xs
xsm
sm
md
lg

ญาติแจ้งจับ จนท.ทัณฑสถานซ้อมทารุณสุดโหด-ขู่เอาปืนยิงหัว ระเบิดขว้างบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ระยอง - ญาติ 3 วัยโจ๋เมืองระยอง แจ้งความจับ จนท.ทัณฑสถาน ก่อนพาหลาน และเพื่อนเข้าร้องสื่อ แฉหลาน และเพื่อนทั้ง 3 คนถูกเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง ซ้อมโหด ใช้กระบองฟาดศีรษะ เตะยอดอกล้มคว่ำทั้งยืน กระดูกนิ้วก้อยขวาหัก และยังข่มขู่จะเอาปืนไปยิงหัว เอาระเบิดไปขว้างบ้าน

วันนี้ (29 ก.ค.) นางวันเพ็ญ (นามสมมติ) อายุ 52 ปี พาหลาน และเพื่อนรวม 3 คน คือนายบอส (นามสมมติ) อายุ 19 ปี นายก็อต (นามสมมติ) อายุ 19 ปี และนายเจมส์ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เข้าร้องสื่อกรณีหลาน และเพื่อนทั้ง 3 คนถูกเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง ซ้อมโหด ใช้กระบองฟาดศีรษะ เตะยอดอกล้มคว่ำทั้งยืน กระดูกนิ้วก้อยขวาหัก แพทย์ต้องใส่เฝือกให้ ถือว่าเป็นการกระทำอย่างป่าเถื่อน และยังข่มขู่จะเอาปืนไปยิงหัว เอาระเบิดไปขว้างบ้าน

พร้อมยังกล่าวอีกว่า “กูตบมาทุกรุ่น ไม่เห็นมีใครมีปัญหา แน่จริงมึงไปฟ้อง พวกมึงจะจบข้างในไหม” โดยก่อนหน้านี้ ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.เจริญ เดชพ่วง ร้อยเวร สภ.มาบตาพุด ให้ดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานตีนโหดแล้ว

นายก็อต (นามสมมติ) เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตน และเพื่อนอีก 2 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง จับกุมคดีเสพยาเสพติด เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และถูกส่งตัวเข้าไปอยู่ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง ในฐานะผู้ป่วยเพื่อรอการพิสูจน์เพื่อส่งต่อไปบำบัด ตามโครงการของรัฐบาล ต่อมา เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ตนกับเพื่อนที่ถูกส่งไปเพื่อรอการพิสูจน์เพื่อส่งต่อไปบำบัดรวม 10 คน ถูกเจ้าหน้าที่ฯ เรียกให้มาทำหน้าที่จัดเลี้ยง ด้วยการจัดอาหาร ทำหน้าที่ตักอาหาร

ระหว่างที่ทำกิจกรรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตน และนายเจมส์ และนายบอส ได้เจอไฟแช็กที่หมดน้ำมันแล้วจากกองขยะ จึงก้มลงเก็บมาใส่กระเป๋า โดยคิดว่าจะนำมาประดิษฐ์เป็นรถเล่น พอเดินมาเจอครูสมโภช ขุดโพธิ์ (หรือครูจอร์จ) เจ้าหน้าที่ทัณฑสถานฯ ถามว่าในกระเป๋ามีอะไร จึงตอบว่ามีไฟแช็ก ครูจอร์จได้สั่งให้ตนนั่งลงกับพื้นใช้ฝ่ามือตบบริเวณใบหน้าอย่างแรง 6-7 ครั้ง และใช้เท้าที่สวมรองเท้าคอมแบตเตะบริเวณหน้าอก ชายโครงซ้าย และลิ้นปี่อีกหลายครั้ง จนเกิดอาการจุกแน่นหน้าอกล้มลงกองกับพื้นอาเจียนเป็นเลือด แล้วลากเข้าไปในห้องสอบสวน พร้อมพูดว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของการถูกเตะ

จากนั้น ได้บันทึกข้อความ และเอามือปิดข้อความไว้ และให้เซ็นชื่อลงในบันทึกโดยไม่ให้อ่านข้อความ แล้วได้เรียกเพื่อนๆ อีก 9 คน มาเซ็นเอกสารทั้งหมดโดยไม่ให้อ่านข้อความเช่นกัน จากนั้น ครูจอร์จสั่งให้ไปหาบุหรี่กับไฟแช็กมาให้ได้ แล้วมึงจะรอด (บุหรี่คือยาเส้นยี่ห้อรำวง เวลาจะสูบต้องนำมามวนกับกระดาษ) โดยมีผู้คุมหน้าประตูเป็นคนนำเข้ามาขายในราคาห่อละ 100 บาท จากราคาท้องตลาดห่อละ 5 บาท ตนและเพื่อนได้ช่วยกันออกมาหาบุหรี่ได้ แต่ไม่ได้ไฟแช็ก หลังจากนั้น ครูจอร์จได้นำกระดาษมาเขียนบันทึกข้อความ และบังคับให้นายบอส นายก็อต และนายวุฒิ เซ็นชื่อในบันทึกข้อความ

โดยไม่ทราบว่าข้อความเขียนอะไร เพราะไม่ให้อ่านข้อความ และบังคับให้ลุกนั่งเกือบ 700 ครั้ง แล้วให้ไปยืนบนขอนไม้กลางแดด ตั้งแต่ 09.00-14.00 น.และสั่งให้มายืนทุกวัน ต่อมา วันที่ 25 กรกฎาคม แม่นายก็อตได้มาเยี่ยมและพูดว่าถูกซ้อม พอช่วงบ่ายวันเดียวกัน ป้านายเจมส์เดินทางมาเยี่ยม และถามว่านายก็อตถูกซ้อมจริงหรือไม่ จึงพูดไปว่า ป้าช่วยประกันนายก็อต และพวกออกไปด้วย พูดอะไรมากขณะนี้ไม่ได้เพราะมีเจ้าหน้าที่ฯ เดินอยู่แถวนี้

ในเช้าวันที่ 26 กรกฎาคม หลังถูกสั่งให้ไปยืนตากแดดทั้ง 3 คน ครูจอร์เดินเข้ามาพูดจาข่มขู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกัน ได้มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดระยอง เดินทางเข้ามาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับถูกเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานซ้อม ก่อนที่เจ้าหน้าที่ฯ จะพาไปพบเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ ครูจอร์จได้ปรี่เข้ามาชี้หน้า

และพูดว่า “มึงฟ้องใช่ไหม มึงจะเอากับกูใช่ไหม มึงออกไปมึงคุยกับเขาให้ดี ว่าไม่มีอะไร ไม่เช่นนั้นกูจะส่งมึงไปวิวัฒน์พลเมือง 4 เดือน ไม่ให้เห็นหน้าพ่อแม่มึง” พอเดินออกมาก็พบกับผู้คุมอีกคนชื่อนายกระจาย คำชุมแสง ก็พูดอีกว่า “มึงปากโป้งใช่ไหม มึงทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด” เสร็จแล้วก็เข้ามาเตะที่บริเวณหน้าอก 2 ที ตนยกแขนขึ้นมาบังไว้ พร้อมใช้กระบองตีที่ศีรษะอีก 2 ที จนศีรษะบวมปูด ก่อนจะเดินออกมาพบเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ แต่ก็ไม่กล้าพูดความจริงในขณะนั้นได้

เพราะถูกซ้อม และข่มขู่ทำร้าย อาจไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต เจ้าหน้าที่คุมประพฤติได้แต่ถ่ายรูปศีรษะบวมปูดไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น จากนั้น เจ้าหน้าที่ทัณฑสถานฯ ชื่อ ครูธีระ ครูกระจาย ครูจอร์จ และครูแป๋ม ได้เรียกนายเจมส์ และตนเข้าไปข่มขู่อีก สอบถามว่าไปเล่าอะไรให้ป้าฟัง ป้าถึงได้มาเอาเรื่อง มึงได้ไปวิวัฒน์พลเมืองกันแน่ และครูธีระยังบอกว่า “กุนซือของพวกมึงเป็นใคร แน่แค่ไหนไปเรียกมาเจอกับกูหน่อย”

ต่อมา ช่วงบ่ายวันที่ 27 กรกฎาคม นายเจมส์ นายก็อต และนายบอส ก็ได้รับการประกันตัว ขณะรอพิมพ์ลายนิ้วมือ ครูกระจาย คำชุมแสง พูดข่มขู่อีกว่า พ่อแม่มึงเป็นใคร กูจะไปยิงหัวพวกมึงเมื่อไรก็ได้ วิ่งให้ทันแล้วกัน มึงรู้ไหมปืนขนาด 9 มม.ของกู ลูกกระสุนเม็ดละแค่ 80 บาท ค่าหัวพวกมึงมีแค่ 80 บาทเท่านั้น กูจะยิงพวกมึงเมื่อไหร่ก็ได้ หรือจะเอาลูกเกลี้ยงไปขว้างที่ร้านมึง กูจะสับหน้าร้านมึงให้หมดแม็กเลย พวกมึงระวังตัวไว้ให้ดีแล้วกัน” และขณะที่พูดไปด้วยก็ยังใช้สันแฟ้ม และมือ ตบที่ศีรษะคนละหลายครั้ง พร้อมกับพูดว่า “กูตบพวกมึง แล้วมึงจะทำไม มึงจะไปฟ้องอีกไหม กูตบแบบนี้ มึงจะฟ้องอีกไหม กูตบมาทุกรุ่น กูไม่เห็นใครมีปัญหา แน่จริงมึงไปฟ้องสิ เดี๋ยวมึงเจอกัน นี่กูปรานีมึงแล้ว ตอนนี้กูจะปล่อยมึงเมื่อไรก็ได้ เที่ยงคืนก็ได้ มึงจะเอาไหม” พร้อมทั้งถามต่อ “พวกมึงจะจบกันข้างในไหม” แต่ไม่มีใครกล้าโต้ตอบ

หลังจากนั้น ก็เดินนำออกมาด้านนอก ให้ญาติเซ็นรับตัวกลับบ้าน และได้เดินทางไปแจ้งความ ร.ต.ท.เจริญ เดชพ่วง ร้อยเวรสภ.มาบตาพุด ดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง และเดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลระยอง แพทย์ระบุว่า ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ กระดูกนิ้วมือนิ้วก้อยขวาหัก ปอดบวม พร้อมออกใบรับรองแพทย์ให้

ด้านนางวันเพ็ญ (นามสมมติ) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่งนั้นทำเกินกว่าเหตุ เพราะตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ว่า ผู้ที่พบฉี่สีม่วงนั้นเป็นผู้ป่วยนำไปฟื้นฟูรอการบำบัด ในโครงการคืนเด็กสู่อ้อมอกของพ่อแม่ ให้เป็นคนดีของสังคมต่อไป แต่การลงโทษนั้นรุนแรง ช่วงที่รอบำบัดนั้นไม่ได้ให้ทำอะไร ให้นั่งรอ และถูกทำโทษไปวันๆ ผู้ที่รอบำบัดที่เคยถูกเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่งทำลักษณะนี้มาแล้วแต่ไม่มีใครกล้าออกมาร้องเรียน หรือเอาความผิด จึงอยากให้สังคมรับทราบ และรับรู้ปัญหา และอยากให้เจ้าหน้าที่ควบคุมความประพฤติให้ติดตามผู้ป่วยฟื้นฟูให้จริงจัง เมื่อไม่มีเจ้าหน้าที่ฯ อยู่จะถูกผู้คุมที่โหดเหี้ยมทำร้ายร่างกายอย่างเช่นหลานทั้ง 3 คน และเตรียมเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมในเร็วๆ นี้

ด้านนายสุรทิน เถาว์ทิพย์ ผอ.ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง กล่าวว่า ผู้ป่วย ชื่อนายบอส ที่มีปัญหากับผู้คุม ซึ่งนายบอส มีโรคทางประสาท ชอบเอะอะโวยวาย สอบถามเจ้าหน้าที่ฯ ทราบว่า ต้องกินยากล่อมประสาทเป็นประจำ เจ้าหน้าที่ฯ จะได้นำยากล่อมประสาทไปให้พนักงานสอบสวน ส่วนอีก 2 ราย นั้นไม่ทราบว่าเข้าไปแจ้งความได้อย่างไร และไม่ทราบว่ามีปัญหากับเจ้าหน้าที่ฯ ตอนไหน ซึ่งทางทัณฑสถานเปิดห้วยโป่งจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และจะสอบสวนทางฝ่ายญาติ และเจ้าหน้าที่อีกครั้ง หากมีการร้องเรียนมาที่ตนโดยตรง
กำลังโหลดความคิดเห็น