จำนวนมาก
และระหว่างที่ร่วมกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ นายอดิเรก อินใจ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนัก 4 (พิษณุโลก) และนายกิติพงษ์ ศิริสานนท์ นายอำเภอวังทอง กล่าวถึงเหตุการณ์ นายทุนเหิม! ยิงปืนขู่ระหว่าง จนท.ป่าไม้บุกยึดคืนพื้นที่บุกรุกป่าสงวนลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวาทำสวนยางพารา แถมแย่งกุญแจรถไถจากมือ จนท.ป่าไม้ ว่า ล่าสุดตรวจสอบทราบว่านายเอ ที่ขับรถไถคูโบต้าหนีหายเข้ากลีบเมฆไม่ยอมให้จับกุม และล่าสุดในทีมยังอ้างตัวเป็นนักข่าว พาคนผิดไปเคลียร์กับสำนักงานป่าไม้ สำนัก 4 เพื่อขอเคลียร์คดีด้วย
นายอดิเรกบอกว่า ช่วงค่ำวันก่อนมีบุคคลอ้างตัวว่าเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง พากลุ่มนายทุน-ผู้กระทำผิดพูดคุยกับตนเพื่อขอเคลียร์คดี แต่ตนบอกไปแล้วว่าเรื่องทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวนแล้ว หากไปแก้ต่างก็ให้ไปคุยที่ สภ.แก่งโสภา เพราะหมดอำนาจหน้าที่การจับกุมดำเนินคดีในส่วนของตนไปแล้ว
แหล่งข่าวเปิดเผยเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีกำลังน้อย จึงทำให้ถูกกลุ่มผู้บุกรุกป่าหลบหนีไปได้ ทราบคนหนึ่งว่า “เอ” ที่ยิงปืนขู่แถมแย่งกุญแจไปจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้นั้น ปัจจุบันมีภาพปรากฏอยู่ และจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกก่อนออกหมายจับต่อไป เบื้องต้นทราบว่า นายเอ คือ นายเอกภพ นพศรีแก้ว เคยพาพวกคนใต้ด้วยกันรวม 3 คน ซึ่งในจำนวนนั้นชอบอ้างตัวว่าเป็นนักข่าว มาขอเข้าพบนายกิติพงษ์ ศิริสานนท์ นายอำเภอวังทอง แต่นายอำเภอวังทองไม่ให้เข้าพบ เพราะทราบว่ากลุ่มบุคคลเหล่านั้นเป็นกลุ่มพวกนายทุนคนใต้ ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ทราบเพียงว่าตั้งกลุ่มเป็นนายหน้าค้าที่ดินขายให้นายทุนทำสวนยาง โดยจะทำการซื้อขายที่ดินในราคาถูกจากชาวบ้าน จากนั้นก็นำไปขายในราคาสูงแก่นายทุนภาคใต้ ทำให้คนในพื้นที่ไม่ค่อยชอบหรือพอใจนัก ขณะที่คนใต้ก็ไม่ค่อยทราบราคาที่ดินที่แท้จริง เมื่อเห็นว่าราคาที่ดินพิษณุโลกถูกกว่าทางภาคใต้ก็ซื้อแล้ว ทำให้กลุ่มคนพวกนี้ฮึกเหิมมากขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้ (1 ส.ค.) ที่เขื่อนนเรศวร อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานโครงการประเทศสีเขียวเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยจัดกิจกรรม “รวมดวงใจปลูกต้นไม้ อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถวายมหาราชา ถวายมหาราชินี ร่วมสร้างประเทศสีเขียว” ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลกจัดขึ้น เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้ร่วมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งพิษณุโลกเป็น 1 ใน 10 จังหวัดนำร่องของประเทศไทย
กิจกรรมครั้งนี้ใช้พื้นที่ 144 ไร่บริเวณเขื่อนนเรศวรปลูกต้นไม้ 10,223 ต้น จากเป้าหมายโครงการของมูลนิธิประเทศสีเขียว ปลูกป่า 1.6 ล้านต้น ภายในปี 2560 โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เช่น นายอนันต์ พรหมดนตรี ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก, นายธนัช เนมีย์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก และนายอดิเรก อินใจ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนัก 4 (พิษณุโลก) และนายกิติพงษ์ ศิริสานนท์ นายอำเภอวังทอง ฯลฯ เข้าร่วม และมีประชาชน ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา มาร่วมปลูกต้นไม้จำนวนมาก
และระหว่างที่ร่วมกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ นายอดิเรก อินใจ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนัก 4 (พิษณุโลก) และนายกิติพงษ์ ศิริสานนท์ นายอำเภอวังทอง กล่าวถึงเหตุการณ์ นายทุนเหิม! ยิงปืนขู่ระหว่าง จนท.ป่าไม้บุกยึดคืนพื้นที่บุกรุกป่าสงวนลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวาทำสวนยางพารา แถมแย่งกุญแจรถไถจากมือ จนท.ป่าไม้ ว่า ล่าสุดตรวจสอบทราบว่านายเอ ที่ขับรถไถคูโบต้าหนีหายเข้ากลีบเมฆไม่ยอมให้จับกุม และล่าสุดในทีมยังอ้างตัวเป็นนักข่าว พาคนผิดไปเคลียร์กับสำนักงานป่าไม้ สำนัก 4 เพื่อขอเคลียร์คดีด้วย
นายอดิเรกบอกว่า ช่วงค่ำวันก่อนมีบุคคลอ้างตัวว่าเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง พากลุ่มนายทุน-ผู้กระทำผิดพูดคุยกับตนเพื่อขอเคลียร์คดี แต่ตนบอกไปแล้วว่าเรื่องทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวนแล้ว หากไปแก้ต่างก็ให้ไปคุยที่ สภ.แก่งโสภา เพราะหมดอำนาจหน้าที่การจับกุมดำเนินคดีในส่วนของตนไปแล้ว
แหล่งข่าวเปิดเผยเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีกำลังน้อย จึงทำให้ถูกกลุ่มผู้บุกรุกป่าหลบหนีไปได้ ทราบคนหนึ่งว่า “เอ” ที่ยิงปืนขู่แถมแย่งกุญแจไปจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้นั้น ปัจจุบันมีภาพปรากฏอยู่ และจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกก่อนออกหมายจับต่อไป เบื้องต้นทราบว่า นายเอ คือ นายเอกภพ นพศรีแก้ว เคยพาพวกคนใต้ด้วยกันรวม 3 คน ซึ่งในจำนวนนั้นชอบอ้างตัวว่าเป็นนักข่าว มาขอเข้าพบนายกิติพงษ์ ศิริสานนท์ นายอำเภอวังทอง แต่นายอำเภอวังทองไม่ให้เข้าพบ เพราะทราบว่ากลุ่มบุคคลเหล่านั้นเป็นกลุ่มพวกนายทุนคนใต้ ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ทราบเพียงว่าตั้งกลุ่มเป็นนายหน้าค้าที่ดินขายให้นายทุนทำสวนยาง โดยจะทำการซื้อขายที่ดินในราคาถูกจากชาวบ้าน จากนั้นก็นำไปขายในราคาสูงแก่นายทุนภาคใต้ ทำให้คนในพื้นที่ไม่ค่อยชอบหรือพอใจนัก ขณะที่คนใต้ก็ไม่ค่อยทราบราคาที่ดินที่แท้จริง เมื่อเห็นว่าราคาที่ดินพิษณุโลกถูกกว่าทางภาคใต้ก็ซื้อแล้ว ทำให้กลุ่มคนพวกนี้ฮึกเหิมมากขึ้นเรื่อยๆ