สสจ.กาญจน์ ยันโรคปากเท้าเปื่อยระบาดเป็นชนิดไม่รุนแรง

กาญจนบุรี - สสจ.กาญจนบุรี ยันโรคปากเท้าเปื่อยระบาดที่กาญจน์เป็นชนิดไม่รุนแรง ต่างจากไวรัสชนิดเอนเทอโรไวรัส 71 ที่ระบาดในเขมร เร่งฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ รวมทั้งล้างทำความสะอาดห้องเรียน และอุปกรณ์เด็กเล่นทุกชิ้นก่อนเปิดเรียน

ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่งานป้องกันควบคุมโรคติดต่อ กลุ่มงานเวชกรรมสังคม รพ.พหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี และคณะครูผู้ดูแลเด็กได้ตรวจพบเด็กอายุประมาณ 2 ปีเศษ 4 ราย ป่วยเป็นโรคปากเท้าเปื่อย และอีก 1 ราย ป่วยเป็นไข้ตัวร้อน ซึ่งเด็กทั้งหมดอยู่ในห้องเรียนเดียวกัน โดยหลังจากตรวจพบโรคดังกล่าว จึงประสานผู้ปกครองเด็กทั้งหมดมารับตัวกลับบ้านทันที จากนั้น จึงได้สั่งปิดศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) ที่มีเด็กทั้งหมด 155 คน เป็นเวลา 7 วัน เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น.เมื่อวานนี้ (9 ก.ค.) ที่บริเวณศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ต่อมา มื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (10 ก.ค.) นายแพทย์อภิชาติ รอดสม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ เด็กที่มารักษาที่โรงพยาบาลพหลฯ มีทั้งหมด 5 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาตรวจหาเชื้อไวรัสตั้งแต่วานนี้ ซึ่งจากการตรวจพบว่า มีเด็ก 4 รายป่วยเป็นโรคปากเท้าเปื่อย เนื่องจากติดเชื้อคอกซากี้ ไวรัส ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดที่ไม่รุนแรง

ส่วนอีกหนึ่งรายพบป่วยเป็นไข้ตัวร้อนธรรมดา แต่อย่างไรก็ตาม เด็กทั้งหมดผู้ปกครองได้รับกลับไปพักผ่อนที่บ้านหมดแล้ว และเราได้แนะนำให้ปิดศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ดังกล่าวเป็นเวลา 7 วัน ส่วนในช่วงเช้าที่ผ่านมา สาธารณสุขจังหวัด เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพหลฯ รวมทั้งสาธารณสุขเทศบาลเมืองกาญจนบุรี และคณะครูผู้ดูแลเด็กได้ร่วมกันฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ รวมทั้งล้างทำความสะอาดห้องเรียน และอุปกรณ์เด็กเล่นทุกชิ้น รวมทั้งแก้วน้ำดื่มทั้งหมด ซึ่งคงใช้เวลาในการทำความสะอาดตลอดทั้งวัน

ทั้งนี้ เชื้อไวรัสที่พบในเด็ก 4 รายนั้น เรียกว่าคอกซากี้ ไวรัส เป็นไวรัส ติดต่อได้ทางเสมหะ หรือสัมผัสสิ่งของ เป็นเชื้อไวรัสที่ไม่รุนแรง ไม่สามารถทำให้เด็กนั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งต่างจากเชื้อไวรัสชนิดเอนเทอโร ไวรัส 71 ที่กำลังระบาดในประเทศเขมร และทำให้เด็กที่ติดเชื้อนั้นเสียชีวิตไปแล้วจำนวนมาก เนื่องจากเชื้อไวรัสชนิดดังกล่าวสามารถติดต่อทางเดินหายใจได้และมันจะลามไปทำลายสมองของเด็ก และจะทำให้เสียชีวิตได้ภายใน 7 วัน โดยเฉพาะเด็กที่สุขภาพไม่แข็งแรง หรือขาดสารอาหาร

ในส่วนการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสตามแนวชายแดนไทย-พม่า ขณะนี้ ไม่พบการแพร่ระบาดแต่อย่างใด ซึ่งเราได้เฝ้าระมัดระวังเป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนไปยังผู้ปกครองของเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 5 ปีลงมา ให้ดูแลสุขภาพของบุตรหลานอย่างใกล้ชิดและล้างมือก่อนรับประทานอาหาร และหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง ส่วนอาหารก็ควรปรุงให้สุก และรับประทานขณะที่ร้อนอยู่ ซึ่งจะเป็นการป้องกันการติดเชื้อได้เป็นอย่างดี

ด้าน น.ส.สุรางค์ ไสหุต ครูผู้ดูแลเด็กศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) กล่าวว่า ที่ศูนย์ของเรามีเด็กทั้งหมด 155 คน รวม 5 ห้องเรียน หลังจากเจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดศูนย์ชั่วคราวเป็นเวลา 7 วัน เนื่องจากมีเด็กป่วยเป็นโรคปากเท้าเปื่อย ทั้งนี้ คณะครูผู้ดูแลที่มีทั้งหมด 11 คน ต่างก็เดินทางมาที่ศูนย์ตามปกติ เพื่อมาช่วยกันดูแลทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสาธารณสุข

“โดยในฐานะที่เป็นครูผู้ดูแลเด็ก มีความเป็นห่วงเด็กที่ป่วยทุกคน แต่ทราบจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขว่า เด็กไม่มีอาการรุนแรงมาก และอีกไม่กี่วันก็คงหายเป็นปกติ ซึ่งต่างจากโรคปากเท้าเปื่อยที่กำลังระบาดในประเทศเขมร ก็ทำให้ทุกคนโล่งใจไปตามๆ กัน”