เพชรบุรี - ตำรวจนำตัว 1 ในคนร้ายก่อเหตุปล้นปั๊มน้ำมันมาแถลงข่าวและทำแผน รับสารภาพร่วมกับพวกอีก 2 คนเป็นชาวจังหวัดราชบุรีโดยหาเงินไปวิ่งเต้นคดีถูกจับอาวุธปืน
วันนี้ (13 ก.ค.) พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 แถลงผลการจับกุมตัวนายบอย นามสมมุติ อายุ 17 ปี วัยรุ่นใน ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกับพวกก่อเหตุปล้นปั๊มน้ำมัน ปั๊มบางจากสาขาอำเภอเขาย้อย ปั๊มพีทีเขตอำเภอเมืองเพชรบุรีและปั๊มพีทีเขตอำเภอท่ายาง เมื่อกลางดึกวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังถูกตำรวจชุด พ.ต.อ.สุวัฒน์ สุวรรณนิกขะ ผกก.สภ.ท่ายาง พร้อมด้วย พ.ต.ท. ประสิทธิ์ เพชรศรี สวป.สภ.ท่ายาง พ.ต.ท.สินทร ไชยรบ สารวัตรสืบสวน สภ.ท่ายาง นำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ที่บริเวณกระต๊อบไม่มีเลขที่ ซึ่งปลูกอยู่ใกล้เคียงกับสำนักงานเขตป่าไม้ชายหาดชะอำ
พล.ต.ต.โสภณ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายร่วมกับเพื่อนอีกสองคน ทราบชื่อต่อมาคือนายสุริยา แก้วระเวง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 ม.11 ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี และนายฉัตรชัย กุลสนาวงศ์ อายุ29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 ม.11 ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี ลูกจ้างขับเรือบาน่านาโบส ชายหาดชะอำ ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีส้มดำ หมายเลขทะเบียน กมว 612 เพชรบุรี และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาวดำ หมายเลขทะเบียน กษข 459 เพชรบุรี ร่วมกันก่อเหตุตะเวนปล้นชิงทรัพย์ภายในปั้มน้ำมัน 3 แห่งในคืนเดียวกัน โดยได้ทรัพย์สินรวม 25,300 บาท
จากนั้นนำมาแบ่งกันเพื่อใช้หนี้เรื่องวิ่งเต้นคดีความหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แห่งหนึ่งจับกุมคดีพกพาอาวุธปืนเมื่อก่อนหน้านั้น โดยตนเองได้เงินมาเพียง 5,300 บาท ทั้งนี้รถคันที่ใช้ก่อเหตุที่ผู้เสียหายเห็นว่าเป็นหมายเลขทะเบียน กมว 812 นั้น ได้ใช้สติ๊กเกอร์สีดำติดเพิ่มให้เป็นเลข 8 เพื่ออำพรางค์หมายเลขทะเบียน
จากนั้น พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.วิรัช วัชรขจร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พ.ต.อ.วิฑูรย์ พละสาร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบุรีพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุภายในปั๊มน้ำมันพีที ของบริษัทปิโตเลียมไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด สาขาหัวสะพาน อ.เมืองเพชรบุรี โดยลักษณะการก่อเหตุคนร้ายทั้ง 3 คน ใช้ผ้าเช็ดหน้าสีขาวโพกปิดบังใบหน้าและสวมหมวกแก๊ป ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปเติมน้ำมัน 80 บาท ซึ่งขณะกำลังเติมน้ำมันอยู่นั้น นายฉัตรชัย หนึ่งในคนร้ายที่กำลังหลบหนีจะชักอาวุธปืนออกมาขู่พร้อมกับให้เพื่อนผู้ร่วมก่อเหตุไปหยิบกระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในลิ้นชัก แล้วพากันหลบหนีเพื่อไปก่อเหตุซ้ำอีกในคืนเดียวกัน
