พระนครศรีอยุธยา - รองจเรตำรวจลงพื้นที่เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนพระนครศรีอยุธยา พร้อมสเก็ตซ์ภาพคนร้ายปล้นรถขนเงิน สั่งไล่ล่ารถเก๋งต้องสงสัย ดูต้นทาง มั่นใจตำรวจจับคนร้ายได้แน่
เมื่อเวลา 15.00 น.วานนี้ (23 ก.ค.) พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ รอง จเรตำรวจ (สบ.7 ) ปฏิบัติราชการ ภ.1พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เรียกประชุมนายตำรวจตั้งแต่ รอง ผบก. ผกก.ชุดสืบสวน ภ.จ.และชุดสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อหาเบาะแสคนร้ายรวมทั้งสเก็ตซ์ภาพคนร้ายตามที่พยานเห็นเหตุการณ์ พร้อมทั้งเตรียมออกหมายจับคนร้ายคดีพยายามชิงทรัพย์รถขนเงิน ร่วม 1 ชั่วโมงก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุที่คนร้าย 2 คนพยายามบุกชิงเงินจากรถขนเงิน
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.33 น.ของวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.โกศล ภาคาหาญ พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายบุกชิงรถขนเงินที่บริเวณอาคารพาณิชย์เลขที่ 139 ริมถนนโรจนะ หมู่ 3 ต.ไผ่ลิง เป็นที่ตั้งของบริษัทสยาม แอดมินนิสเทรทีฟ แมเนจเม็นท์ จำกัด หรือบริษัทขนเงิน แซมโก้ (SAMCO) จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด รองผบก.ฯ พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.สส.ภ.จว.ฯ พ.ต.อ.ชัยณรงค์ สมเพราะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.พิชา รุจินาม รองผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่ใจกลางเมืองอยุธยาพบนายอาคม คมคาย อายุ 23 ปีอยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 3 ต.บางชะนี อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกับนายชูชาติ รุ่งสว่าง อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ.ซึ่งทั้งสองคนรอดตายยืนตกใจภายในอาคาร นายอาคม เล่าเหตุการณ์ระทึกขวัญว่า ตนเข้าเวรตั้งแต่ 07.00 น.-19.00 น.ตนกำลังจะออกเวรพอดีรถขนเงินยี่ห้อโตโยต้า สีขาวหมายเลขทะเบียน ฒท-9274 กรุงเทพมหานครภายในมีเงินอยู่ 10 กว่าล้านบาทกลับมาจากเก็บเงินธนาคารที่เทสโก้โลตัสสาขาอยุธยา
โดยมีนายวรยุทธ นิมา อายุ 30 ปีเป็นคนขับและนายเฉลิมพล ชนะเพลง อายุ27 ปีนั่งคู่ข้างคนขับกำลังถอยหลังเข้าในอาคารพาณิชย์ตนจึงปิดประตูเหล็กม้วนลง ขณะเดียวกันมีคนร้ายจำนวน 2 คน แต่งชุดดำสวมหมวกกันน็อคสีดำเปิดประตูขึ้นแล้วเอาปืนจ่อที่เอวตนตนจึงวิ่งไปหลบหลังรถขนเงินจากนั้นคนร้ายจึงยิงใส่รถขนเงินจำนวนหลายนัด กระสุนถูกกระจกบานหน้าจำนวน 4 นัดแต่โชคดีที่เป็นกระจกกันกระสุนแค่เป็นรอยร้าว และยิงยางล้อด้านซ้ายแตก
นายวรยุทธ คนขับรถจึงตัดสินใจเร่งเครื่องยนต์พุ่งออกไปจากอาคารแล้วหลบหนีไปป้อมตำรวจ บริเวณตลาดแกรนด์ ต.ธนู อ.อุทัย จากนั้นคนร้ายจึงหันกระบอกปืนยิงใส่นายชูชาติ เจ้าหน้าที่รปภ.แต่กระสุนด้านคนร้ายจึงเดินออกจากอาคารพานิชย์พบรถขนเงินคันที่2 ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฒท-9272 กรุงเทพมหานคร โดยมีนายอดิศร นิงศิริ อายุ 35 ปีเป็นคนขับนายเฉลิมชัย จุลอำพัน อายุ 33 ปีนุ่งคู่คนขับขนเงินมากว่า 17 ล้านบาทกลับมาถึงหน้าอาคารคนร้ายจึงใช้ปืนยิงใส่แต่กระสุนพลาดเป้าถูกกระทะล้อรถ คนร้ายจึงวิ่งหลบหนีไปทางเจดีย์วัดสามปลื้ม แล้วถอดเสื้อแจ็คเก็ตพร้อมหมวกกันน็อคออกทิ้งไว้ใต้สะพานดุสิตแล้วขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนี
นายเชาวลิต ค้าแหวน อายุ 30 ปีหนุ่มมอเตอร์ไซด์รับจ้างบอกว่า คนร้าย 2 คนมีลักษณะคนแรกอ้วนขาว คนที่ 2 ผอม ตัดผมรองทรงเดินมาว่าจ้างให้ไปส่งที่ตลาดน้ำอโยธยาพอถึงที่แต่ไม่เข้ากลับให้จอดที่ฝั่งตรงข้ามแล้วให้ค่าโดยสารมา 20 บาทตนไม่ทราบว่าเป็นโจรพอกลับมาที่วินมีเพื่อนๆมาบอกว่ารถขนเงินถูกปล้นจึงรู้ว่าเป็นคนร้าย
เจ้าหน้าที่ตำรวจพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 9 ปลอกตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และเสื้อพร้อมหมวกกันน็อคของคนร้ายทิ้งไว้ใต้สะพานดุสิตพร้อมภาพจากกล้องวงจรปิดของบริษัทบันทึกเหตุการณ์คนร้ายเข้าชิงทรัพย์จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.ชัยณรงค์ สมเพราะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า บริษัทขนเงินดังกล่าวมาตั้งอยู่ในพื้นที่โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทราบไม่เคยมีการประสานให้ดูแลความปลอดภัยโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิตและไม่ได้ทรัพย์สินไป จากการตรวจสอบคาดว่าคนร้ายต้องการชิงทรัพย์โดยยิงเป้าหมายคือคนขับรถแต่ติดกระจกกันกระสุนจึงหันไปยิงยางรถแต่คนขับไหวตัวทันเร่งเครื่องหลบหนีไปได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตามสอบพยานและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี พบแล้วหลายจุดคาดว่าติดตามจับตัวคนร้ายได้เร็วๆนี้
แหล่งข่าวจากชุดสืบสวนเปิดเผยอีกว่า มีพยานรายหนึ่งระบุว่า คนร้ายทั้ง 2 คนได้มาซุ่มอยู่บริเวณใต้สะพานลอยคนข้ามตั้งแต่เวลา 17.00 น.และยังมีการจุดยากันยุงเพื่อรอเวลา จนกระทั่งเวลา 19.30 น.รถขนเงินได้นำเงินเก็บที่บริษัท คนร้ายจึงลงมือก่อเหตุ แต่พนักงานไม่ยอมลงจากรถคนร้ายจึงใช่อาวุธปืนยิงใส่แต่เป็นกระจกนิรภัย กระสุนจึงไม่เข้า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายที่ติดอยู่ที่หมวกกันน็อกแล้ว รวมถึงมีการตรวจหาดีเอ็นเอเอาไว้ด้วย โดยพยานหลายปากระบุตรงกันว่าคนร้ายสองคนมีรูปร่างอ้วนและสูงโปร่ง ใจเย็นหลังจากก่อเหตุเดินอย่างใจเย็น
นายทรงพล เสยยงคะ ผู้อำนวยการบริหารระบบการจัดการเงินตราและขนส่งนิรภัย บริษัทสยามแอดมินนิสเทรทีฟแมนเนจ เม้นท์ คอมพานี จำกัด (แซมโก้) เปิดเผยว่า ตามแนวทางการสืบสวนของตำรวจและบริษัทสอดคล้องกันว่าคนร้ายน่าจะมีการวางแผนมาเพื่อจะชิงเงินดูแล้วคนร้ายไม่น่าจะมาเพียงแค่ 2 คน ตำแหน่งที่ยิงใส่รถขนเงินเป็นจุดที่คนร้ายยิงตรงๆประสงค์ต่อชีวิตดีที่รถขนเงินใช้กระจกนิรภัยปกติได้ฝึกอบรมพนักงานขนเงินอยู่บ่อยครั้งและได้กำชับตลอดเวลา หากมีเหตุฉุกเฉินอย่าเปิดประตูรถออกพยามยามหาจังหวะขับรถหนีให้ได้แม้ว่ารถขนเงินของบริษัทจะมีประกันอยู่ก็ตามซึ่ง ซึ่งคนขับรถและพนักงานทั้ง 2 คันทางบริษัทขอชมเชยที่ไหวพริบและสมาธิดี ทางบริษัทจะพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ
ส่วน รปภ.ทั้ง 2 คน ได้ปฎิบัติหน้าที่เป็นปกติความจริงบริษัทอนุญาตให้พกอาวุธปืนได้ แต่วันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ รปภ.ทั้งสองคนไม่ได้เบิกอาวุธปืนติดตัว และมั่นใจว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้.
