ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ชาว อ.วังน้ำเขียวสุดทนลุกฮือรวมตัวต่อต้านการทำงานของ จนท.อุทยานฯ ทับลาน หลังนำกำลังพร้อมอาวุธสงครามบุกเข้าข่มขู่ชาวบ้านให้หยุดติดตั้งจานดาวเทียม อ้างเป็นเขตอุทยานฯ เผยชาวบ้านผวาหนักหวั่นถูกจับไม่เป็นอันทำมาหากิน วอนอุทยานฯ เห็นใจขอให้ชี้แนวเขตให้ชัดเจน ขณะ ผญบ.ม.5 ระบุลูกบ้านถูกแจ้งจับดำเนินคดีรุกป่าแล้ว 17 ราย ชี้ชาวบ้านเดือดร้อนจากการทำงานของ จนท.วอนรัฐบาลลงมาดูแลแก้ไขปัญหา
วันนี้ (24 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเทพพิทักษ์ เลขที่ 259 บ้านบุไผ่ หมู่ 5 ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ชาวบ้านบุไผ่ หมู่ 5 ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาจำนวนกว่า 50 คน นำโดย นายเล็ก คอยกิ่ง อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้านบุไผ่ ได้เดินทางมารวมตัวกันต่อต้านการทำงานของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน และเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานพร้อมอาวุธสงครามบุกเข้ามาข่มขู่ว่าให้หยุดดำเนินการติดตั้งจานดาวเทียม โดยระบุว่าเป็นเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน
น.ส.ดวงเดือน แซ่ลิ้ม อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านเทพพิทักษ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานจำนวน 7 นายพร้อมอาวุธสงครามสวมชุดเจ้าหน้าที่อุทยานฯ สีเขียว และบางคนสวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้า บุกเข้ามาขณะพนักงานของร้านจำหน่ายจานดาวเทียมเข้ามาติดตั้งจานดาวเทียม (จานดำ) ให้ตนเนื่องจากต้องการติดตามข่าวสารบ้านเมืองจึงว่าจ้างให้พนักงานของร้านมาติดตั้งให้ แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าจู่โจมและข่มขู่ว่าหากมีการติดตั้งจานดาวเทียมจะทำการจับกุมทันที เพราะตรงนี้เป็นพื้นที่ของอุทยานฯ และได้ทำการยึดไว้แล้วเรื่องอยู่ที่ศาล
โดยขู่จะจับกุมทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งตนและคนงานที่อยู่ด้วยกันรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเพราะไม่คาดคิดว่าแค่ติดตั้งจานดาวเทียม 1 จานจะเป็นเรื่องใหญ่โตถึงขั้นต้องนำกำลังพร้อมอาวุธสงครามเข้ามาที่บ้านของตนขนาดนั้น ถือว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐทำเกินกว่าเหตุมาก ทำให้ตนซึ่งเป็นประชาชนคนหนึ่งหวาดกลัว
ด้านนางนริศรา ใจจริง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 หมู่ 5 บ้านบุไผ่ ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา กล่าวว่า หลังจากที่ทางอุทยานฯ ทับลานมีการจับกุมบ้านพัก รีสอร์ต และชาวบ้านในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว สร้างความหวาดผวาให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่เป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่รู้ว่าวันหนึ่งจะเข้าไปบุกรุกเขตอุทยานฯ หรือไม่ เพราะที่อยู่กันมาตั้งแต่สมัยพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย จู่ๆ ก็ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ มาบอกว่าเป็นที่ของอุทยานฯ ทุกวันนี้ชาวบ้านไม่เป็นอันทำมาหากินเพราะเกรงว่าจะถูกจับกุมซึ่งไม่ทราบว่าแนวเขตอุทยานฯ อยู่ตรงไหนกันแน่ ส่วนคนที่ประกอบอาชีพขายสินค้า ผลผลิตการเกษตรต่างๆ ก็เดือดร้อนเพราะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียวเลย ขณะนี้ทุกคนเดือดร้อนกันไปหมด
“ฉะนั้นจึงอยากเรียกร้องผ่านสื่อมวลชนไปยังอุทยานแห่งชาติทับลาน และผู้ที่มีอำนาจสั่งการให้ดำเนินการปักปันเขตพื้นที่ของอุทยานฯ ให้ชัดเจนเพื่อชาวบ้านจะได้รู้ว่าพื้นที่ใดเป็นของอุทยานฯ และพื้นที่ใดที่ชาวบ้านอยู่ได้ ไม่ใช่ให้อยู่อย่างหวาดระแวงเหมือนทุกวันนี้ และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เองก็ไม่ควรถือปืนสงครามมาข่มขู่ชาวบ้านเพราะชาวบ้านไม่ได้ขัดขืนหรือต่อสู้อะไร กลับกลัวเจ้าหน้าที่ด้วยซ้ำ” นางนริศรากล่าว
ขณะที่นายเล็ก คอยกิ่ง ผู้ใหญ่บ้านบุไผ่ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านบุไผ่เดือดร้อนอย่างมากจากการปราบปรามจับกุมของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จากที่เคยอยู่กันอย่างสงบสุขขณะนี้ทุกคนไม่เป็นอันทำมาหากิน และอยู่อย่างหวาดระแวงเพราะถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจตราข่มขู่ตลอด และล่าสุดบ้านเทพพิทักษ์ของ น.ส.ดวงเดือน ซึ่งจะติดตั้งจานดาวเทียม ก็ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำกำลังพร้อมอาวุธสงครามมาข่มขู่โดยอ้างว่าจะจับกุมดำเนินคดี ทำให้ทุกวันนี้ชาวบ้านไม่กล้าออกไปทำกินเพราะไม่รู้ว่าสิ่งใดที่สามารถทำได้หรือทำไม่ได้ ซึ่งตนพยายามติดต่อกับทางอุทยานฯ ตลอดเพื่อแจ้งถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านบุไผ่ และอยากขอให้เจ้าหน้าที่ใช้ความละมุนละม่อมกับชาวบ้าน โดยขณะนี้มีชาวบ้านบุไผ่ หมู่ 5 ถูกทางอุทยานฯ แจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.วังน้ำเขียวมากถึง 17 รายแล้ว