นราธิวาส - เจ้าหน้าที่พบรถยนต์คาร์บอมบ์ที่วางระเบิดกลางเมืองสุไหงโก-ลก โจรใต้ได้ฆ่าเจ้าของที่ระแงะเมื่อปี 54 ซึ่งเชื่อมโยงกับแกนนำ RKK ในพื้นที่เจาะไอร้อง เป็นกลุ่มก่อเหตุในครั้งนี้
จากกรณีคนร้ายวางระเบิดคาร์บอมบ์หน้าบริษัทโปร คอมพิวเตอร์ แอนด์ โอเอ ไทยแลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า และโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (20 ก.ค.) ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าของบริษัท และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 8 รายนั้น
ล่าสุด จากการตรวจสอบหมายเลขแซสซี MPTFR 86H9T115889 รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีน้ำตาล ทะเบียน บต 9179 ปัตตานี ทำให้ทราบว่า รถคันดังกล่าวเป็นของนายฉลอง เนื้อนา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.6 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่คนร้ายได้ดักปล้น และยิงนายฉลองเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม พร้อมกับนายสงวน แก่นโพธิ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 341 ม.6 ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ย.54 ที่ผ่านมา บริเวณภายในหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 5 ม.9 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ขณะที่ทั้ง 2 คน ตระเวนเร่ขายเครื่องเฟอร์นิเจอร์ภายในหมู่บ้าน
ในส่วนของป้ายทะเบียน สย 6602 กทม. ที่คนร้ายใช้ติดรถยนต์คาร์บอมบ์นั้น เป็นของนายสุชาติ สุวรรณฉลวย อยู่บ้านเลขที่ 29 ถ.วิทูล 9 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ที่คนร้ายได้บุกยิงนายสุชาติ เสียชีวิตหน้าบ้านพัก เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.55 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะขโมยรถยนต์หลบหนีไปด้วย ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นสมาชิกแนวร่วมกองกำลังติดอาวุธ RKK ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับแล้ว เนื่องจากการเก็บปลอกกระสุนปืนไปตรวจสอบ ซึ่งตรงกับคนร้ายนี้ใช้ยิงผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งในพื้นที่ อ.เจาะไอร้องเสียชีวิต ประมาณกลางปี 54 แต่ต้องขอสงวนชื่อ และนามสกุล เกรงกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก, อ.สุไหงปาดี และ อ.เจาะไอร้องจะไหวตัวหลบหนี เจ้าหน้าที่เตรียมที่จะนำภาพบุคคลดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายในกล้องวงจรปิดว่าตรงกันหรือไม่ หากวงจรปิดสามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายได้ชัดเจน
ในส่วนของหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบในที่เกิดเหตุนั้น พบว่า มีหลักฐานสำคัญๆ อีกหลายรายการที่สามารถนำไปแกะรอย และเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ คือ ซิมของโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายใช้จุดชนวน ซึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุว่า เป็นของใครที่ได้ลงทะเบียนไว้ และคนร้ายใช้มือถือเบอร์ใดโทร.เข้ามาจุดชนวนระเบิด จนสร้างความเสียหายต่อบริษัทเป็นจำนวนนับ 10 ล้านบาทในครั้งนี้
ส่วนแหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อว่า จากการประเมินพฤติกรรมการลอบก่อเหตุของคนร้ายกลุ่มนี้ น่าจะเป็นกลุ่มของนายอาลาวุดดิน โซ๊ะโก ซึ่งเป็นหัวหน้า และมีนายนัสรี มือรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหลบหนีห้องขัง สภ.ตันหยง อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ม.ค.51 รวมทั้ง นายมูฮำหมัดสะกรี โซซิง ที่เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้มีแผนจะลอบก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส
จากกรณีคนร้ายวางระเบิดคาร์บอมบ์หน้าบริษัทโปร คอมพิวเตอร์ แอนด์ โอเอ ไทยแลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า และโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (20 ก.ค.) ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าของบริษัท และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 8 รายนั้น
ล่าสุด จากการตรวจสอบหมายเลขแซสซี MPTFR 86H9T115889 รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีน้ำตาล ทะเบียน บต 9179 ปัตตานี ทำให้ทราบว่า รถคันดังกล่าวเป็นของนายฉลอง เนื้อนา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.6 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่คนร้ายได้ดักปล้น และยิงนายฉลองเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม พร้อมกับนายสงวน แก่นโพธิ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 341 ม.6 ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ย.54 ที่ผ่านมา บริเวณภายในหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 5 ม.9 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ขณะที่ทั้ง 2 คน ตระเวนเร่ขายเครื่องเฟอร์นิเจอร์ภายในหมู่บ้าน
ในส่วนของป้ายทะเบียน สย 6602 กทม. ที่คนร้ายใช้ติดรถยนต์คาร์บอมบ์นั้น เป็นของนายสุชาติ สุวรรณฉลวย อยู่บ้านเลขที่ 29 ถ.วิทูล 9 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ที่คนร้ายได้บุกยิงนายสุชาติ เสียชีวิตหน้าบ้านพัก เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.55 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะขโมยรถยนต์หลบหนีไปด้วย ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นสมาชิกแนวร่วมกองกำลังติดอาวุธ RKK ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับแล้ว เนื่องจากการเก็บปลอกกระสุนปืนไปตรวจสอบ ซึ่งตรงกับคนร้ายนี้ใช้ยิงผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งในพื้นที่ อ.เจาะไอร้องเสียชีวิต ประมาณกลางปี 54 แต่ต้องขอสงวนชื่อ และนามสกุล เกรงกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก, อ.สุไหงปาดี และ อ.เจาะไอร้องจะไหวตัวหลบหนี เจ้าหน้าที่เตรียมที่จะนำภาพบุคคลดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายในกล้องวงจรปิดว่าตรงกันหรือไม่ หากวงจรปิดสามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายได้ชัดเจน
ในส่วนของหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบในที่เกิดเหตุนั้น พบว่า มีหลักฐานสำคัญๆ อีกหลายรายการที่สามารถนำไปแกะรอย และเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ คือ ซิมของโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายใช้จุดชนวน ซึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุว่า เป็นของใครที่ได้ลงทะเบียนไว้ และคนร้ายใช้มือถือเบอร์ใดโทร.เข้ามาจุดชนวนระเบิด จนสร้างความเสียหายต่อบริษัทเป็นจำนวนนับ 10 ล้านบาทในครั้งนี้
ส่วนแหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อว่า จากการประเมินพฤติกรรมการลอบก่อเหตุของคนร้ายกลุ่มนี้ น่าจะเป็นกลุ่มของนายอาลาวุดดิน โซ๊ะโก ซึ่งเป็นหัวหน้า และมีนายนัสรี มือรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหลบหนีห้องขัง สภ.ตันหยง อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ม.ค.51 รวมทั้ง นายมูฮำหมัดสะกรี โซซิง ที่เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้มีแผนจะลอบก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส