xs
xsm
sm
md
lg

ขอดเกล็ด “กรุแตก” เมืองสองแคว จากปี 48-55 โผล่แล้วนับสิบ บางวัดมีเบิลซ้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พระกรุนางพญา วัดสุดสวาสดิ์ จ.พิษณุโลก แตกครั้งแรกเมื่อวันวาเลนไทน์ 14 ก.พ.53
พิษณุโลก - ย้อนรอยกรุแตกสองแควตั้งแต่ปี 48 ยันปี 55 หลายวัดแตกเบิล ชี้เฉพาะ “วัดสุดสวาสดิ์” แตกรับวันวาเลนไทน์พอดี 2 ปีซ้อน (53-54) ส่วนพระกรุบ่อทองคำดังยันภาคใต้ แต่เจ้าอาวาสหายเข้ากลีบเมฆ “พระขุนไกร-พ่อขุนแผน” วัดปากคลองฯ แม้ไม่มีประวัติแต่คนแห่เช่า ตบท้ายกรุล่าสุดวัดท่าไชย-พรหมพิราม มาพร้อมตำนานเรื่องเล่าของเก่า

วิพากษ์กันไปทั่วแล้วสำหรับกระแส “กรุแตก” ที่พิษณุโลกที่แตกกันถี่ยิบ ชนิดที่ว่าหากวัดใดต้องการปัจจัยสร้างโบสถ์ วิหาร จั่วหัวว่า “กรุแตก” ข่าวมักแพร่สะพัดทำเงินเข้าวัดดีกว่า เช่ารถสองแถวพาคนสาวแก่เดินแจกซองกฐิน ผ้าป่า ฯลฯ แบบเทียบกันไม่ได้เลย และถ้าสื่อประทับตรา เซียนพระทั่วสารทิศมุ่งเข้าหาเจ้าอาวาสจนกุฏิแทบถล่ม เช่าด้วยแบงก์พันโดยไม่สนใจ อย่างวัดบ่อทองคำ ระดับนายก อบจ.พิษณุโลกถึงกับเซ็นเช็คจ่าย 200,000 บาทแบบเห็นๆกันมาแล้ว

และในปีนี้ (2555) เพียงช่วงเวลาไม่ถึงเดือน พิษณุโลกก็มีข่าวกรุแตกถึง 3 วัดซ้อนๆ แม้ดูเหมือนว่ายอดเช่าจำหน่ายอาจไม่ดีนัก แต่เม็ดเงินไหลทันตาเห็น ขณะที่คนในวงการเริ่มสงสัยว่าพิษณุโลก เมืองอกแตก หรือเมืองกรุแตกกันแน่

โดยบันทึกสถิติกรุแตกที่พิษณุโลกปีนี้เกิดขึ้นเมื่อ 26 มิ.ย. 55 ที่เขาสมอแคลง อ.วังทอง ที่มีการนำวัตถุโบราณขึ้นมาใต้ดินลึกจากปากถ้ำประมาณ 2-3 เมตร แล้วก็พบพระเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นพระนางพญาพิมพ์อกนูนใหญ่และพระพุทธชินราชเนื้อดินพิมพ์ฐานบัวสภาพเก่าถูกฝังอยู่ใต้ดินบริเวณปากถ้ำที่ลึกลงไปประมาณ 2-3 เมตร

ตามมาด้วย 17 ก.ค. 55 ที่วัดนางพญา เจอพระนางพญาปี 14-15 ใต้หลุมเสาเข็มเตรียมตอกเสาเข็มสร้างพลับพลาจตุรมุขที่ประทับของครอบครัวสมเด็จพระนเรศวรมหาราชจำนวน 5 พระองค์

ถัดจากนั้นอีกไม่กี่วัน คือ 20 ก.ค. 55 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีกรุแตกเกิดขึ้นที่วัดท่าไชย หมู่ 2 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม ขณะที่ทางวัดรื้อโบสถ์หลังเก่าออกเพราะได้สร้างโบสถ์แห่งใหม่แต่ยังไม่เสร็จ ระหว่างกำลังรื้อถอนปรากฏว่าบริเวณฐานพระพุทธและใต้ใบเสมารอบพระอุโบสถพบสิ่งของเครื่องใช้โบราณ ทั้งปิ่นทองปักผม, ชานหมาก, ขันเงิน, ทัพพีเงิน, เหรียญเงิน ร.5, สตางค์แดง และพบพระเครื่องพิมพ์นางพญาร่วม 2 พันองค์ ฝังอยู่ใต้ฐานพระประธานภายในโบสถ์ ก่อนจะปล่อยเช่าที่ราคา 199 บาท หรือ 499 บาทกันแน่

ทั้งนี้ พระขึ้นจากดิน หรือกรุแตกที่พิษณุโลกเกิดขึ้นมากกว่า 10 ครั้งในรอบ 5-6 ปีที่ผ่านมา (2548-2555) ไม่รวมกรุแตกยิบๆ ย่อยๆ ตามวัดชนบท ห่างไกลไม่มีชื่อเสียง

โดยลำดับเรื่องราว กรุแตก ประเดิมกรุแรก วันที่ 19 ก.ค. 48 ที่วัดราชบูรณะ อ.เมืองพิษณุโลก มีการขุดพบกรุพระนางพญาบรรจุอยู่ในไหโบราณ ครานั้นพระณรงค์ศักดิ์ ฐิติอิทธี รองเจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ บอกว่ามีโยมมาเล่าให้ฟังเมื่อ 16 ก.ค. 48 ว่ามีเทพเทวดามาเข้าฝันว่า ที่บริเวณใต้ฐานใบเสมา หน้าพระอุโบสถทรงเรือ อายุเก่าแก่กว่า 700 ปี มีไหโบราณ 3 ใบ บรรจุพระพิมพ์นางพญาถูกฝัง ต่อมาคณะกรรมการวัดและพระสงฆ์จึงทำพิธีบวงสรวง ลงมือขุดตรงจุดที่ระบุในความฝันเพื่อพิสูจน์ ลึกลงไป 1 เมตร เจอไหทั้ง 3 ใบ เป็นพระนางพญาพิมพ์เข่าตรง พิมพ์เข่าโค้ง พระพุทธชินราชพิมพ์ใบมะยม พร้อมเหรียญสตางค์แดง ราคา 1 สตางค์ ระบุปีผลิต 2485 ส่วนอายุไหคาดว่าน่าจะอยู่ประมาณ 50-60 ปี

เซียนพระทั่วสารทิศแห่เช่าบูชา เพราะคิดว่าพระนางพญาของแท้ราคาหลักล้าน ทำให้ราคาวิ่งจาก 499 บาท จนทะลุหลักพัน หลักหมื่น

จากนั้นเริ่มมีกระแสกรุแตกเกิดเป็นระยะ โดยเมื่อ 9 มิ.ย. 49 พระกรุวัดโพธิญาณ (กรุโรงทอ) แตกขึ้น โดยพบชินราชซุ้มเส้นคู่อยู่ใต้พระบูชาขนาดใหญ่ แต่สื่อไม่ค่อยประโคมข่าว ทำให้ราคาจำหน่ายอยู่หลักพันบาท แต่ก็ยังพอมีปัจจัยเข้าวัดโพธิญาณบ้าง
 
แต่ที่ฮือฮาครั้งใหญ่ คือ 14 ก.พ. 53 (วันวาเลนไทน์) ผู้สื่อข่าวทุกแขนงลุยไปที่วัดสุดสวาสดิ์ ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก เพราะข่าวกรุแตก คนแห่ขุดหาพระ เพราะรถแบ็กโฮขุดรื้อถอนศาลาหลังเก่าลึกลงไป 3 เมตร เจอไหโบราณ พบ “พระนางพญา”

พระครูประภัศร์โสตถิคุณ เจ้าอาวาสวัดสุดสวาสดิ์ กล่าวว่า เป็นพระนางพญากรุวัดสุดสวาสดิ์ที่เคยแตกไปก่อนหน้านี้เมื่อเกือบ 100 ปีที่ผ่านมา กรรมการวัดเปิดเช่าบูชาองค์ละ 1 พันบาทขึ้นไป จนสามารถสร้างศาลาหลังใหม่ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ในวันวาเลนไทน์ปีต่อมา (14 ก.พ. 54) กรุนางพญา วัดสุดสวาสดิ์ แตกซ้ำอีกรอบ คราวนี้ชาวบ้านแห่ขุดคุ้ยใต้ดินลึก 2-3 เมตร จากที่วัดลงมือขุดโดยใช้รถแบ็กโฮตักดินบริเวณภายในวัด เจอไหฝังอยู่ใต้ดินอีก 2 ไห ทั้งใบเล็กและใหญ่ เป็นพระพิมพ์นางพญาวัดสุดสวาสดิ์ เนื้อดินเผา มีทั้งเนื้อดำ และเนื้อแดง

14 มี.ค. 53 ชาวบ้านแห่ขุดค้นหาพระพิมพ์นางพญาใกล้ฐานเจดีย์หลวง วัดราชบูรณะ พบพระเข่าโค้งเข่าตรง ทันทีที่ประชาชนทราบข่าว “กรุวัดราชบูรณะแตก รอบ 2” ก็แห่ขุดหาพระนางพญาเข่าโค้งและเข่าตรง ครั้งนี้มี 2 สี คือสีดำ และสีขาวเนื้อดิน

พระปรีชาวุฒิสาสน์ วุฑฒิโก เลขานุการเจ้าอาวาส ผู้ค้นพบบอกว่า พระและเณรมาช่วยกันพัฒนาวัดใกล้วันสงกรานต์ ขุดรากถอนโคนต้นมะม่วงลึก 1 เมตร พบปากไห กระทั่งทราบว่า บรรจุพระเครื่องอยู่จำนวน 5 ไห คาดว่าอดีตเจ้าอาวาสสร้างและฝังไว้เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2469 หรือกว่า 80 ปี

ครั้งนั้น ราคาไหลจาก 499 บาททะลุถึงหลักพัน-หลักหมื่น เช่น ชินราชใบมะยม นางพญาองค์สีดำ เป็นต้น

และแล้ว “วัดบ่อทองคำ ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก” ก็มี “กรุแตก” ตามมาติดๆ คือ 29 มี.ค. 53 พระอธิการทวี อตถกาโร เจ้าอาวาสวัดบ่อทองคำ เปิดเผยว่า วัดบ่อทองคำเป็นวัดเก่าแก่ มีกรุพระที่ถูกลักลอบขุดมานานแล้ว เคยห้ามขุดกันเมื่อปี 2524 กระทั่งลองขุดข้างวิหารหลวงพ่อทองคำ ประมาณ 2 เมตรก็พบซากอิฐโบราณ บริเวณฐานเสาวิหารหลังเก่า เจอพระพิมพ์เนื้อโลหะ 1 ชิ้น และพระวัดนางพญา 2 องค์ จึงขุดไปเรื่อยๆ เจอภาชนะดินเผาโบราณจำนวนหลายไห ภายในบรรจุพระพิมพ์นางพญาพิมพ์ใหญ่จำนวนมาก คาดว่าเป็นพระสมัยอยุธยา

จากนั้นมีการขุดพระขึ้นมาเรื่อยๆ จนปรากฏว่าพบพระบ่อทองคำ เนื้อทองคำในช่วงหลัง โดยสภาพเป็นเศษทองดำติดอยู่องค์พระ สร้างความฮือฮาอีกรอบ ครั้งนั้นนายสุรินทน์ ฐิติปุญญา นายก อบจ.พิษณุโลก ถึงกับลงทุนจ่ายเช็ค 2 แสนบาทเพื่อเช่าพระไปจำนวนมาก
 
ต่อมา 23 มิ.ย. 53 ที่วัดสระสี่เหลี่ยม ม.5 ต.อรัญญิก ก็มีการจุดพบกรุพระนางพญาจำนวนมาก บอกว่าอายุกว่า 100 ปี บรรจุอยู่ในไหโบราณฝังอยู่ใต้ต้นมะขามใหญ่บนเนินโบสถ์เก่าแก่ ซึ่งขึ้นทะเบียนต่อกรมศิลป์ ทำให้กระแสพระนางพญาวัดสระสี่เหลี่ยมโด่งดัง คนทั่วสารทิศแห่เช่าบูชาจำนวนมาก เริ่มตั้งแต่ราคา 499-1999 บาท ทั้งองค์ดำ องค์แดง องค์เล็ก องค์ใหญ่

ตามมาด้วยเหตุ “หลวงพ่อขวัญดี” พระเกจิ วัดท่ามะปราง อ.เมืองพิษณุโลก มรณภาพภายในกุฏิ และปรากฏภาพเคลื่อนย้ายร่าง นั่งทำสมาธิ ออกสู่สาธารณชน เมื่อ 19 ก.ย. 53 ทำให้พระอธิการจักรภพ พุทธยาโน เจ้าอาวาสวัดท่ามะปราง พระอุดมศักดิ์ อุตมสักโก รองเจ้าอาวาสวัดท่ามะปรางตรวจสอบทรัพย์ภายในกุฏิ พบวัตถุมงคลของหลวงพ่อขวัญดี เช่น รูปหล่อของหลวงพ่อ เหรียญรุ่นแรกรูปไข่ ผ้ายัน ตะกรุด ก่อนมีการนำมาให้เช่าบูชาจากราคาไม่กี่ร้อยบาท เพียงไม่กี่วันพุ่งไปเกือบหมื่นบาท

14 ธ.ค. 53 ที่วัดปากคลองชุมแสงสงคราม ม.2 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ขณะเจ้าอาวาสให้รถแบ็กโฮปรับพื้นที่ทำถนนเข้าวัดเพราะถูกน้ำท่วม พบไหโบราณบรรจุพระขุนไกร และโบราณวัตถุสมัยสุโขทัยจำนวนมาก ไหพระเก่า 1 ใบ ครานั้นเซียนพระยืนยันว่าเป็นพระพิมพ์ขุนไกร พิมพ์เล็ก เป็นพระตระกูลขุนแผน ศิลปะอู่ทอง
 
ครั้งนั้นทางวัดปากคลองชุมแสงปล่อยเช่าในราคาไม่สูงนัก จนวัดสามารถนำเงินมาปรับปรุงสิ่งสร้างภายในวัดได้สำเร็จ

26 ก.ย. 54 กรุแตกวัดสระสี่เหลี่ยมอีกครั้งเป็นรอบที่ 2 พบพระนางพญาและพระชินราชใบเสมาเนื้อชินโบราณ บริเวณเจดีย์หน้าโบสถ์เก่าแก่อายุกว่า 400 ปี

26 ธ.ค. 54 พระครูวินัยธร เจ้าอาวาสวัดบ้านบ่อวนาราม ม.3 บ้านบ่อ ถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก อ.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เปิดกรุพระเครื่องเก่าที่อยู่ใต้ฐานพระประธานบนศาลาการเปรียญ พบว่าเป็นพระเนื้อดินเผา มี 3 พิมพ์ คือ พระพิมพ์ชินราช พิมพ์ท่ามะปราง และพิมพ์พระกำแพงฐานตาราง

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่ากรุไหนดัง กรุไหนดับ มักขึ้นอยู่กับการนำเสนอผ่านสื่อที่มีความสัมพันธ์กับหลายวัด
กรุนางพญา วัดสุดสวาสดิ์ แตกซ้ำในวันวาเลนไทน์ปีถัดมา คือ 14 ก.พ. 54
กรุนี้ เป็นของวัดสระสี่เหลี่ยม รอบที่ 1
นี่ก็แตกอีกครั้ง ของวัดสระสี่เหลี่ยม
กรุนี้ เป็นพระขุนไกร ที่มีกรุแตกที่วัดปากคลองฯ ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมายนัก แต่ก็ทำเงินเข้าวัดได้ไม่น้อย


อันนี้เป็นพระกรุเขาสมอแคลง ที่เป็นกรุเปิดฉากของปีนี้ (2555) ก่อนที่จะมีกรุวัดอื่น ๆ ทยอยแตกในเวลาไล่เลี่ยกันไม่ถึง 1 เดือน รวมแล้วถึง 3 กรุ
กำลังโหลดความคิดเห็น