ประจวบคีรีขันธ์ - ชาวประมงพบเต่าตนุติดอวน ตรวจสอบพบชิปของศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง สุขภาพแข็งแรง ก่อนปล่อยลงสู่ทะเล
วันนี้ (17 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง ได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านหมู่ 1 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า พบเต่าติดอวนของชาวประมง มีอาการอ่อนล้า จึงนำขึ้นมาอนุบาลไว้ที่ธนาคารปูของสมาคมประมงพื้นบ้านคลองวาฬ
ต่อมา นายปราโมทย์ ฉิมหาด เจ้าหน้าที่งานประมงชำนาญงาน กลุ่มวิจัยสัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลางจังหวัดชุมพร ได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกล่าวภายหลังว่า จากการตรวจสอบพบว่า เป็นเต่าตนุ อายุประมาณ 2-3 ปี ยังไม่แสดงเพศเพราะยังไม่โตเต็มวัย น้ำหนัก 8 กิโลกรัม ขนาดความกว้างกระดอง 39 เซนติเมตร ยาว 48 เซนติเมตร
“ที่สำคัญคือ เราจะต้องมีการตรวจชิปที่โคนขาด้านซ้ายของเต่า จากนั้นจะนำไปตรวจสอบว่าเต่าถูกปล่อยมาจากศูนย์วิจัยที่ จ.ชุมพร ระยอง หรือ จ.สงขลาต่อไป สำหรับสุขภาพของเต่าตนุมีอาการดี แข็งแรง ได้ให้วิตามินเสริมแก่เต่า ก่อนปล่อยลงสู่ทะเล ส่วนสาเหตุที่เต่าติดอวนก็เพราะออกมาหากิน เนื่องจากบริเวณนี้เคยเป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร”
นายถนอม มานะ อายุ 56 ปี ชาวประมงกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านเคยพบเต่าหลายชนิด เพื่อมาหาอาหาร และวางไข่ แต่หลังจากที่เริ่มมีสิ่งปลูกสร้างริมทะเลมากขึ้น ประกอบกับการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น และการทิ้งน้ำเสีย ทำให้ระบบนิเวศขาดความอุดมสมบูรณ์ จนสัตว์หายากเหล่านี้หายจากน่านน้ำทะเลคลองวาฬเกือบ 10 ปี ส่วนที่เต่าตัวนี้มีชีวิตรอดได้ก็เนื่องจากชาวประมงช่วยกันนำมาอนุบาลที่ธนาคารปู จึงฝากไปยังชาวประมงรายอื่นๆ ที่จับสัตว์หายากได้ให้ช่วยกันนำมาดูแลบริเวณสถานที่ของสมาคมประมงพื้นบ้านคลองวาฬ เพื่อช่วยเพิ่มสัตว์น้ำในท้องทะเลให้มีมากขึ้น
นางสมหญิง ศิริวรรณ ชาวบ้านชุมชนปากคลองวาฬ กล่าวว่า หลังจากที่เจอเต่าติดอวนแมงดาบริเวณน่านน้ำทะเลคลองวาฬ ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันนำมาอนุบาลที่ธนาคารปูของสมาคมประมงพื้นบ้านคลองวาฬ ตั้งแต่ช่วงค่ำพบว่า เต่ามีอาการอ่อนล้า เนื่องจากติดอวน และพยายามดิ้นให้หลุดจากตาข่าย แต่หลังจากที่ช่วยกันนำมาใส่ถังน้ำทะเล และเพิ่มออกซิเจนในน้ำ จนช่วงเช้าอาการเต่าดีขึ้น