ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ม็อบเชียงดาวปิดทางหลวงสาย 107 ยอมสลายตัวแล้ว หลัง รมว.คมนาคมมาพบผู้ชุมนุมด้วยตัวเอง พร้อมเป็นพยานในการลงนามข้อตกลงร่วมแก้ปัญหา สรุปให้โอกาสผู้รับเหมาเร่งดำเนินการต่อให้เสร็จภายใน 2 เดือน โดยมีจังหวัด-ชาวบ้านร่วมติดตามความก้าวหน้า หากผ่านกำหนดยังไม่เสร็จเตรียมยกเลิกสัญญาพร้อมดึงกรมทางหลวงรับผิดชอบทำแทน
ประชาชนจาก อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งทำการชุมนุมปิดทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 63-64 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้ยินยอมยุติการชุมนุมแล้วเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (5 ก.ค.) หลังจากที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมารับข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยตนเองตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้อง
นายจารุพงศ์ ซึ่งอยู่ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่ จ.แม่ฮ่องสอน ได้เดินทางมาพบกลุ่มผู้ชุมนุมหลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมาปิดถนนในเส้นทางดังกล่าวเพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาการก่อสร้างถนนบนเส้นทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝางช่วงผ่าน อ.เชียงดาว ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ที่มีความล่าช้ามานานกว่า 7 ปี ยืนยันว่าต้องการพบนายจารุพงศ์เท่านั้น
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง พร้อมทั้งปฏิเสธที่จะทำข้อตกลงกับคณะเจรจาชุดแรกที่มีหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายธานินทร์ สมบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ ซึ่งเดินทางมาเจรจากับชาวบ้านก่อนหน้านี้
ภายหลังจากนายจารุพงศ์เดินทางมาถึงสถานที่ชุมนุมในเวลาประมาณ 17.00 น. ได้มีการนำข้อตกลงที่ชาวบ้านร่วมกันร่างขึ้น ระหว่างตัวแทนชาวบ้าน กรมทางหลวง ผู้รับเหมา และ จ.เชียงใหม่ ซึ่งระบุว่าจะเปิดโอกาสให้ผู้รับเหมาเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามสัญญาภายในเดือน ส.ค. หรือให้เวลาอีก 2 เดือนในการดำเนินการ แต่หากบริษัทผู้รับเหมาไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะมีการแจ้งขอยกเลิกสัญญาโดยจะให้กรมทางหลวงเป็นผู้เข้ามารับผิดชอบเข้ามาดำเนินการแทน
แต่ละสัปดาห์ก็จะให้จังหวัดตรวจสอบ โดยการดำเนินการก่อสร้างในแต่ละสัปดาห์จะต้องเปิดให้จังหวัดเข้าตรวจสอบความก้าวหน้า ซึ่งโดยกำหนดให้แต่ละช่วงงานมีความคืบหน้าไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 จนกระทั่งแล้วเสร็จ พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนได้ทราบโดยตลอด รวมถึงให้ชาวบ้านเข้าร่วมตรวจสอบด้วย
จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งมีท่าทีพอใจกับข้อเสนอและการเดินทางมาของนายจารุพงศ์ จึงได้ร่วมลงนามในหนังสือข้อตกลงร่วมกัน โดยมีนายจารุพงศ์เป็นพยาน ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะรื้อถอนเต็นท์และสิ่งกีดขวางออกจากถนน และสลายการชุมนุมในเวลาประมาณ 18.00 น.
การชุมนุมปิดถนนของประชาชนในพื้นที่ อ.เชียงดาว และอำเภอใกล้เคียงบนทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝางในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากการที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างถนนช่วงที่ผ่าน อ.เชียงดาว ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตรไม่แล้วเสร็จตามสัญญา และมีการทิ้งงานจนทำให้สภาพถนนเสียหาย โดยบริษัทสหมิตร อินเตอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้รับเหมา ซึ่งเริ่มดำเนินการตามสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2548 เป็นต้นมา และที่ผ่านมามีการต่อสัญญาไปแล้วถึง 8 ครั้ง แต่การก่อสร้างถนนช่วงดังกล่าวก็ยังไม่แล้วเสร็จจนถึงปัจจุบัน อ้างว่าบริษัทประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินทำให้ไม่สามารถก่อสร้างถนนให้แล้วเสร็จตามสัญญาได้
ขณะที่ถนนช่วงดังกล่าวซึ่งคงเหลือระยะทางที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จประมาณ 5 กิโลเมตร และในปัจจุบันมีสภาพชำรุดทรุดโทรมนั้นได้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ทั้งจากปัญหาด้านการสัญจรไปมาที่ยากลำบาก และการเกิดอุบัติเหตุบนถนนเส้นดังกล่าวขึ้นหลายครั้งจนทำให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตไปแล้วหลายราย